วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ยกธงขาว เพื่อชัยชนะของประชาชน ดอน ลูกตาปี บทความพิเศษ 27 November 2555 - 00:00



พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประสบความสำเร็จต่อการจัดชุมนุมคนไม่เอารัฐบาลที่สนามม้านางเลิ้งเมื่อปลายเดือนที่แล้ว มีคนมาร่วมชุมนุมเป็นหมื่น ลบคำสบประมาทของคนรัฐบาลที่ประกาศว่า จะมีคนมาชุมนุมแค่ 500 คน อย่างมากไม่เกิน 2,000 คน วันเสาร์ที่ผ่านมา พล.อ.บุญเลิศจัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ด้วยวัตถุประสงค์เดิม  
    พล.อ.บุญเลิศประกาศมีทีเด็ดขับไล่รัฐบาลได้สำเร็จ หากมีคนมาร่วมชุมนุมจำนวนมากพอ แต่ผลปรากฏว่าตั้งแต่เช้าจนบ่าย คนมาร่วมชุมนุมไม่ถึงจำนวนที่ตั้งเป้าไว้ ในช่วงเย็นจึงประกาศสลายการชุมนุม  
    การประกาศสลายการชุมนุมของ พล.อ.บุญเลิศ จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่สิ่งที่ประจักษ์ให้เห็น พล.อ.บุญเลิศได้ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ในที่ชุมนุมวันนั้น พล.อ.บุญเลิศทำหน้าที่แทบทุกบทบาท ตั้งแต่จัดการชุมนุม, ดูแลความเรียบร้อยสถานที่, กล่าวปราศรัยบนเวทีชุมนุมหลายครั้งหลายรอบ, เจรจาตำรวจให้หยุดยิงระเบิดแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม, ดูแลผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บ, เดินส่งผู้ร่วมชุมนุมกลับบ้าน และอีกหลายหน้าที่ นี่ถ้าหาก พล.อ.บุญเลิศเดินเก็บขวดน้ำดื่มที่หล่นเกลื่อนตามลานชุมนุมใส่ถังขยะ เห็นทีคงทำหน้าที่ครบทุกอย่าง ความเครียดกับความกดดันอย่างหนักย่อมเกิดขึ้นแก่ พล.อ.บุญเลิศ ยากจะหลีกพ้น
    จำได้ว่าเมื่อหลายเดือนก่อน ช่วงการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพ แก้ว พงษ์ประยูร นักชกมวยสากลสมัครเล่นของไทย เข้าชกรอบชิงชนะเลิศเหรียญทอง เป็นเหรียญทองเพียงเหรียญเดียวที่ไทยตั้งความหวังไว้ แก้ว พงษ์ประยูร ขึ้นชกกับคู่ชกจากจีน การชกในครั้งนั้น ตามสายตาของคนชมที่ได้ดูการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ เห็นว่านักชกชาวไทยชนะใสๆ เพราะชกได้จะแจ้งกว่ามาก แต่กลับถูกจับแพ้ พลาดเหรียญทองไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อคณะของแก้ว พงษ์ประยูร เดินทางกลับไทย ขบวนรถได้แห่แหนนักชกขวัญใจชาวไทย จากสนามบินวิ่งมาตามถนนในกรุงเทพฯ พล.อ.บุญเลิศ ในฐานะนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ยืนเคียงข้างแก้ว พงษ์ประยูร โบกมือทักทายคนกรุงเทพฯ สองข้างถนน ถึงแม้ว่าพลาดได้เหรียญทอง แต่ชนะใจคนทั้งประเทศ
    ถ้าหากเปรียบเทียบระหว่าง พล.อ.บุญเลิศ ผู้จัดชุมนุมเมื่อวันเสาร์ กับรัฐบาลผู้กุมอำนาจรัฐ กับการชกมวยบนเวที พล.อ.บุญเลิศ นักมวยมุมน้ำเงิน กับรัฐบาล อยู่มุมแดง นักมวยมุมน้ำเงินขึ้นบนเวทีด้วยมือเปล่า ส่วนคู่ชกมุมแดงขึ้นเวทีด้วยสนับมือทองเหลือง นอกจากนั้นที่มุมแดงยังมีเหล็กแป๊บวางอยู่หลายอัน อย่างนี้แล้วนักชกมุมน้ำเงินชกเก่งอย่างไร ก็สู้ฝ่ายมุมแดงไม่ได้ตั้งแต่ในมุ้ง
    รัฐบาลพรรคเพื่อไทยกุมอำนาจรัฐ ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ทั้งที่การชุมนุมยังไม่ทันจะเริ่มต้น ใช้กองทัพตำรวจนับหมื่นขัดขวางผู้ไปร่วมชุมนุม, ตั้งด่านสกัด รวมถึงควบคุมตัวผู้จะเข้าร่วมชุมนุมที่มาจากต่างจังหวัด, ยิงระเบิดแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม รวมทั้งกุข่าวจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นในที่ชุมนุม ทำให้คนพากันหวาดกลัวไม่กล้าออกจากบ้านไปร่วมชุมนุม   
    ประชาชนผู้รักความเป็นธรรมจำนวนมากได้เข้าร่วมชุมนุมกับ พล.อ.บุญเลิศอย่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยวดังที่เห็น ชุมนุมโดยสงบตั้งแต่เช้ายันเย็น ไม่ได้ก่อเหตุร้ายอันใด ผู้คนไปร่วมชุมนุมด้วยจิตใจมั่นคงมือเปล่า ไม่มีอาวุธ รู้อยู่เต็มอกแล้วว่า ประชาชนมือเปล่า ล้มรัฐบาลไม่ได้ แต่ที่ไปชุมนุมเพียงส่งสัญญาณให้รัฐบาลเห็นว่า อย่าเห็นประชาชนเป็นเหมือนหมู หมา ลา กระบือ นึกจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ 
    พล.อ.บุญเลิศประกาศสลายการชุมนุมด้วยประโยคคำพูดที่ว่า “ผมไม่ต้องการเห็นผู้เข้าร่วมชุมนุมบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากการทำเกินกว่าเหตุต่อผู้ชุมนุมของตำรวจ” แสดงถึงความรับผิดชอบอันสูงส่งของผู้นำชุมนุม ต่างจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์เมื่อสองปีก่อน แกนนำการชุมนุมประกาศบนเวทีปราศรัยว่า “เผามันเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบทุกอย่างเอง” นอกจากไม่ได้รับผิดชอบอะไรแล้ว ยังได้ดิบได้ดีในรัฐบาลนี้อีกด้วย นี่แหละครับ บ้านเมืองเรา.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น