วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เสธอ้าย"กลับลำ พร้อมนำอพส.ก่อม็อบต่อ "เฉลิม"ชี้แค่พักยก-เชื่อคดี99ศพตัวเร่ง วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 11:26:33 น. (ที่มา:หน้า1 มติชนรายวัน 28 พ.ย.2555)



"เต้น-เฉลิม"แฉขบวนการล้มรบ.ยังอยู่แค่พักยก ชี้คำสั่งศาลชันสูตรคดี 99 ศพตัวเร่ง เลขาฯสมช."ชี้ อพส.ฟังซักฟอกหาประเด็นโค่นรัฐบาล

"อ้าย"คุยพร้อมนำม็อบอีก 

อดีตนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 1 พร้อมภรรยากว่า 30 คน และ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเสื้อหลากสี เข้าพบ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ที่สนามม้านางเลิ้งเมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน เพื่อให้กำลังและมอบช่อดอกไม้ หลังจากที่ พล.อ.บุญเลิศประกาศยกเลิกการ ชุมนุมและประกาศยุติทุกบทบาทเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา 

จากนั้น พล.อ.บุญเลิศกล่าวถึงแนวทางการเคลื่อนไหวของ อพส.ว่า ยังไม่มีกำหนดว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไร ต้องการประชุมกันอีกที หากมีการระดมมวลชนอีก เชื่อว่าจะมีผู้ชุมนุมเข้าร่วมจำนวนมาก "ทั้งนี้ ไม่ขอเป็นแกนนำแล้ว ส่วนใครจะขึ้นมาแทนนั้นยังไม่ทราบ ยังไม่ได้คุยกันภายใน อพส.ว่าใครจะเป็นแกนนำ ซึ่งอาจจะเป็น พล.อ. ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ หรือ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ก็ได้ แต่หากประชาชนเรียกร้องให้ผมเป็นผู้นำในการชุมนุมครั้งต่อไปก็พร้อมรับหน้าที่ต่อ" พล.อ. บุญเลิศกล่าว

เผยได้เงินบริจาคไม่เกิน2ล.

ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วงหรือไม่ที่ถูกสมาชิกพรรคเพื่อไทยแจ้งความดำเนินคดีข้อหากบฏและซ่องโจรระหว่างชุมนุม พล.อ.บุญเลิศกล่าวว่า ไม่ห่วง แต่จะแจ้งความกลับอีกด้วย ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ประกาศยกเลิกการชุมนุมมาจนถึงวันนี้ยังไม่มีการพูดคุยกับคนในรัฐบาล รวมไปถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ยืนยันว่าวันนี้กำลังใจยังดีอยู่ ไม่ได้รับงานเพื่อมาจุดประกายในเรื่องของการชุมนุม สำหรับการดูแลเยียวยา ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ทาง อพส.จะเป็นผู้ดูแลเอง โดยจะตั้งศูนย์ช่วยเหลือ แต่จะต้องดูอีกทีว่า ตอนนี้มีเงินสำหรับการเยียวยามากน้อยเพียงใด และจะพยายามดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

"จะดูว่าเงินที่ได้รับบริจาคเหลือเท่าไหร่ แล้วจะช่วยคนละเท่าไหร่ ตามกำลัง ตอนนี้มีการคุยเรื่องนี้แล้ว ที่เราไปตั้งรับบริจาคได้ 5 แสนกว่า มีคนโอนเข้าบัญชีผมบ้างคนอื่นบ้าง 1 ล้านบาท รวมทั้งหมดไม่เกิน 2 ล้าน ต้องรอดูค่าเครื่องเสียงก่อนว่าจะเหลือเท่าไหร่" พล.อ.บุญเลิศกล่าว 

"ตุลย์"ลุยต่อต้นปีคุย"จัดใหญ่"

ด้าน นพ.ตุลย์กล่าวว่า การเดินการมาพบ พล.อ.บุญเลิศ เพื่อพูดคุยและให้กำลังใจ รวมไปถึงขอคำปรึกษาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ เสื้อหลากสียินดีที่จะเข้าร่วมกับทุกกลุ่มที่ปกป้องประเทศชาติ และราชบัลลังก์ ส่วนการชุมนุมครั้งต่อไปต้องดูเงื่อนไขและความพร้อมของแนวร่วมด้วย ทั้งนี้ คิดว่าจะยังไม่มีการชุมนุมไปจนถึงสิ้นปี 

"แต่ต้นปีหน้ามีโอกาสสูงที่จะชุมนุมอีกครั้ง และครั้งต่อไปจะเป็นการชุมนุมใหญ่ เพราะหากจัดการชุมนุมเล็กๆ ไม่มีประโยชน์" นพ.ตุลย์กล่าว และว่า การชุมนุมไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ความรุนแรง เพราะสิ่งที่จะล้มรัฐบาลได้คือผลงานของรัฐบาลเอง ส่วนการชุมนุมเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน เราแพ้ความไม่ถูกต้อง ประชาชนไม่ได้มาเพื่อตนและ พล.อ.บุญเลิศ แต่มาเพราะรักบ้านเมือง 

ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงการประกาศยุติการชุมนุมของ พล.อ.บุญเลิศว่า เป็นการยุติการเคลื่อนไหวในระยะนี้เท่านั้น และขบวนการที่ต้องการปิดประเทศจากกระบวนการเดิมยังเดินหน้าอยู่ แต่จะออกมาในรูปแบบหรือองค์การใดยังต้องติดตามดู คิดว่ากระบวนการเหล่านี้ยังมีอยู่

"เฉลิม"ชี้คำตัดสินคดี99ศพตัวเร่ง

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณี พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รายงานว่า ช่วงปีใหม่กลุ่ม อพส.อาจจะกลับมาชุมนุมอีกครั้งว่า "ยังไม่จบหรอก แค่มวยพักยก มีแน่ และมีหลายกลุ่ม เพราะว่าศาลสั่งคดี 99 ศพ อีกคดีแล้ว ซึ่งจะมีคนถูกจับ เรื่องฆ่าคนตาย ใครสั่งโดนแน่ ชัดเจนศาลสั่งอีกคดี ตรงนี้คือตัวเร่ง" 

เยี่ยมตร.เจ็บ - พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เยี่ยมอาการบาดเจ็บตำรวจสังกัด สภ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนหลังกลับจากการดูแลผู้ชุมนุมที่ กทม.ซึ่งมีตำรวจบาดเจ็บ 8 นาย ที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน


ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการชุมนุมต่อใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า แน่นอน เดินหน้าผ่าความจริงสำเร็จแล้ว ผู้ตาย ตายอย่างไร รับคำสั่งใคร และยืนยันว่าช่วงปีใหม่จะมีการชุมนุมอีกครั้งแน่นอน

คาดรอฟังซักฟอกหาช่องโค่นรบ.

พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ที่ประกาศยกเลิกชุมนุมและยุติบทบาทของ พล.อ.บุญเลิศ ไม่ใช่เป็นการหยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่เป็นการชะลอเพื่อดูในเรื่องต่างๆ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า อพส.จะชุมนุมก่อนวันที่ 20 ธันวาคมนั้นคงไม่ใช่ เพราะเชื่อว่าจะเคลื่อนไหวอีกครั้งในต้นปีหน้า สำหรับการเคลื่อนไหวต่อไป เชื่อว่า อพส.จะทำในรูปแบบค่อยๆ เป็นค่อย ไปตามระดับ ขณะนี้กำลังหาผู้นำในการชุมนุมครั้งต่อไปอยู่ 

"การข่าวตอนนี้ยังไม่มีอะไรใหม่ อพส.กำลังรอสำหรับการออกมาชุมนุมอีก ขณะนี้เขากำลังติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจากฝ่ายค้าน เพื่อที่หาประเด็นในการโจมตีรัฐบาล เช่น เรื่องสภาอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเสธ.อ้ายไม่สามารถขึ้นเป็นแกนนำในการชุมนุม ได้แล้ว เพราะสร้างเงื่อนไขให้บีบรัดตัวเอง" พล.ท.ภราดรกล่าว

"บัวแก้ว"เชื่อทูตพอใจรบ.คุมม็อบ

เวลา 15.30 น. วันเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศ เชิญคณะทูตและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศมารับฟังคำชี้แจง หลังรัฐบาลประกาศยกเลิกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 โดยนายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้บรรยายสรุปให้กับคณะทูตที่มาร่วมรับฟังกว่า 30 ประเทศ จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า แจ้งให้คณะทูตทราบถึงการดำเนินงานของรัฐบาลว่าสอดคล้องกับหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎบัตรระหว่างประเทศ ทั้งยังให้ความยุติธรรมกับกลุ่มผู้ประท้วง หลังฟังบรรยายสรุปไม่มีใครติดใจหรือมีคำถามใดๆ คิดว่าผู้แทนสถานทูตน่าจะพอใจกับคำอธิบายเพราะเหตุการณ์ผ่านไปอย่างสันติไม่มีการเสียเลือดเนื้อ และหวังว่าบางประเทศที่ออกประกาศเตือนการเดินทางไปในพื้นที่ ซึ่งมีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯก่อนหน้านี้ก็จะยกเลิกคำประกาศในเร็วๆ นี้

ตร.เร่งดำเนินคดีฝ่าฝืนกม.มั่นคง

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีที่กลุ่ม อพส. ปะทะกับตำรวจจากการชุมนุมและถูกจับกุม, ฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ให้สัมภาษณ์หลังประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวนว่า ในส่วนของการดำเนินคดีผู้ที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ซึ่งมี 2 จุดคือ ที่สะพานมัฆวานฯและแยกสวนมิสกวัน โดยได้ติดตามผล เนื่องจากมีการจับกุมผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาส่วนนั้น ซึ่้งได้แบ่งงานและเร่งรีบในการทำ เพราะคดีนี้อยู่ในอำนาจศาลแขวง มีอำนาจในการผัดฟ้องผู้ต้องหา ได้เต็มที่ 30 วัน จึงต้องรีบตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรียกพยานหรือผู้ต้องหาสอบเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.อ.ชัชวาลย์กล่าวว่า ไม่มี ในส่วนของผู้ต้องหา แต่มีในส่วนของพยานที่ต้องรีบสอบสวนเพิ่มเติม โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงพยานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่วันนั้น เมื่อถามว่าคดีที่เกิดขึ้นที่มีการแจ้งความในพื้นที่ สน.ดุสิต และ สน.นางเลิ้ง จะนำมารวมกันด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.ชัชวาลย์กล่าวว่า ของ สน.ดุสิต มี 10 คดี ผู้ต้องหา 10 คน ให้พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ดำเนินการไป เพราะเป็นความผิดเฉพาะบุคคล

เมื่อถามว่ากรณีที่ พล.อ.บุญเลิศจะถูกดำเนินคดีในข้อหากบฏหรือไม่ พล.ต.อ.ชัชวาลย์กล่าวว่า ยังไม่ไปถึงจุดนั้น 

เผยผิดกม.มั่นคงมี127คน

พล.ต.อ.ชัชวาลย์กล่าวว่า ผู้ต้องหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความมั่นคงฯทั้งหมด มี 127 คน ค่อนข้างนิ่งและลงตัวหมดแล้ว ตอนนั้นอาจยังไม่ชัดเจน เพราะมีบางส่วนไปรักษาตัว จำนวนตัวเลขจึงอาจคลาดเคลื่อน โดย 10 คน ที่เป็นของ สน.ดุสิต จบไป ที่สะพานมัฆวานฯ มี 97 คน และแยกสวน มิสกวัน มีทั้งหมด 30 คน แบ่งเป็นเหตุการณ์ช่วงเช้า 16 คน และช่วงบ่าย 14 คน รวม 30 คน บวก 97 คน รวมทั้งสิ้น 127 คน จากการสอบปากคำผู้ต้องหาส่วนใหญ่ให้การปฏิเสธ และไม่มีการพูดถึงแกนนำ ซึ่งในส่วนนี้อยู่ในสำนวนการสอบสวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ต้องหา 10 ราย ที่ถูกดำเนินคดีที่ สน.ดุสิต ถูกตำรวจที่ตั้งด่าน บริเวณแยกขัตติยานี จับแจ้งข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ 1 ราย ส่วนอีก 9 ราย ถูกแจ้งข้อกล่าวหาพกพาอาวุธมีดและพกพาวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต บริเวณแยกวัดเบญจมบพิตรฯ อย่างไรก็ตาม บช.นตั้งศูนย์ปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจ นครบาล เพื่อให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน สามารถมาแจ้งความร้องทุกข์ได้ 

ผบ.ตร.ชี้ต้องดำเนินคดีแกนนำ

เวลา 12.00 น. ที่โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชา การตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช. สกพ.) เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บและให้กำลังใจตำรวจ สภ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชน ขณะเดินทางกลับจากการเข้าดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุม ซึ่งพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ 8 นาย โดย 3 นาย ยังอยู่ในห้องไอซียู 

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ตำรวจกำลังใจยังดีอยู่ สำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมของกลุ่ม อพส.นั้น ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมาย และ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. ไปดำเนินการต่อ ต้องดูหลักฐานอย่างละเอียด ทั้งการประกาศต่างๆ การปราศรัย อภิปรายต่างๆ ต้องนำมาประกอบทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งพยายามฝ่าแนวกั้น ทาง พล.อ.บุญเลิศต้องรับผิดชอบตามกฎหมายด้วยหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ต้องนำมาประกอบด้วย เพราะพื้นที่ตอนนั้นประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ และประกาศล่วงหน้า มีการเตือน มีการเปิดเส้นทางเข้าพื้นที่ชุมนุมอยู่แล้ว กรณีนี้แกนนำต้องมีส่วนรับผิดตามกฎหมายด้วย

"โฆษกตร."ยันเคารพสิทธิสื่อ

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีตำรวจควบคุมตัวช่างภาพสื่อมวลชนขณะเกิดเหตุกลุ่ม อพส.ฝ่าแนวกั้นของตำรวจบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า เหตุการณ์วันดังกล่าวไม่มีใครแสดงตัวเป็นสื่อมวลชนแม้แต่คนเดียว บางส่วนอยู่บนรถของผู้ชุมนุมที่ผลักดันเข้าไปพื้นที่หวงห้ามด้วยซ้ำ หลายคนแจ้งว่าเป็นสื่อมวลชน ขณะที่บางคนไม่มีบัตรประจำตัวสื่อมวลชน เมื่อเจ้าหน้าที่สอบสวนทราบว่าเป็นสื่อมวลชนจริงจึงปล่อยตัวไป แต่บางคนอยู่ในข่ายเป็นผู้กระทำผิดจริงๆ เข้าไปเป็นตัวผลักดันฝ่าแนวกั้นจริง อันนี้ต้องดำเนินคดี ยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่ทุกจุดเคารพสิทธิของสื่อมวลชนเป็นอย่างยิ่ง 

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า กรณีที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยออกแถลงการณ์ ระบุว่า ตนแถลงสาเหตุที่ตำรวจควบคุมตัวช่างภาพสื่อมวลชนว่าถ่ายภาพขณะเกิดเหตุรุนแรง ถือเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชนนั้น ยืนยันว่าไม่เคยให้สัมภาษณ์ตามเนื้อหาดังกล่าวแต่อย่างใด น่าจะเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน จึงได้ทำหนังสือชี้แจงไปยังองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน พร้อมทั้งแนบซีดีบันทึกคลิปเสียงและเหตุการณ์ต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน 

"เรื่องนี้มีความโปร่งใสตั้งแต่ต้น ยืนยันอีกครั้งว่าตำรวจเคารพสื่อมวลชนทุกคน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจมีบางคนแอบแฝงเข้ามาเพื่อปฏิบัติการบางอย่าง ตรงนี้ตำรวจมีการจับกุมดำเนินคดี เป็นไปตามพยานหลักฐาน" โฆษก ตร.กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ปิยะได้นำซีดีบันทึกการแถลงข่าวทุกช่วงเวลา ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ออกแจกจ่ายสื่อมวลชนด้วย

มท.1ขอบคุณผู้ว่าฯดูแลม็อบ

นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ โฆษกกระทรวงมหาดไทย แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ในส่วนกระทรวงมหาดไทย ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชา ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีคำสั่งกำชับไปยังผู้ว่าฯ นายอำเภอทั่วประเทศให้เฝ้าระวังจับตาการเคลื่อน ไหวของมวลชนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะใน 16 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งจากการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับรายงานความเคลื่อน ไหวของกลุ่มมวลชนตลอดเวลา ทำให้ง่ายต่อการวางแผนและการบริหารจัดการ และล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือขอบคุณไปยังผู้ว่าฯทุกจังหวัด ที่ให้ความร่วมมือกับการป้องกันความวุ่นวายอันจะเกิดขึ้นกับการชุมนุมที่ผ่านมา และทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยจัดตั้งทีมงานเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของมวลชนบางกลุ่มอย่างใกล้ชิด

แดงอุตรดิตถ์ให้กำลังใจปู

ที่ จ.นครราชสีมา นายอนุวัฒน์ ทินราช ประธาน นปช.นครราชสีมา พร้อมนายวันชัย หรือตี๋น้อย สมานจารุวรรณ แกนนำเครือข่ายเรดโคราช และแนวร่วมภาคีเครือข่ายกลุ่มคนโคราชรักประชาธิปไตย ร่วมกันมอบช่อดอกไม้ให้ พล.ต.ท.เชิด ชูเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมของ อพส.

ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก หน้าศาลากลาง จ.อุตรดิตถ์ นายปัณณวัฒน์ นาคมูล ประธานกลุ่ม นปช. จ.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วยสมาชิก นปช.และคนเสื้อแดงอุตรดิตถ์ ร่วมกันปล่อยรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องขยายเสียงพร้อมติดป้ายข้างรถเขียนข้อความสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ออกรณรงค์รอบเมืองอุตรดิตถ์ เพื่อเป็นการกำลังใจให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร และในวันที่ 28 พฤศจิกายน มีกำหนดนำสติ๊กเกอร์ 10,000 แผ่น ออกไปแจกตามหมู่บ้านต่างๆ เพื่อร่วมกันส่งกำลังใจให้นายกรัฐมนตรี และมีกำลังใจบริหารบ้านเมืองให้รอดพ้นจากวิกฤตต่างๆ

3ช่างภาพแจ้งเอาผิดตร.กักขัง

ที่ สน.นางเลิ้ง เวลา 13.00 น. นายสันติ เต๊ะเปีย ช่างภาพหนังสือพิมพ์เอเอสทีวี ผู้จัดการ นายทศฤทธิ์ วัฒนราษฎร์ ช่างภาพสำนักข่าวทีนิวส์ เเละนายพัฒนศักดิ์ วรเดช อายุ 33 ปี ช่างภาพสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส พร้อมนายชาญวิทย์ กรอบเพชร และนายศักดิ์ณรงค์ พวงศิริ ทนายความอาสา จากสภาทนายความ เข้าพบ ร.ต.ต.ภูวิศ ศรีอ่อน พนักงานสอบสวน สน. นางเลิ้ง เพื่อเเจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ทำร้ายร่างกาย ขณะปฏิบัติหน้าที่บันทึกภาพระหว่างการชุมนุมของกลุ่ม อพส. และมีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวาน รังสรรค์เเละแยกสวนมิสกวัน

นายสันติกล่าวว่า วันเกิดเหตุหลังจากตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมเกิดปะทะกันขึ้นในช่วงเช้า จากนั้นตำรวจจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งมารวมไว้ใกล้กับที่ตนนั่งพักอยู่กับเพื่อนช่างภาพอีก 2 คน ทำให้ปะปนอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุม ก็เห็นตำรวจนายหนึ่งเดินเข้ามาเตะเสยปลายคางผู้ชุมนุมคนหนึ่ง แล้วหันมาเห็นกลุ่มพวกตน จึงไม่แน่ใจว่าเกิดความกลัวว่าพวกตนได้บันทึกภาพไว้ หรืออารมณ์เหนื่อย เดินมาจับตนล็อกคอแล้วกดหัวลงทั้งๆ พยายามแสดงบัตรสื่อมวลชน และปลอกแขนสีเหลืองแล้วก็ตาม แต่ตำรวจนายนั้นไม่สนใจ จับตนกับเพื่อนช่างภาพรวม 3 คน ขึ้นไปขังไว้บนรถตากแดดกว่า 1 ชั่วโมง ตนได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้ายเป็นรอยช้ำเขียวจากการป้องกันตัวที่โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจล็อกคอลากไปกักขัง

นายสันติกล่าวอีกว่า ไม่ได้เรียกร้องให้มาขอโทษ เพียงแต่อยากให้เป็นคดีตัวอย่างในการทำงานของสื่อรุ่นน้องๆ ต่อไป เพื่อให้ระวังตัวในการทำงาน เป็นบรรทัดฐานในการทำงานของสื่อ ได้ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในข้อหาทำร้ายร่างกายเเละกักขังหน่วงเหนี่ยว เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกายเเละควบคุมไว้ในรถผู้ต้องขัง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและสอบ สวนตามกระบวนการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น