วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สรุปข่าวในประเทศและข่าวต่างประเทศ 27/11/2555



สรุปข่าวในประเทศ 27/11/2555
๑.นรม.ยืนยันโครงการรับจำนำข้าวเกษตรกรได้ประโยชน์
    น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นรม. ชี้แจงว่า โครงการรับจำนำข้าวถือเป็นทางเลือกของเกษตรกร และโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดจะช่วยรักษาเสถียรภาพ พร้อมมอบให้ พณ. ระบายข้าวอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส และจะต้องไม่ขาดทุนมากกว่าการประกันราคาข้าวปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังช่วยเกษตรกรให้นำเงินส่วนต่างไปใช้ในครัวเรือน ซึ่งจะทำให้เกิดเงินและจะหมุนกลับมาเป็นภาษีสำหรับประเทศ ส่วนที่พรรคร่วมฝ่ายค้านกังวลเรื่องทุจริตนั้น ขณะนี้มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใสด้วยการปรับระบบ ทั้งที่จุดตรวจโรงสี ต้องมี จนท.ตร. ๒๔ ชม. ให้กรรมการมีประชาชนเข้ามามากขึ้น อนาคตจะตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่จุดรับจำนำ สร้างระบบไซโลรักษาข้าวได้นานขึ้น ใช้คอมพิวเตอร์เก็บข้อมูลทุกขั้นตอน พร้อมขอให้ประชาชน แจ้งเบาะแสการทุจริต จากนั้นจะส่ง จนท.ฯ ตรวจสอบตลอดเวลา ส่วนประเด็นที่ว่าไทยจะเสียแชมป์การส่งออกข้าวหรือไม่ ซึ่งหากดูปริมาณการส่งออกข้าวเดือน ม.ค. - ต.ค.๕๕ ไทยเป็นที่ ๓ รองจากเวียดนาม และอินเดีย แต่ถ้ามาดูในราคาเฉลี่ยไทยตันละ ๖๗๙ ดอลลาร์สหรัฐ เวียดนามตันละ ๔๔๕ ดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าส่งออกของไทยที่ ๓ พันล้านบาท และหากถามในฐานะคนไทยอยากเห็นจำนวนเงินมากกว่าจำนวนตัน นอกจากนี้ นรม. ยังชี้แจงถึงแนวทางการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ จชต.ว่า ได้น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา มาใช้แก้ปัญหา เน้นการทำงานอย่างบูรณาการการทำงานของทุกหน่วยและเร่งรัดลดการสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน เน้นการมีส่วนร่วมและให้ประชาชนสามารถดูแลตนเองได้ ตลอดจนเสริมสร้างความเข้าใจเรื่องศาสนาในพื้นที่
๒.นรม.ลงนามยกเลิกประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงฯใน๓เขตมีผลทันที
    นายทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นรม. ได้ลงนามประกาศให้อำนาจของ กอ.รมน. ที่รับผิดชอบดำเนินการในพื้นที่ที่กระทบต่อความมั่นคงในราชอาณาจักรสิ้นสุดลง ซึ่งทำให้ประกาศข้อกำหนดที่ นรม. และ กอ.รมน. ประกาศและออกตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ ๒๖ พ.ย.๕๕ ทั้งนี้ การลงนามในประกาศดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าเหตุการณ์ที่กระทบกับความมั่นคงในราชอาณาจักรสามารถแก้ไขได้ตามอำนาจของหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบตามปกติ รวมทั้ง กล่าวยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้กระทำเกินกว่าเหตุในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าว แต่เป็นการประกาศเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมและผู้ที่ไม่ได้ร่วมชุมนุมแต่ได้รับผลกระทบ
๓.พล.อ.บุญเลิศฯระบุเหตุที่เลิกการชุมนุมเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของผู้ชุมนุม
    พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) กล่าวว่า เหตุผลที่ยุติการชุมนุมนั้น เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของผู้ชุมนุม และที่มีคนมาชุมนุมจำนวนน้อย เนื่องจากถูกสกัดกั้นจาก จนท.ตร. เพื่อให้พร้อมมีความแตกแยกภายใน พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้มีคนโทรศัพท์มากดดัน หรือรับเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นรม. เพื่อยุติการชุมนุมแต่อย่างใด รวมทั้ง ไม่กังวลที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหากบฏ และได้เตรียมฟ้องกลับทาง จนท.ตร. เช่นกัน โดยกำลังให้ทีมกฎหมายพิจารณาว่าจะฟ้องเรื่องอะไร ทั้งนี้ ตนเองกำลังทำหนังสือเพื่อลาออกจากประธานมูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร เพราะรู้สึกน้อยใจทหาร ที่ไม่ออกมาช่วยเหลือผู้ชุมนุม ที่ถูกทาง จนท.ตร. ใช้ความรุนแรง ส่วน อพส. จะมีอยู่หรือไม่นั้น คงต้องแล้วแต่ภาคีเครือข่ายจะพิจารณา เพราะตนเอง ได้ประกาศยุติบทบาทไปแล้ว แต่ทั้งนี้ หากพบว่ามีการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมออกมาปกป้องทุกเมื่อ
๔.จนท.ตร.ตรวจสอบหลักฐานก่อนพิจารณาแจ้งข้อหากับกลุ่มอพส.เพิ่มเติม
     พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร. กล่าวถึงการดำเนินคดีแกนนำผู้ชุมนุมองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ว่า  ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ที่ปรึกษา (สบ ๑๐) เป็น หน.พนักงานสอบสวน หลังจากนี้คณะพนักงานสอบสวน จะตรวจสอบภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ตลอดการชุมนุม รวมถึงเทปบันทึกเสียงขณะปราศรัยบนเวที ว่า มีการฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ หากเป็นการชุมนุมตาม รธน. เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่หากมีการพกพาอาวุธหรือฝ่าฝืนกฎหมาย จะพิจารณาแจ้งข้อหาเป็นรายบุคคล ส่วนการควบคุมตัวผู้ชุมนุมวันเกิดเหตุ ได้สอบสวนและแจ้งข้อหาแล้ว ๑๓๘ คน ในความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ ๑๓๓ คน ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ๑ คน ฐานพกพาอาวุธ ๓ คน ซึ่งได้ปล่อยตัวชั่วคราวหมดแล้ว ยกเว้นผู้ต้องหา ๑ คน ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหา มี หรือ ใช้วิทยุสื่อสารโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต
๕.จนท.ตร.อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายสมสมัยฯที่พยายามขับรถฝ่าด่านตำรวจ
     พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบ.ป. เปิดเผยว่า ภายหลังการสอบสวนนายสมสมัย นิทาจิ๊ อายุ ๕๘ ปี คนขับรถบรรทุก ๖ ล้อ ที่พยายามขับรถฝ่าด่านตำรวจ บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ระหว่างการชุมนุมกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) เมื่อวันที่ ๒๔ พ.ย.๕๕ ได้แจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และทำร้ายเจ้าพนักงานกับผู้ต้องหาแล้ว แต่ยังไม่เข้าข่ายพยายามฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ ภายหลังการสอบปากคำ ทนายความได้เดินทางมาติดต่อขอยื่นประกันตัว โดยใช้หลักทรัพย์เงินสด ๕๐,๐๐๐ บาท พนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วมีความเห็นอนุมัติให้ประกันได้ จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวตั้งแต่วันที่๒๕พ.ย.๕๕
๖.สมาชิกพรรคพท.และกลุ่มนปช.แจ้งความให้ดำเนินคดีแกนนำกลุ่มอพส.
    นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรค พท. พร้อมทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เพื่อแจ้งความดำเนินคดี พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ เเละ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ร.น. ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ และข้อหากบฏและซ่องโจร จากกรณีเมื่อวันที่ ๒๔ พ.ย.๕๕ พล.อ.บุญเลิศฯ ได้จัดชุมนุมใหญ่และเกิดปะทะระหว่าง จนท.ตร. กับกลุ่มผู้ชุมนุมจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งนำอาวุธ มีด เหล็กแหลม ลูกแก้ว และปืนเข้ามาในพื้นที่ และทำร้าย จนท.ตร. เพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และขับไล่รัฐบาล โดยนำภาพบันทึกเหตุการณ์จากเว็บไซต์และข่าวจากสื่อมวลชนมอบให้ จนท.ตร. เป็นหลักฐาน ต่อมานายคารม พลพรกลาง ทนายความกลุ่ม นปช. ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เพื่อเเจ้งความดำเนินคดี พล.อ.บุญเลิศฯ พล.อ.ปฐมพงษ์ฯ น.ต.ประสงค์ฯ พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี พล.อ.ณัฐชัย เพิ่มทรัพย์ นายไทกร พลสุวรรณ และ ร.ต.แซมดินฯ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๓ ประกอบมาตรา ๘๐ เนื่องจากพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลดังกล่าว มีเจตนาร่วมกันล้มล้างรัฐบาลพร้อมมอบพยานเอกสารซีดีให้พนักงานสอบสวนเพื่อสืบสวนสอบสวนต่อไป
๗.ที่ประชุมส.อ.ท.มีมติให้ปลดนายพยุงศักดิ์ฯ
     นายสมมาต ขุนเศษฐ อดีตเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ส.อ.ท. สรุปว่า ที่ประชุมมีมติ ๑๓๙ เสียง ในการปลดนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท. และคณะกรรมการบริหารออกจากตำแหน่ง โดยมีผลทันที พร้อมทั้งแต่งตั้ง นายสันติ วิลาสศักดานนท์ เป็นประธาน แทนวาระที่เหลือต่อไป โดย ส.อ.ท. จะจัดทำหนังสือรายงานต่อ รมว.อก. ต่อไป ด้านนายสันติ ฯ กล่าวว่า หลังจากได้รับตำแหน่ง จะเร่งเข้ามาแก้ไขปัญหาต่างๆ ใน ส.อ.ท. โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ขอเวลาเตรียมตัวในการทำงานก่อน
๘.รองโฆษกทบ.เปิดเผยผลตรวจสอบอาวุธปืนทราโวถูกทิ้งข้างทางที่จ.กาญจนบุรี
    พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่มีชาวบ้าน จ.กาญจนบุรี พบอาวุธปืนทราโว จำนวน ๑๐ กระบอก ถูกทิ้งไว้ ที่ริมถนนสายท่าเรือ - พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี นั้น จากการตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่า อาวุธปืนดังกล่าว มีหมายเลขกำกับตรงกับอาวุธปืนที่ ทบ. ได้แจ้งหายไว้ ที่ สน.บางยี่ขัน ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง ปี ๒๕๕๓ ซึ่งในขณะนี้ จนท.ตร. กำลังขยายผลสืบหาติดตามผู้นำอาวุธปืนไปเก็บไว้ เพื่อติดตามอาวุธปืนที่ยังสูญหายต่อไป นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกระแสข่าว ที่มีทหารได้รับบาดเจ็บ จำนวน ๑ คน จากเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) เมื่อ ๒๔ พ.ย.๕๕ โดยจากการตรวจสอบนั้นพบว่า เป็นนายตำรวจ ยศ ร.ต.ท. แต่มีการลงบันทึกยศว่าเป็นยศร.ท.ทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่าเป็นทหาร
สรุปข่าวต่างประเทศ 27/11/2555
๑.สหรัฐฯมีแผนคงกำลังทหาร๑๐,๐๐๐คนในอัฟกานิสถาน
    เมื่อ ๒๖ พ.ย.๕๕ นสพ. The Wall Street Journal ของสหรัฐฯ รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนคงกำลังทหารสหรัฐฯ จำนวน ๑๐,๐๐๐ คน ในอัฟกานิสถาน หลังยุติภารกิจทางทหารอย่างเป็นทางการในปี ๒๕๕๗ เพื่อฝึกและปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้าย โดยแผนดังกล่าวได้รับคำแนะนำจาก พล.ร.อ.จอห์น อัลเลน ผบ.กกล.สหรัฐฯ และ กกล.นานาชาติในอัฟกานิสถาน ขณะที่นายฮาร์มิด คาร์ไซ ประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน ระบุว่า ยินดีที่สหรัฐฯ จะคงกำลังทหารบางส่วนไว้ หลังปี ๒๕๕๗ ตราบใดที่ กกล.สหรัฐฯ ปฏิบัติตามกฎหมายและอำนาจศาลอัฟกานิสถาน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ด้านการทหาร เชื่อว่า การฝึกและปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายต้องใช้กำลังทหารมากถึง ๓๐,๐๐๐ คน อนึ่ง ปัจจุบันสหรัฐฯ มีทหารประจำการในอัฟกานิสถาน ประมาณ ๖๗,๐๐๐คน
๒.รัสเซียระบุว่าวิกฤตเศรษฐกิจในEUเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อรัสเซีย
    เมื่อ ๒๖ พ.ย.๕๕  นายดมิทรี เมดเวเดฟ นรม.รัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียติดตามสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจในสหภาพยุโรป (EU) อย่างใกล้ชิด เพราะถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อรัสเซีย เนื่องจากสัดส่วนการค้าของรัสเซียกับ EU คิดเป็นครึ่งหนึ่งของมูลค่าการค้าทั้งหมด และยังสำรองเงินยูโรคิดเป็นร้อยละ ๔๑ ของทุนสำรองทองคำและเงินตราต่างประเทศของรัสเซียด้วย นอกจากนี้ นายเมดเวเดฟยังระบุด้วยว่า ผู้นำบางประเทศใน EU ขาดพลังและเจตนาในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ขณะนี้รัสเซียให้ความสนใจจุดอ่อนด้านเศรษฐกิจในยูโรโซน อาทิ กรีซและสเปน 
๓.รัสเซียตำหนิประเทศที่ให้การรับรองกลุ่มต่อต้านใหม่ในซีเรีย
   เมื่อ ๒๖ พ.ย.๕๕ นายดมิทรี เมดเวเดฟ นรม.รัสเซีย กล่าวตำหนิประเทศต่างๆ อาทิ ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และตุรกี ที่ให้การรับรองกลุ่มพันธมิตรแห่งชาติซีเรีย (Syrian National Coalition : SNC) ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่เพิ่งจัดตั้งใหม่ เป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของประชาชนซีเรียเพียงกลุ่มเดียว โดยนายเมดเวเดฟ ระบุว่า เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้หากพิจารณาตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ต้องไม่มีประเทศใดสามารถกระทำการรุนแรงหรือใช้กำลังเพื่อมุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศอื่น ทั้งนี้ นายเมดเวเดฟจะเยือนฝรั่งเศสระหว่าง ๒๖ - ๒๗ พ.ย.๕๕ โดยมีกำหนดพบหารือกับนายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการความร่วมมือทวิภาคีรัสเซีย-ฝรั่งเศส
๔.กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียเข้ายึดค่ายฝึกทหารในกรุงดามัสกัส    เมื่อ ๒๖ พ.ย.๕๕ กลุ่มผู้สังเกตการณ์ในซีเรีย รายงานว่า กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย สามารถยึดค่ายฝึกทหารที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงดามัสกัส ซีเรีย พร้อมกับครอบครองอาวุธที่อยู่ในค่ายทั้งหมด หลังนำกำลังเข้าโจมตีค่ายดังกล่าว ตั้งแต่ ๒๔ พ.ย.๕๕ โดยมีผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะระหว่างกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียและทหารปาเลสไตน์ที่อยู่ในค่ายฯแต่ไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขที่ชัดเจน
๕.อิสราเอลประสบความสำเร็จในการทดสอบระบบป้องกันขีปนาวุธรุ่นใหม่
    เมื่อ ๒๖ พ.ย.๕๕ กห.อิสราเอล เปิดเผยว่า อิสราเอลประสบความสำเร็จในการทดสอบระบบป้องกันขีปนาวุธ David's Sling เมื่อ ๒๕ พ.ย.๕๕ ซึ่งบริษัท Rafael ของอิสราเอล ร่วมพัฒนากับบริษัท Reytheon ของสหรัฐฯ โดย David's Sling ถูกออกแบบมาเพื่อสกัดกั้นขีปนาวุธที่มีพิสัยยิงไกล ๑๘๐ ไมล์ ขึ้นไป ทั้งนี้ อิสราเอล ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธ เนื่องจากต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากประเทศรอบบ้าน อาทิ ปาเลสไตน์ เลบานอน ซีเรีย และอิหร่าน โดยล่าสุด ระบบป้องกันขีปนาวุธ Iron Dome ซึ่งเป็นระบบป้องกันขีปนาวุธพิสัยใกล้ของอิสราเอล สามารถสกัดกั้นจรวดของกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์ได้ถึง ๔๒๑ ลูก จากการปะทะติดต่อกันเป็นเวลา๘วัน
๖.นรม.ญี่ปุ่นและผู้นำฝ่ายค้านเตรียมโต้วาที
    เมื่อ ๒๖ พ.ย.๕๕ บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งญี่ปุ่น (NHK) รายงานว่า นายโยชิอิโกะ โนดะ นรม.ญี่ปุ่น และ หน.พรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น (Democratic Party of Japan : DPJ) และนายชินโซ อาเบะ ผู้นำฝ่ายค้าน และ หน.พรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democratic Party : LDP) ตกลงที่จะจัดการโต้วาทีระหว่างกันทางอินเทอร์เน็ต ใน ๒๙ พ.ย.๕๕ โดย นายโนดะ ระบุว่า การจัดโต้วาทีดังกล่าวต้องการให้ประชาชนเห็นความแตกต่างระหว่างผู้นำรัฐบาลกับผู้นำฝ่ายค้านว่าฝ่ายใดเหมาะสมที่จะบริหารประเทศ
๗.กัมพูชาจะจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนโรดมสีหนุในปี๕๖
    เมื่อ ๒๖ พ.ย.๕๕ สมเด็จฯ ฮุน เซน นรม.กัมพูชา แถลงว่า รัฐบาลกัมพูชาจะจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ อดีตกษัตริย์กัมพูชา ใน ๔ ก.พ.๕๖ โดยจะเคลื่อนย้ายพระบรมศพจากพระราชวังเขมรินทร์ไปยังพระเมรุ ซึ่งอยู่ถัดจากพระราชวังดังกล่าว ใน ๑ ก.พ.๕๖ นอกจากนี้ สมเด็จฯ ฮุน เซน ยืนยันงดจัดงานเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลน้ำของกัมพูชา ระหว่าง ๒๗ - ๒๙ พ.ย.๕๕ บริเวณทะเลสาบหน้าพระราชวังเขมรินทร์ เพื่อไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น