วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

คนร่วมม็อบเสธ.อ้ายหลายร้อยแล้ว เมื่อ 23 พ.ย.55



 คนร่วมม็อบเสธ.อ้ายหลายร้อยแล้ว
 
"พิทักษ์สยาม" ตั้งเวทีปราศรัยใหญ่แล้ว คนทยอยร่วมหลายร้อยแล้ว ด้านตำรวจตรึงกำลังแน่นรอบทำเนียบฯ
              
        23พ.ย. 2555 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 17.30น. บรรยากาศที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามในวันที่ 24 พ.ย. ได้มีญาติธรรมแห่งกองทัพธรรมเริ่มตั้งเต็นท์และเวทีปราศรัยใหญ่ สร้างสุขา ห้องอาบน้ำ ฝ่ายเสบียงอาหาร ฝ่ายพยาบาลไว้รองรับผู้ชุมนุมเรียบร้อยแล้ว
               ขณะที่บรรยากาศถนนเส้นทางต่างๆที่เข้าสู่ลานพระบรทรูปทรงม้าพบว่ามีตำรวจพร้อมโล่ห์กว่า 30 นาย ยื่นตั้งด่านพร้อมรั้วลวดหนาม และคอนกรีตแบริเออร์บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐใกล้ทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะถนนพิษณุโลกมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดบริเวณถึงแยกสวนมิสกวัน ซึ่งพบว่ามีด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากพร้อมรั้วลวดหนาม แผ่นปูนแบริเออร์ตั้งไว้เช่นกัน
 
คนร่วมม็อบเสธ.อ้ายหลายร้อยแล้ว
              ต่อมาเวลา 20.00น. บรรยากาศที่ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าเริ่มคึกคัก ได้มีผู้เข้าร่วมชุมนุมทยอยเดินทางมาร่วมหลายร้อยคนแล้วต่างเตรียมกระเป๋าสัมภาระยอดประมาณ 300-400คน และบางส่วนก็ยังอยู่ที่สนามม้านางเลิ้งโดยเป็นกลุ่มคนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดไปอาบน้ำ และพักผ่อนอยู่ที่สนามม้านางเลิ้ง ก่อนจะมาสมทบในการชุมนุมใหญ่วันรุ่งขึ้น

ประกาศศอ.รส.ห้ามเข้าทำเนียบฯ-สภาคุมเข้มปั๊มแก๊ส
              ขณะที่พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.ศอ.รส.) ลงนามประกาศศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) 3 ฉบับเรื่องห้ามบุคคลเข้าหรือต้องออกจากบริเวณพื้นที่อาคาร หรือสถานที่ อย่างเช่นอาคารทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา และห้ามนำรถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊ส สารเคมี หรือวัตถุอัตรายใดๆเข้าไปในพื้นที่

กห.สั่งทบ.เตรียม24กองร้อยพร้อมช่วยตร.
              รายงานข่าวจากกระทรวงกลาโหมแจ้งว่าหลังจากรัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 3 เขต ใน กทม. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.)ได้สั่งการมายัง พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้กองทัพจัดเตรียมกำลังสนับสนุนตำรวจ หากไม่สามารถควบคุมดูแลสถานการณ์ได้ โดยเบื้องต้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ได้สั่งการไปยัง กองพลที่1 รักษาพระองค์ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ และ กองพลปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ให้แต่ละกองจัดเตรียมกำลังกองพลละ 8 กองร้อย เตรียมพร้อมในหน่วยที่ตั้ง หากมีการร้องขอการสนับสนุน
 
'นันทเดช'ประเมินม็อบอาจต่ำกว่าเป้า

              พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตนายทหาร ศรภ. และแกนนำกลุ่มสยามสามัคคี กล่าวประเมินสถานการณ์การชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามในวันที่ 24 พ.ย.ว่า เวลา 11.00 น.ตามที่ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ประกาศว่าจะต้องมีมวลชนถึง 5 หมื่นหรือ 1 แสนคนนั้น เมื่อถึงเวลาตามประกาศอาจมีมวลชนไม่มากตามเป้า เพราะผู้ที่ต้องการเข้าร่วมการชุมนุมถูกรัฐบาลสกัดทุกวิถีทาง ทั้งการตั้งด่านในทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ปิดถนนหลายสายโดยรอบพื้นที่ชุมนุม รวมทั้งการว่าจ้างมวลชนไม่ได้เดินทางไปชุมนุม
              "ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ถูกสั่งลงไปทุกจังหวัด และสั่งต่อกันจนถึงระดับตำบล ให้กำนันผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ในเครือข่ายสกัดกั้นผู้ชุมนุมให้ได้มากที่สุด" พล.ท.นันทเดช ระบุ และยังทราบว่าบรรดาแกนนำการชุมนุมได้พยายามเกลี้ยกล่อม เสธ.อ้าย ไม่ให้รีบประกาศล้มเลิกการชุมนุม เพราะผู้ชุมนุมอาจทยอยเดินทางไปร่วมมากขึ้นในช่วงบ่ายและเย็นของวันที่ 24 พ.ย. เนื่องจากเดินทางเข้ายาก และบางส่วนอาจรอดูท่าที เพราะรัฐบาลปล่อยข่าวใหญ่โตว่าจะมีสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้น รวมทั้งการตั้งด่านสกัดของรัฐบาลที่คล้ายปิดเส้นทางการเข้าไปร่วมชุมนุมมากกว่าเพื่อการรักษาความปลอดภัย

พันธมิตรพัทลุงรวมพลกว่า2,000คนสมทบ
               เมื่อเวลา 14.30 น. ที่บริเวณหน้าอนุสาวรีพระยาช่วยทุกขราษฎร์ สามแยกท่ามิหรำ เขตเทศบาลเมืองพัทลุง ได้มีกลุ่มคนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประมาณ 50 คน กำลังยืนรอรถบัสเพื่อโดยสารขึ้นกรุงเทพมหานครฯ โดยไปสมทบการชุมนุมของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยาม
วางกำลังเข้มบ้าน'ยิ่งลักษณ์'
              บรรยากาศบริเวณรอบบ้านเลขที่ 38/9 ซอยโยธินพัฒนา 3 ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา เขตลาดพร้าว กรุงเทพ บ้านนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีพื้นที่กว่า 2 ไร่ บริเวณรอบบ้านได้มีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองกำกับการตำรวจนครบาล 4 เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวรชายแดน เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล และหน่วยอรินราช วางกำลังคอยสังเกตุการณ์ดูแลความปลอดภัยก่อน

ตำรวจยันใช้แก๊สน้ำตาหากม็อบบุกพื้นที่ห้ามเข้า
              พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) พร้อมคณะร่วมกันแถลงแผนปฏิบัติการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ตำรวจจะไม่มีการสลายการชุมนุม  หากการชุมยืดเยื้อ ตรงกับอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้มอบหมายให้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลดูแผนการดูความปลอดภัยส.ส.ที่จะเข้าประชุมและเตรียมเปิดเส้นทางไว้แล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร  สำหรับแนวทางการปฏิบัตินั้นก่อนจะใช้อุปกรณ์ เช่น แก๊สน้ำตาจะมีการชี้แจงก่อนทุกครั้ง ซึ่งอาจจะไม่ได้ไล่ตามลำดับเหมือนการใช้แผนกรกฎ 52

รัฐสภาคุมเข้มความปลอดภัยรับม็อบพิทักษ์สยาม
              เมื่อเวลา16.15น.นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และคณะได้เดินตรวจสอบความเรียบร้อยบริเวณรอบอาคารรัฐสภาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเตรียมรองรับความปลอดภัยในการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ระหว่างวันที่25-27พ.ย.นี้ ซึ่งใกล้เคียงกับการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.)  โดยสิ่งที่คณะของนายเจริญ ให้ความสำคัญเป็นพิเศษคือบริเวณบันไดที่ใช้หลบหนีออกจากรัฐสภาเพื่อข้ามไปยังฝั่งพระที่นั่งวิมานเมฆ เครื่องสแกนวัตถุบริเวณทางเข้า-ออก อาคารรัฐสภา แบ่งออกเป็นบริเวณตึกรัฐสภา1 มี4จุด คือบริเวณทางเข้าด้านหน้า ด้านหลัง และชั้น2 ซึ่งเป็นทางเข้าสำหรับ ส.ส.และรัฐมนตรีเท่านั้น รวมไปถึงบริเวณจุดทางเชื่อมระหว่างอาคารรัฐสภา1และ2นอกจากนี้ยังติดตั้งที่บริเวณทางเข้าอาคารวุฒิสภา อีก1 จุด รวมทั้งสิ้น5จุด

วางกำลังตำรวจ50นายดูแลสถานีดาวเทียมไทยคม
              พ.ต.อ.ชาญศิริ สุขรวย ผกก.สภ.เมือง  จ.นนทบุรี  เปิดเผยว่า  ได้ประชุมกับผู้บริหารสถานีดาวเทียมไทยคม ถ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี   เพื่อเตรียมความพร้อมและหามาตรการป้องกันเหตุฉุกเฉินกรณีมีผู้ไม่หวังดีบุกเข้ามายึดและใช้พื้นที่ภายในสถานีดาวเทียมไทยคม  ทั้งนี้ทางสภ.เมือง   ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรวม 50 นาย  มาคอยเฝ้าระวังทั้งภายในและภายนอกสถานีดาวเทียมไทยคม

ตร.เมืองพิษณุโลกร่วมฝ่ายปกครองตั้งด่าน
              ที่บริเวณสี่แยกหนองอ้อ ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก ทางหลวงหมายเลข117 หรือถนนพิษณุโลก- นครสวรรค์ เป็นถนนสายหลักที่จากทางภาคเหนือลงสู่ จ.นครสวรรค์ เข้ากรุงเทพฯ นายเจน รัตนพิเชฏฐชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยนายอิทธิพล บุบผะศิริ ป้องกันจังหวัดพิษณุโลก พ.ต.อ.เดชชาติ วัฒนพนม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ได้ร่วมกันตั้งด่านบริการประชาชนที่สัญจรไปมา โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพมหานคร
พ่อเมืองโคราชสั่งเตรียมพร้อมคุมเข้มสถานที่ราชการ
              เมื่อเวลา 13.00 น. ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ด้านหลังศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวินัย บุญประดิษฐ์ ผวจ.นครราชสีมา ได้เรียกหัวหน้าส่วนราชการที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับความมั่นคงในเขต 32 อำเภอ ประชุมชี้แจงนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการตามมติ ครม. ( พ.ร.บ ความมั่นคงในเชิงพื้นที่ )

              นายวินัยได้กำชับสั่งการว่า ให้ฝ่ายปกครอง ประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจผลัดเปลี่ยนเวรยามหมั่นตรวจสอบสถานที่ราชการ โดยเฉพาะจุดที่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง และศูนย์กลางระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ แลสนับสนุนรถดับเพลิง รถไฟฟ้าส่องสว่าง จาก อปท.ในแต่ละพื้นที่ เตรียมพร้อมไว้ตลอด 24 ชั่วโมง
 
ผู้ว่าฯหนองคายเรียกประชุมด่วน
              เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ห้องประชุมปทุมเทวาภิบาล ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในการประชุมแจงสถานการณ์สำคัญและเร่งด่วน ให้กับข้าราชการระดับจังหวัด อำเภอ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หลังรับมอบนโยบายจากนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ผู้การสุพรรณฯเข้มสั่งตั้งจุดตรวจ
              พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผบก.ภจ.สุพรรณบุรี ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักหลักจัดกำลัง หมุนเวียนกันตั้งจุดตรวจ บริเวณสถานีบริการตำรวจทางหลวงสาลี อ.บางปลาม้า ตรวจค้นรถโดยสาร รถตู้และรถที่มีผู้โดยสารมากันหลายคน โดยการตรวจค้นเกี่ยวกับเรื่องอาวุธ สิ่งของผิดกฏหมาย ต่างๆรวมทั้งแรงงานต่างด้าว เพื่อเป็นการป้องกันกลุ่มบุคคลที่อาศัยช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมืองนำอาวุธเข้าไปสร้างความวุ่นวาย

ตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยาตั้งจุดตรวจ
              พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผบก.ภ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สุรพล แดงวิจิตร ผกก.สภ.บางบาล พร้อมด้วย พ.ต.ท.เชิดชัย โสไธยสง รองผกก.สส.สภ.บางปะหัน นำกำลังตำรวจ 30 นายตั้งจุดตรวจความเรียบร้อยบนถนนสายเอเซีย บริเวณด่านไม่เก็บเงิน ขาเข้ากรุงเทพมหานคร จำนวน 4 ช่องทาง ช่วง ก.ม. ที่ 40 ม. 2 ต.หันสัง อ.บางปะหัน โดยให้ทำการตรวจค้นรถยนต์และรถบรรทุกผู้โดยสาร  ที่จะนำมวลชนเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ  โดยมุ่งเน้นรถตู้โดยสาร  เพื่อไม่ให้มีการนำพาอาวุธหรือสิ่งผิดกฏหมายอื่นๆ
 
ปทุมธานีตั้งจุดตรวจจุดสกัด5แห่งเพื่อป้องกันเหตุ
              พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า ในการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามที่จะมีขึ้น ได้สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดปทุมธานี ได้ร่วมกันตั้งด่านตรวจจุดสกัดตามถนนสายหลัก 5 แห่ง คือ จุดตรวจถนนพหลโยธินขาเข้ากรุงเทพ ,จุดตรวจถนนสายรังสิต-นครนายก , จุดตรวจถนนสายพหลโยธิน-ลำลูกกา  ,จุดตรวจถนนสายเสนา -ปทุมธานี และจุดตรวจถนนสายตลิ่งชัน สุพรรณบุรี เพื่อค้น อาวุธ   จากรถทัวร์ รถตู้ รถกระบะ  พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และห้ามผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ร่วมชุมนุมเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ที่ระบุว่า ผู้ปกครองต้องดูแลเด็กให้เกิดความปลอดภัย นอกจากนี้ตามสถานที่สำคัญได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลรักษาป้องกันเหตุเช่นสถานีดาวเทียมไทยคม ลาดหลุมแก้ว ที่เป็นศูนย์ส่งสัญญาณดาวเทียมไปทั่วโลก  โดยจะตั้งจุดตรวจไปจนถึงในวันที่ 30 พ.ย.นี้
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น