วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ปีใหม่แล้ว...ไปเถอะยิ่งลักษณ์! เปลว สีเงิน 27 November 2555 - 00:00



ที่แท้ก็ "ไอ้เปี๋ยง" ลูกกะเป๋งทักษิณนี่เอง คือไอ้โม่งข้าวจีทูจี ไม่ใช่ "อีเดี๋ยง" ซักหน่อย แล้วเรียกกันอยู่ได้ว่า เจ๊ ด. เจ๊ ด.? แฟนๆ นั่งเงกหน้าจอมา ๒ วัน ๒ คืน ก็เพิ่งตาสว่างเอาตอน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ประชาธิปัตย์ ลงมือชำแหละตอนค่ำวาน (๒๖ พ.ย.๕๕) นี่แหละ ก็สมราคาที่ "อุบไต๋" จนถึงวันอภิปราย เพราะเมื่อชูใบเสร็จ "ยิ่งลักษณ์-บุญทรง" ปัสสาวะราดหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ทราบแต่ว่า "นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ" ทำหน้าที่ประธานสภาฯ...ได้ใจมหาชน!
    ผมคงไม่เล่ารายละเอียดอะไรนะครับ ด้วยให้เกียรติในความเป็น "คอการเมือง" ของท่านทั้งหลาย ฝ่ายค้านโดยประชาธิปัตย์อภิปรายไม่ไว้วางใจนางสาวยิ่งลักษ์ ชินวัตร ในตำแหน่งนายกฯ ส่งท้ายสมัยประชุมทั้งที ทีวีช่อง ๑๑ ก็ทั้งถ่ายทั้งทอด 
    มีหรือท่านจะไม่นั่ง-นอนกอดจอ!?
    ฉะนั้น เรื่องรัฐบาลล้มระบบข้าวไทย ด้วยการเข้าไปเป็นพ่อค้าข้าวผูกขาดเสียเอง ซื้อข้าวทุกเม็ดจากชาวนาในราคาแพง แล้วเอาไปขายขาดทุนด้วยราคาถูกๆ นั้น 
    รัฐจงใจขาดทุนนับแสนล้านเพื่อใคร แล้วใครรวยไปจากรัฐที่ขาดทุน และบริษัทไหน เป็นมือต่าง-ตีนต่าง ทำกำไรบนความพินาศล่มจมของชาวนาไทยและคนไทยทั้งมวลนั้นให้?
    ท่านก็คงได้เห็นที่คุณหมอวรงค์ และ ส.ส.ประชาธิปัตย์อีกหลายท่าน ช่วยกันชำแหละด้วยข้อมูล ด้วยหลักฐาน ด้วยใบเสร็จ ทั้งแบบกระดาษ และแบบคลิปวิดีโอกันไปแล้วเมื่อหัวค่ำวาน
     ดูคลิปก็เหมือนดูหนัง มันต้องมีพระเอก-นางเอก และผู้ร้าย ถึงจะมันครบรส ครบชาติ ก็เพิ่งครบรสในคลิปที่คุณหมอวรงค์และคณะเอามาเปิดฉายครั้งนี้แหละ โดยเฉพาะฉาก
    "ไอ้เปี๋ยง" เดินเคียงคู่ "ทักษิณ" ที่มาเลย์สดๆ ร้อนๆ!
    ไอ้เปี๋ยงค้าข้าวแห่งเพรสซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในยุคทักษิณ แล้วเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นสยาม อินดิก้า มาเป็นพ่อค้าข้าวคู่สร้าง-คู่สมรัฐบาลยุคยิ่งลักษณ์ที่ฉาวและโฉ่นั่นแหละ
    ยอมรับครับว่า เที่ยวนี้ประชาธิปัตย์อุบไต๋ และทำการบ้านแทน "อภิปรายตัดแปะ" แบบเดิมๆ ได้ดีเป็นพิเศษ ข้อมูลเชื่อมโยงต่อเนื่อง เป็นข้อมูลที่หามาด้วยลำแข้งแห่งศักดิ์ศรี "ผู้แทนราษฎร" แท้จริง โดยเฉพาะเส้นทางการเดินของเงินจีทูเฮีย     
    เช็คแต่ละใบ..ของใคร..เข้าใคร ออกใคร แล้วไปไหน? 
    คุณหมอวรงค์อภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหลักฐานเชิงสืบสวนในข้อกล่าวหา แฉให้เห็นเส้นทางเดินเชื่อมโยงได้ต่อเนื่อง ไม่มีหนังขาด หนังสะดุด ให้หยุดจินตนาการเอาเองให้เสียอารมณ์  ผมคิดว่า ไม่เพียงชาวบ้านที่ชมการอภิปรายเมื่อคืนจะใจจด-ใจจอ อยากรู้ว่า...แล้วนายกฯ คนสวยจะลุกขึ้นยืนแก้ปมยังไง?
    ผมว่า กระทั่งตัวนายกฯ เองก็ใจจ่อ-ใจจดเหมือนกันว่า "แล้วกูจะใช้ Woman's touch เอาตัวรอดได้ยังไง?"
     เพราะกราดตามองไปทั่วซีกฝ่ายค้าน ไม่มีซักคนที่หน้าตาคล้ายโอบามา มีแต่โอบามาร์ค นั่นก็หล่อเกิ๊นนน แถมเจ้าของไม่เผลอ แล้วจะใช้มนต์เสน่ห์ "เล่นหู-เล่นตา" เอาตัวรอดจากสภาฯ ชนิดยังมีลมหายใจได้ด้วยวิธีไหน?
    ถ้าคิดไม่ออก ผมจะบอกให้ด้วยความปรารถนาดีนิรันดร สิ้นธันวานี้แล้ว ถือฤกษ์ปีใหม่ รักษาช่วงเวลาชีวิตที่ยังอีกยาวไกล และทรัพย์สมบัติแห่งความร่ำรวยมากมายไว้ 
    เมื่อสมุนเพื่อไทยใช้มือมากลากศพออกจากสภาฯ ครั้งนี้ได้ ก็ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ  แล้วล้างมือกลับไปใช้ชีวิต-ใช้เงินทองสบายๆ ตามที่ใจอยากเถอะ!
    วันนี้ยังอีกวันสำหรับศึกในสภาฯ ถ้าไม่เชื่อที่ผมบอก ยังอยากอยู่ในการเมือง ฉะนั้น ก็อย่าทำตัวน่ารังเกียจ น่าขยะแขยง ทั้งกับ ส.ส.ฝ่ายท่าน และฝ่ายค้าน รวมทั้งชาวบ้านที่เฝ้าชมทั้งมวลเลย
    คือกล้าจะเป็นนายกฯ ในเมื่อเขาอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ก็ต้องกล้าสู้ พร้อมเผชิญหน้า ยืดอกในสภาฯ แก้ข้อกล่าวหาเขาด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้ ส.ส.สมุน ทั้งหัวหงอก หัวดำ หัวไข่ดาว  และหัวถลอกเหมือนหนูแทะกลางกระบาล น่าเกลียด-น่าชัง เวียนกัน "ตะแบงกฎหมาย" เพื่อไม่ต้องมาตอบ
    มันทุเรศ เรื่องอย่างนี้ไม่ต้องพูดด้านกฎหมาย-กฎระเบียบหรอก มันเป็นเรื่องจิตสำนึกและศักดิ์ศรีของนักการเมืองระบบสภาฯ ยิ่งเป็นผู้นำระดับนายกฯ ด้วยแล้ว  จะเอาแต่บทงิดๆๆๆๆ กับอาคันตุกะ ไม่เอาบทสง่ากับสมาชิกรัฐสภา 
    อย่างนั้น มาทางไหน รีบไปทางนั้นเลย!
    หนอย...ไปขึงป้ายทั่วประเทศ "ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ มาจากการเลือกตั้ง" อ้างเลือกตั้งแต่หนีสภาฯ ตะพึด กระทั่งไฟคือญัตติไม่ไว้วางใจ...ไม่ใช่ลนก้น หากแต่ทิ่มก้นด้วยซ้ำ ยังคิดหนี แล้วแบบนี้ยังมีหน้าอีกหรือ?
    เอ้า...ขอไปดูคนชนคนในสภาฯ ต่อซักหน่อย อ่านนี่ดีกว่า เพื่อจะได้เข้าใจว่า ที่เขาประสานเสียงว่า ขายข้าวจีทูจีได้แล้ว ๗-๘ ล้านตัน แต่เปิดเผยไม่ได้นั้น ข้อเท็จจริงมันเป็นยังไง "คนรักบ้าน-รักเมือง" เขารายงานให้ผมทราบหลายวันแล้ว มัวติดเรื่อง Falls in love กับเรื่องอวสานเสือฝ้ายอยู่ ก็นำฉายควบซะวันนี้เลย
    คุณเปลวที่นับถือ
    ที่กระทรวงพาณิชย์แถลงว่าทำสัญญาขายข้าวจีทูจีได้แล้วหลายล้านตัน เป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น เพราะช่วงนี้ไม่มีการตกลงขายกับรัฐบาลใดเลย จีทูจีในรัฐบาลนี้มีเพียงที่ขายให้อินโดฯ ตอนปลายปีที่แล้ว เป็นข้าวขาว ๑๕% จำนวนสามแสนตัน ส่งมอบติดต่อจนถึงเดือนกุมภาพันธ์  ๒๕๕๕  
    กระทรวงพาณิชย์งุบงิบให้บริษัท สยาม...จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบในการส่งมอบ ใช้ข้าวสต็อกรัฐบาล โดยไม่มีการประมูล แต่ส่งมอบได้ไม่ทันกำหนด ส่งมอบไปได้ประมาณ ๒๗๐,๐๐๐  ตันเศษ ตอนที่ใกล้กำหนดเส้นตายในการส่งมอบ สยาม...เห็นว่าส่งมอบไม่ทันแน่ จะขอให้ผู้ส่งออกส่งรายอื่นช่วยเปาเกา แต่ผู้ส่งออกส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย  
    มี ๒ รายที่ยอมช่วย ก็ถูกด่าจนเข้าหน้าคนอื่นไม่ติดไปพักใหญ่ อีกจำนวนหนึ่งเป็นข้าวนึ่ง  ๕% ที่ขายให้บังกลาเทศ ๒๐๐,๐๐๐ ตัน มีชื่อ อคส.เป็นผู้ขาย ส่งมอบเมื่อเดือน มิ.ย.๕๕ พาณิชย์ก็งุบงิบให้สยาม...เป็นผู้ส่งมอบ (ไม่มีรายละเอียดว่าใช้ข้าวจากแหล่งใดส่งมอบ)
    ที่พาณิชย์ยืนยันว่าได้ขายจีทูจ ให้อีกหลายประเทศ รวมทั้งจีน ก็ไม่เป็นความจริง เพราะจีนไม่เคยซื้อข้าวจีทูจี กระทรวงพาณิชย์และคนในวงการข้าวรู้ดี จีทูจีที่อ้าง ค่อนข้างชัดเจนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ คือการงุบงิบให้สยาม...ไปทำสัญญาขายกับผู้ซื้อในต่างประเทศ โดยใช้ข้าวสต็อกรัฐบาลส่งมอบ  
    สยาม...ก็ต้องทำความตกลงผ่านโบรกเกอร์ เช่น ที่สวิส สิงคโปร์ เมื่อขายได้ ส่งมอบข้าวลงเรือ เรียกเก็บเงินได้ ก็ต้องส่งเงินให้พาณิชย์ทยอยคืน ธ.ก.ส. แต่การทำเช่นนี้ไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เพราะข้าวที่จะส่งมอบเป็นข้าวเก่า ทำให้การส่งมอบล่าช้า กว่าจะเต็มลำเรือก็ทุลักทุเลพอควร  ช่วงนี้จึงมีปัญหา ไม่มีเงินจ่ายค่าข้าวที่ชาวบ้านนำมาจำนำ ไม่มีเงินจ่ายให้โรงสี เซอร์เวย์ ติดค้าง ๒-๓ เดือน
    ช่วงนี้สยาม...ขายให้อิรักผ่านโบรกเกอร์สิงคโปร์ ตันละประมาณ ๕๑๐ เหรียญยูเอส ถ้าคิดราคาข้าวในตลาดปัจจุบัน จะขาดทุนประมาณตันละ ๓,๐๐๐ บาท ยังไม่คิดค่าปรับปรุง ค่าขนส่ง  ทำไมสยาม...จึงตกลงขายได้ ทั้งที่เห็นว่าขาดทุน ก็เพราะไม่ต้องลงทุน โดยใช้ข้าวสต็อกรัฐบาลส่งมอบ ทั้งที่ไม่เคยปรากฏว่าสยาม...ประมูลซื้อข้าวของรัฐบาลเลย! 
    แต่ถ้าคิดต้นทุนราคารับจำนำ จะขาดทุนตันละประมาณ ๗-๘ พันบาท ยังไม่คิดค่าปรับปรุง  ค่าเช่าโกดัง ค่าขนส่ง ค่าเสื่อม แต่มีปัญหาไม่สามารถหาข้าวใหม่ส่งมอบได้ เพราะข้าวในสต็อก เหลือแต่ข้าวเก่า บางจำนวนเก่าเก็บมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ มอดกินเป็นผงแล้ว เพราะข้าวใหม่ถูกแอบเอาออกไปส่งออกหรือเอาไปขายแล้ว จากนั้นก็ใช้ข้าวเก่าสวมรอยว่าเป็นข้าวที่เพิ่งรับจำนำ  
    มีข่าวว่า เจ๊ ด.ต้องใช้อิทธิพลบีบให้โรงสีที่เตรียมข้าวเปลือกไว้จำนำแล้วใช้ข้าวเก่าสวมรอย  ต้องสีข้าวใหม่ส่งมอบให้สยาม...ทำให้โรงสีไม่สามารถเอาข้าวใหม่แอบไปขายแล้วใช้ข้าวเก่าสวมรอยได้ทั้งหมด เพราะส่วนนี้ต้องส่งมอบให้สยาม...ทั้งที่จ่ายค่าส่วนต่างไปให้นักการเมืองล่วงหน้าแล้ว     
    การตรวจสอบเรื่องนี้สามารถทำได้ หากสามารถเรียกตรวจเอกสาร เส้นทาง คำสั่ง การเบิกจ่ายข้าว ออกจากโกดัง เอกสารการส่งออก การเรียกเก็บเงินค่าข้าว เส้นทางการทำธุรกรรมทางการเงิน การใช้เงินคืน ธ.ก.ส.
         การเซ็นเอ็มโอยูกับจีนโดยไม่ระบุ ปริมาณ-เวลา เป็นที่ขบขันของฝ่ายจีน ทราบข่าวจากผู้ไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับจีนที่ "สมาคมมิตรภาพไทย-จีน" เป็นเจ้าภาพได้ความว่า นายกฯ ขอร้องให้ฝ่ายจีนช่วยเซ็น เพื่อช่วยรักษาหน้า จีนจึงยอม แต่ต้องตัดข้อความระบุจำนวนและเวลาออก  ซึ่งทำขึ้นมาก็ไม่มีผลอะไร  
    ที่มีการเซ็นกันคือ มีการตกลงซื้อกับเอกชน แต่ต้องเป็นข้าวใหม่ ทางจีนรู้ข้อมูลดีว่าข้าวในสต็อกเป็นข้าวคุณภาพแย่ โดยเฉพาะหอมมะลิปลอมปนกันมาก
           อีกไม่นานเกินรอ ข้าวจะทับรัฐบาล และพวกกระทรวงพาณิชย์บางคนตาย ตอนนี้จนแต้มแล้ว เมื่อ ๒-๓ วันที่ผ่านมา บิ๊กพาณิชย์ติดต่อโทรศัพท์ถึงผู้ส่งออกรายใหญ่ ขอให้ช่วยตกลงซื้อข้าวของรัฐบาลในราคาสูงใกล้เคียงราคารับจำนำ 
    โดยรับปากว่าจะหาข้าวใหม่มาส่งมอบให้ประมาณล้านตันเศษ แล้วจะตอบแทน หากในอนาคตขายข้าวจีทูจีได้ จะจัดสรรแบ่งให้ผู้ส่งออกที่ช่วยซื้อข้าว หากไม่ตกลงจะถือว่าไม่ร่วมมือ (คงหาทางใช้อำนาจแกล้ง) ยังไม่ชัดเจนว่า ผู้ส่งออกจะตกลงหรือไม่ ดูแนวโน้มแล้วคงยาก เพราะช่วงนี้ไม่มีคำสั่งซื้อเลย หากไปตกลงซื้อในราคาแพง ก็มีแต่จะขาดทุนสถานเดียว 
    ครับ...จบข้อมูลอันเป็นรายงานสถานการณ์ "ซื้อแพง-ขายถูก" ของรัฐบาล คำแนะนำอันเป็นทางหนีตายที่ขอย้ำ คือ...มกราปุ๊บ ลาออกปั๊บ ไม่งั้น...ยับแน่!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น