วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

โฆษกองค์การพิทักษ์สยาม ฟุ้งม็อบล้มรัฐบาลปู 24 พย. ถึง 500,000 คนแน่ วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 14:55 น. ข่าวสดออนไลน์



โฆษกองค์การพิทักษ์สยาม ฟุ้งม็อบล้มรัฐบาลปู 24 พย. ถึง 500,000 คนแน่

วันที่ 15 พ.ย. ที่สนามม้านางเลิ้ง พล.อ.อ.วัชระ ฤทธาคนี โฆษกองค์การพิทักษ์สยาม แถลงข่าวว่า พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ยืนยันว่าไม่มีเจตนารมณ์ที่จะทำให้การชุมนุมยืดเยื้อ หรือมีการดำเนินการต่อ หากในวันที่ 24-25 พ.ย. นั้นไม่สามารถที่จะทำให้การบริหารราชการแผ่นดินของรับบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยุติได้ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าทนายความชมรมผู้รักความเป็นธรรม ยื่นหนังสือต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญให้ตรวจสอบกรณีการดำเนินการของพล.อ.บุญเลิศ เข้าข่ายข้อหากบฏ ล้มล้างการบริหารราชการของรัฐบาล และให้ดำเนินการออกคำสั่งให้ พล.อ.บุญเลิศ ยุติบทบาทการนัดชุมนุม นั้นขอเรียนว่าองค์การพิทักษ์สยาม และภาคีเครือข่ายที่ปรารถนาให้รัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยุติการบริหารราชการแผ่นดินนั้น เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 63 และไม่มีความคิดที่จะล้มล้างรัฐบาล เพราะปัจจุบันนี้มีคนเบี่ยงเบนว่าองค์การพิทักษ์สยามจะล้มรัฐบาล โดยจะอาศัยรัฐธรรมนูญมาตรา 68 มาเป็นเครื่องมือ

โฆษกองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวต่อว่า ตามที่ได้ยินจากพล.อ.บุญเลิศ แล้วนั้นการชุมนุมเป็นการยุติพฤติกรรมของนักการเมือง พรรคการเมือง ที่อยู่ในรัฐบาล รัฐสภา ที่มีเจตนาจะทำให้รับประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขนั้นมีลักษณะเป็นเผด็จการรัฐสภา เป็นเผด็จการอันเกิดมาจากกลุ่มชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนปช. ของคนเสื้อแดงต่างๆ ก็ดี ซึ่งได้ใช้คนเหล่านี้เข้ามากดดันประชาชนคนอื่นให้ไม่กล้าแสดงถึงเสรีภาพที่เขาทั้งหลายมีอยู่ในรัฐธรรมนูญมาตรา 63 ฉะนั้นขอยืนยันว่าวัตถุประสงค์ของอพส. ไม่เกี่ยวข้องกับการกบฏทั้งสิ้น

พล.อ.อ.วัชระ กล่าวว่า “ขณะนี้มีเครือข่ายที่ต้องการเข้าร่วมการชุมนุมกับองค์การพิทักษ์สยามที่ชัดเจนแล้วมีดังนี้ 1.เครือข่ายสมัชชาเกษตรกรรายย่อยทั่วประเทศ ซึ่งแค่กลุ่มละ 500 คน ก็มากมายเป็นพลังมหาศาลแล้ว 2.สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทุกสหภาพ ที่ตกลงใจมาชุมนุมด้วยแล้ว 3.กลุ่มแนวร่วมกลุ่มปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศที่แจ้งผ่านผู้ประสานงานมาแล้วเช่นกันว่ามาแน่นอน 4.กลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน ซึ่งกลุ่มนี้มีการลงทะเบียนชัดเจน มีตัวตนจริงตามบัตรประชาชนจำนวน500,000คน  5.กลุ่มคนจากการติดต่อทางเครือข่ายโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค 6.กลุ่มคนที่เป็นผู้เข้าชุมนุมโดยอิสระ ที่ไม่เคยชุมนุมที่ไหนมาก่อน โดยเขาจะมีการติดต่อกันเอง”

พล.อ.อ.วัชระ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการสกัดกั้น ตั้งด่านนั้นก็เป็นเรื่องของตำรวจและผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ในรัฐธรรมนูญ หมวดที่ 4 หน้าที่ของชนชาวไทย มาตรา 74 ระบุไว้ชัดเจนว่าให้เจ้าหน้าที่ของรัฐอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ต้องการรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งก็ชัดเจนว่าการที่ประชาชนเรือนแสนจะมาชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.นั้นจึงเป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกหน่วย จะต้องอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนจากทุกจังหวัดที่จะเดินทางเข้ามาชุมนุม ทั้งนี้เรื่องการรักษาความปลอดภัยนั้น ได้มีการหารือกันและกำหนดตัวบุคคล กำหนดกลุ่มมีสายบังคับบัญชาที่ชัดเจน ซึ่งคนกลุ่มนี้มีความชำนาญจากประสบการการชุมนุมก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นกลุ่มรักษาความปลอดภัยของกองทัพธรรม ที่ได้ทำการรักษาความปลอดภัยหลายครั้งและต่อเนื่อง มีความชำนาญมีความอดทนสูง และยืนยันว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมโดยสันติ ไม่มีนโยบายที่จะทำให้เกิดความรุนแรง และเจ้าหน้าที่รักษาความปลดอภัย ไม่มีการพกพาอาวุธใดๆทั้งสิ้น หากพบก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้ามารักษาความสงบยุติความรุนแรง หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดำเนินการก็จะมีการถ่ายรูปไว้ เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินการกับตำรวจที่ละเลยหน้าที่

พล.อ.อ.วัชระ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้องค์การพิทักษ์สยามจะมีการยื่นหนังสือถึงองค์การสหประชาชาติ และสถานทูตต่างๆ เท่าที่จะทำได้ หรือหากมีการปฏิเสธจากสถานทูตไม่รับหนังสือ เช่นกรณีที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยไม่รับหนังสือ กรณีที่มีผู้ไปยื่นเกี่ยวกับออกวีซ่าให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาหาแนวทางเช่นการส่งทางไปรษณีย์ หรือ ช่องทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก เป็นตัวหนังสือ ซึ่งจะถึงทุกสถานทูต และจะแจกจ่ายต่อสื่อมวลชน ซึ่งเนื้อหาจะแสดงให้เป็นว่าการชุมนุมเป็นการชุมนุมโดยสันติปราศจากอาวุธ ไม่ยึดสถานที่ทางราชการใดใดรวมถึงสนามบินด้วย ไม่เคลื่อนที่ และไม่มีกิจกรรมใดๆ ที่จะทำให้การดำเนินการขององค์การนานาชาติ องค์การต่างชาติ ธุรกิจต่างชาติ รวมถึงการท่องเที่ยวมีผลกระทบ ทุกอย่างยังสามารถดำเนินการได้อย่างปกติ ทั้งนี้จะเร่งดำเนินการประสานเพื่อข้าเข้ายื่นหนังสือไปยังสถานที่ข้างต้นต่อไป และสิ่งที่จะเกิดขึ้นอาจจะเป็นผลดีต่อการดำเนินการของนานาชาติ เพราะทุกอย่างจะโปร่งใส มีการดำเนินการการค้าอย่างเสรี ไม่มีการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะอีกต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น