วันเสาร์ ที่ 24 พฤศจิกายน 2555
.จากการชุมนุมครั้งแรกเมื่อ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ ณ ราชตฤณมันสมาคม สนามม้านางเลิ้งที่ผ่านมา ทำให้ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย ได้นัดหมายกับผู้เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองอีกครั้งในนามของ องค์การพิทักษ์สยาม โดยครั้งนี้ตั้งใจว่าจะเป็นครั้งสำคัญเพื่อขับไล่รัฐบาลให้ได้ โดยกำหนดวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า
แต่หากมองถึงการเตรียมการจัดการม๊อบในครั้งนี้ อาจจะดูแล้วไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ภาพที่เห็นเมื่อเทียบกับการเตรียมตัวของฝั่งรัฐบาลแล้วดูคราวนี้มาพร้อม และจัดเต็มกว่าทุกครั้งม๊อบเสธ.อ้าย จึงอาจดูเป็น “มือใหม่หัดม๊อบ” ไปซะงั้น
กล่าวคือม๊อบของเสธ.อ้ายไม่ได้มีการประกาศ หรือแจ้งรายละเอียดในการเตรียมตัวใดใดให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมทราบว่าจะให้เริ่มเคลื่อนขบวนเข้ามาได้ตั้งแต่เมื่อไหร่เส้นทางไหน และประสานงานกับใคร ดังนั้นเมื่อม๊อบเริ่มเดินทางเข้ามาจึงเกิดปัญหาในการเดินทางเข้าพื้นที่ชุมนุม จึงโดนยุทธวิธี “มาเร็ว แคลมเร็ว” ของฝ่ายรัฐบาลซึ่งเตรียมการมาเป็นอย่างดี โดยนำกำลังตำรวจ จากสภอ.และตชด.ทางแถบภาคเหนือ ระดมเข้าพื้นที่และตรึงกำลังตั้งแต่ บ่ายๆของวันที่ ๒๒ พ.ย. แล้ว ด้วยกำลังตำรวจร่วมห้าหมื่น ที่ใครๆถึงกับออกปากก่นด่ากันว่า วันที่ ๒๔ จะเป็น วันโจรเริงร่า หรือพวกทำผิดกฎจราจรจะได้ลอยนวลสบายๆไปอย่างน้อยก็หนึ่งวันเพราะไม่มีผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ไปปฏิบัติหน้าที่
แต่จะว่าไปแล้วก็ยังไม่อาจฟันธงลงไปว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นเพราะ เสธ.อ้ายเป็น "มือใหม่หัดม๊อบ" หรือว่าจะเป็นการ "ลับ ลวง พราง" ที่จะมีแผนการขั้นอื่นๆที่จะตามออกมาหรือไม่ เพราะเหตุการณ์หนึ่งที่สร้างความงุนงงให้หลายๆคนจนเกิดอาการท้อถอย หรือหลายคนอาจจะล่วงรู้แผนแล้วจึงนิ่งเฉยก็คือ การประกาศยุติการชุมนุมด้วยเหตุผลว่าเกรงประชาชนจะได้รับอันตรา เพราะเพียงแค่เข็มนาฬิกายังไม่ทันพ้น ๙ โมงเช้า ม๊อบเสธ.อ้ายก็โดนต้อนรับอย่างอบอุ่นจากตำรวจด้วยระเบิดควันและแก๊สน้ำตาซะแล้วแถมรอบบ่ายอีกชุดใหญ่ และอีกทั้งเสธ.อ้ายก็ประกาศไม่รับการนำม๊อบอีกต่อไปนั่นเอง...ซึ่งคงต้องรอผลการตัดสินใจที่จะประกาศออกมาจากสนามม้านางเลิ้งกันอีกครั้ง
ส่วนบรรดาตำรวจทั้งหลายที่ยกโขยงกันมาหลายหมื่นมากมายเป็นประวัติศาสตร์การรวมตัวมาเพื่อรับใช้รัฐบาล ก็คงเดินทางกลับไปรับความดีความชอบกันอย่างจุใจ หรืออาจจะอยู่กินให้สบายใจในเขาดินซึ่งตอนนี้อาจจะเริ่มคุ้นชินสถานที่จนไม่อยากกลับแล้วก็ได้ หรือหากใจถึงและอยากบริการดูแลประชาชนจริงๆ ก็ลองล่องใต้ไปสามจังหวัด สักอาทิตย์ สองอาทิตย์ น่าจะได้เบี้ยหวัดเพิ่มอีกโขอยู่เชียว ...ไม่สนใจกันบ้างหรือครับ
หลังจากนี้เราคงเห็นภาพการออกมาตีปีบ กางปีกดีใจของใครบางคน ที่คิดว่าสกัดม๊อบอยู่ และคนไทยก็คงได้เห็นอาการเหลิงลม และเหิมเกริมเพิ่มขึ้นอีกหลายโลขีด ในไม่ช้า เพราะมันจะย่ามใจว่า ไม่มีใครหยุดข้าอยู่ซะแล้ว.....และช่วงนี้ปีกลองเรื่องป่าหี่การอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อถอดถอนนายกและรัฐมนตรีบางคน จะเข้ามาขัดตาทัพเพื่อให้หยุดหายใจคอโดยที่ไม่ต้องมาพะวงศึกสองด้าน ซึ่งเหมือนจะเป็นการพักยกไปในตัวด้วย...... เชื่อเถอะ ไม่ช้า ไม่ช้า เพราะไอ้ความเหิมเกริม นี่แหละ...คนแค่วัยอย่างผมเห็นความพินาศมาหลายรัฐบาลแล้ว
สวัสดีครับ
เต็งพ้ง
ป.ล. ได้พบเพื่อนชาวโอเคในพื้นที่ชุมนุม ทั้งพี่ชัย ลาซาล และ ชัยแมนยู และทราบว่าพี่จ็คสายธาร และหวานใจน้องตุ๊กตา ก็ไปพร้อมกับน้องส้ม อีกทั้งครูแดงและพ่อวิทย์
........................
จากนี้เชิญท่านชมประมวลภาพเหตุการณ์ ตามอัธยาศัยครับ
ถ้าไม่ติดรั้วลวดหนาม เจ้าหน้าที่ กทม. อาจจะช่วยกวาดพวกผ้าพันคอกลุ่มนี้ไปได้ด้วย
.
ใช้พื้นที่ของสำนักพระราชวัง ..ด้วยนะ
.
ช่วงเช้า คนมาเต็มพื้นที่แล้ว แต่ยังเข้าได้ไม่หมดเนื่องจากไม่รู้่ว่ามีการปิดพื้นที่่ตรงสะพานมัฆวาน
และตอนเช้านี้โดนต้อนรับด้วยระเบิดควันและแก๊สน้ำตาไปแล้วเมือตอน ๙ โมงเช้า
.
เวทีปราศัยของผู้ชุมนุมจะอยู่ด้านหน้าของพระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งด้านหลัง เจ้าหน้าที่ก็ปิดกั้นเส้นทางเข้าออก
.
รังนักข่าว ด้านหลังเวที
.
ช่วงก่อนบ่ายสองโมงตรง ก็โดนตำรวจซัดด้วยระเบิดควันและ ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่อีกชุดใหญ่
แต่ผู้ชุมนุม ยังตั้งมั่นอยู่ในที่ตั้ง
.
โดนแก๊สน้ำตากันไปหลายคน ทั้งฆารวาส ทั้งสงฆ์
.
ลูกนี้เป็นระเบิดควันที่หมดอายุตั้งแต่เดือน พฤษภาคม ๒๕๕๕ แต่ก็ถูกนำมาใช้ โชคดีที่สลักยังค้างและไม่ทำงาน
.
ส่วนพวกนี้ใช้งานแล้วสดๆร้อนๆ ตอนที่เพิ่งมาถึงยังรู้สึกได้ถึงไอร้อน และพิษสงของแก๊ส ถึงแม้จะเบาบางก็ตาม
.
บางคนโดนน้อยก็นั่งน้ำตาไหล แสบตากันไป บางคนทนไม่ไหวก็ต้องนำส่งโรงพยาบาล
ชิ้นส่วนของระเบิดควันและแก๊สน้ำตาตอนภาคบ่าย จะมีส่วนประกอบอย่างอื่นเพิ่มเติมมากขึ้น แต่ทางตำรวจก็บอกว่าเป็นฝ่ายผู้ชุมนุมโยนมา แต่ไม่ยอมให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด
ช่วงประมาณ ๑๖.๐๐-๑๗.๐๐ เป็นช่วงเวลาที่ดูเหมือนตึงเครียด เพราะทางผู้ชุมนุมต้องการเปิดทางแต่ ตำรวจไม่ยอใ และการเจรจาก็ไม่สำเร็จ
.
ผมถามตำรวจว่า ทราบหรือไม่ว่าภาพข้างหลังนั้นคือภาพอะไร แล้วทำไมพี่พี่ถึงได้เอาผ้ามาปิดแบบนั้นแถมเอาลำโพงเครื่องขยายไปติดตั้งโดยมิบังควร.......เงียบ ไม่่มีเสียงตอบใดใด จากเลขเรียกเลขที่ท่านหมาย.....(ดูมันทำ)
กลิ่นแก๊สน้ำตายังอบอวลอยู่ ทั้งตำรวจและผู้ชุมนุมต้องมีผ้าปิดป้องกันไว้ (มันเองยังกลัว แล้วเอามาโยนใส่ ปชช.เฮ้อ ไม่ไหวจะเคลียร์
ตำรวจไม่ยอมเปิดเส้นทางบนสะพานมัฆวาน ปชช.เริ่มส่งเสียงตะโกนด่า ตำรวจเอากระบองทุบโล่ห์ เป็นการขู่กลับพร้อมเครื่องขยาย
.
ช่วงนี้ดูจะตึงเครียดสุด เพราะตำรวจไม่มีระดับสั่งการมาต่อรองกับผู้ชุมนุมซึ่งมีหมอตุลย์ไปเจรจา แต่ก็ไร้ผล
.
หิวเว้ย กินผัดไทยประชดกันต่อหน้าไปเลย
.................................................
เต็งพ้ง
รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น