วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

โอ๊คเหยียบหน้าบิ๊กโอ๋ อบรมการข่าวความมั่นคงปูดอีกมาร์กจุดสังหารแม้ว ข่าวหน้า 1 7 November 2555 - 00:00



 วิวาทะ รด.ปี 3 อบรมงานข่าวความมั่นคงพลอากาศเอก "พานทองแท้" เหยียบหน้า ฝาก "อาโอ๋" ดูรูปพม่าจับอาวุธ ปูดไปไกลมาร์กจุดยิงซ้อมแผนลอบสังหารแล้ว "สุกำพล" ศิโรราบลูกชายนายใหญ่ "ยิ่งลักษณ์" มั่วนิ่มโยงการเมือง ประชาธิปไตยต้องสันติวิธี ทึ่ง! "เป็ดเหลิม" เอาเข้า ครม. ตำรวจเป๋แล้ว แต่ทหารยังยืนยัน "ไม่มีรายงาน" โฆษก ทบ.เผย 2 เดือนที่แล้วแม่สายจับอาวุธมากกว่านี้อีก "ถวิล" แฉแค่หนีแดงไม่อยากตอบคำถามปรับ ครม. เชื่อจัดฉาก ตั้งข้อสังเกตก๊วนยาเสพติดลงขันฆ่า "เหลิม" ไม่ดีกว่าหรือ
    เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุกคดีคอรัปชั่น โพสต์ในเฟซบุ๊กตอบโต้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แบบสอนเชิง หลัง พล.อ.อ.สุกำพลออกมายืนยันว่าการจับอาวุธที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ไม่เกี่ยวกับแผนลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ
    "ฝากรูปนี้ให้ฝ่ายการข่าวของอาโอ๋ สุกำพลฯ รมว.กห. ซึ่งพี่น้องประชาชนทั้งประเทศให้ความไว้วางใจในการดูแลเรื่องการข่าวทางด้านความมั่นคงของประเทศไว้เพื่อพิจารณาครับ รูปนี้เป็นรูปที่ฝ่ายข่าวของ รมว.กห.อาจไม่เคยเห็น หรือเห็นแล้วแต่ไม่รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ อาโอ๋จึงได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า "จับได้เฉพาะ RPG 3 ลูก ไม่มีอาวุธปืน จึงไม่น่าจะเป็นการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ"
    พอดีโอ๊คเรียน รด.มา 3 ปี ไม่ได้หนีทหาร จึงรู้ว่าในรูปนี้ (มีที่นี่ที่เดียว ในสื่อไม่มีครับ) มีทั้งกระบอกยิงจรวด RPG 3 กระบอก (ลูก RPG 3 ลูกอยู่ในอีกรูปครับ) และกระบอกที่อยู่ด้านหน้าสุด คือปืน M16 ติดเครื่องยิงระเบิดวิถีโค้งขนาด 40 มม.แบบ M79 ไว้ด้านล่าง ซึ่งครูจ่า รด.ของโอ๊ค สอนว่า ถ้าติดกับปืน M16 เขาจะเรียกว่า M203 ครับ
    โอ๊คเอารูปนี้ให้ทีม รปภ.นายกฯ ซึ่งผ่านการอบรมเรื่องการอารักขาบุคคลสำคัญดู เขายกแขนให้ดูแล้วบอกว่า "เห็นแล้วขนลุก" ครับ พี่ๆ เขาได้อธิบายว่า หากเปิดเกม Surprise Attack ด้วย RPG ซึ่งเป็นจรวดวิถีตรง ในกรณีที่ยิงพลาดเป้า ผู้คนที่เหลืออยู่ก็จะแตกตื่น และวิ่งหนีเข้าที่กำบัง พลตรวจการณ์ก็จะชี้เป้า บริเวณที่เป้าหมายหลบซ่อนตัวให้กับพลยิง M79 ซึ่งได้มีการซักซ้อมมาร์กจุดกันไว้แล้ว ยิงระเบิดวิถีโค้งถล่มอีกที แล้วซ้ำด้วยปืน M16 
    เจอแบบนี้ จะเอาอยู่มั้ยล่ะครับ "หลวงพ่อหนัง" ของนายกฯ ทักษิณน่ะ รปภ.เขาเรียก "เป้าหมายถูกทำลาย รปภ.ตายด้วย" ครับ ด้วยความเคารพต่อท่าน รมว.กห. และด้วยความเป็นห่วงพ่อครับ ทั้ง RPG ทั้ง M79 ทั้ง M16 จัดครบ จัดเต็ม ตามรูปนี้ ท่านช่วยชี้แจงที่มาของคำว่า "ไม่มีอาวุธปืน" หน่อยครับ"
    ด้าน พล.อ.อ.สุกำพล ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ได้ดูรูปอาวุธสงครามที่นายพานทองแท้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก แต่ตนก็ไม่ต้องการให้ผู้สื่อข่าวจับตนไปชนกับนายพานทองแท้ เรื่องนี้เป็นอย่างไรตนรู้ดี ถามว่ามีความเป็นห่วง พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่นั้น ตนต้องรู้สึกเป็นห่วงอยู่แล้ว เพราะมันเป็นเรื่องความปลอดภัย แต่สิ่งที่นายพานทองแท้พูดตนก็รับฟัง ส่วนนายพานทองแท้จะว่าอย่างไรนั้นเป็นเรื่องของเขา ตนขออยู่เฉยๆ
     “เขาเป็นลูก เขาก็ต้องห่วงพ่อเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งผมก็ห่วงเพื่อนของผม ส่วนเรื่องนี้จะจริงหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณรู้ดีที่สุด ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาระหว่างผมกับนายพานทองแท้ ส่วนจะต้องพูดคุยหรือทำความเข้าใจกันหรือไม่นั้น เป็นเรื่องส่วนตัวของผม ไม่จำเป็นที่จะต้องบอกหรือประกาศให้ใครทราบ"  รมว.กลาโหมกล่าว
"แม้ว" ยกเลิกไปท่าขี้เหล็ก
    นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ แจ้งว่า ทางฝ่ายผู้มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทั้ง 2 ประเทศ ได้ให้คำแนะนำว่า สถานการณ์ในพื้นที่มีอันตรายและไม่น่าไว้วางใจ ได้ให้คำแนะนำว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรเลื่อนการเดินทางไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ออกไปก่อน ประกอบกับ พ.ต.ท ทักษิณเกรงว่าประชาชนจำนวนมากที่จะเดินทางไปพบที่ จ.ท่าขี้เหล็ก อาจจะได้รับอันตราย ถ้าหากมีการใช้อาวุธร้ายแรงดังกล่าว
    เขาบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ตัดสินใจเลื่อนการเดินทางไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก แต่กำหนดการอื่นยังคงเดิม คือจะยังคงเดินทางเข้าพบเพื่อเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ที่กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า และจะเดินทางกลับในวันเดียวกัน 
    น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ในส่วนของประเทศไทยได้รับรายงานแล้ว อย่างที่ได้เรียนไม่ได้มีการเกี่ยวโยงกองทัพในเรื่องของอาวุธที่จับได้ จากเหตุการณ์ที่ได้ติดตามมาตนเองไม่อยากให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น    
    "จริงๆ ท่านก็เป็นพี่ชาย ขณะเดียวกันก็ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับใครใดๆ เลย เพราะเราถือว่าเราอยู่ในยุคของประชาธิปไตย ซึ่งในยุคประชาธิปไตยนี้เราควรหันเข้ามาพูดคุยกันหรือหันเข้ามาแก้ปัญหาตามกระบวนการ และใช้สันติวิธี เป็นน้องสาวก็ต้องเป็นธรรมดาที่ต้องห่วง" นายกฯ กล่าว
    ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจับชายไทยใหญ่ที่อ้างว่าเตรียมลอบสังหารว่า "เพราะฝั่งไทยจ้างไป สื่อบางฉบับไปเขียนบอกว่า จุดที่จับห่างจากโรงแรมเรจิน่าแอนด์กอล์ฟคลับกิโลเมตรครึ่ง อาร์พีจียิง 500 เมตร ยิงทั้งคืนก็ไม่ตาย ปัดโธ่..ก็มันไม่รู้เรื่อง มันต้องการประทุษร้ายที่พระธาตุชเวดากอง ไม่ใช่ที่โรงแรม ซึ่งไม่ใช่โรงแรมใหญ่โต แค่สองชั้น ผมไปนอนมาแล้ว พวกนี้อวดฉลาดไม่รู้เรื่อง เป็นธรรมดาข่าวไม่ตรงกันก็เยอะ”
     ซักว่าหากสอบพบว่ามีมูลจะขอตัวชาวไทยใหญ่คนดังกล่าวมาดำเนินคดีในไทยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ถ้าไม่มีหลักฐานในพม่า มีหลักฐานฝั่งไทยก็ต้องดำเนินคดีต่อไป ถ้ามันพาดพิงไม่ถึงไม่มีหลักฐานก็จบ ไม่เห็นจะสร้างข่าวทำไม ตนไม่ได้นั่งเทียน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 รายงานมาที่ตน สตช.เองไม่มีข้อมูล เรื่องมีเท่านั้นตนยืนยันว่าเป็นจริง
    นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม. ว่า ร.ต.อ.เฉลิมได้เป็นประธานการประชุม ครม.และนำเรื่องนี้ไปชี้แจงใน ครม.ด้วย
ขุนพลอยพยัก
    พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ  (สมช.) ให้สัมภาษณ์ว่า การจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวมีความสัมพันธ์ที่จะเกิดเหตุ แต่ว่าการขยายผลต่อไปก็อยู่ในรายละเอียด เพราะผู้ถูกจับกุมอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เราก็ต้องให้เกียรติประเทศเพื่อนบ้านเป็นคนสืบสวนสอบสวนโดยมีเราเข้าไปร่วม ซึ่งชั้นต้นปรากฏข่าวสารเป็นอย่างนี้ ขณะนี้ก็ต้องรอในรายละเอียดเพื่อตกผลึกต่อไป
    เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก สตช. ที่ก่อนหน้านี้ออกมาระบุว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร แต่แค่ข้ามวันกลับพูดเป็นอีกเรื่อง โดยบอกว่าได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 ไปประสานงานกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลของพม่าถึงการจับกุมอาวุธสงครามดังกล่าว รวมถึงการข่าวต่างๆ ด้วย แต่ล่าสุดยังไม่ได้ข้อสรุปว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นกลุ่มใดหรือเป็นใคร และมีสาเหตุใดที่จะลอบสังหารอดีตนายกฯ โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลทุกอย่าง รวมถึงกระแสข่าวที่ระบุว่ามีนายพลตัวย่อ “พ.” เป็นหัวหน้าทีมลอบสังหารด้วย
    ขณะที่นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ อดีตเลขาธิการ สมช. เผยว่า เรื่องนี้สามารถมองได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีความตั้งใจเดินทางมาพบประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ที่กรุงเนปิดอว์ เพื่อเจรจาเรื่องธุรกิจการค้าตั้งแต่แรก จึงจำเป็นต้องแสดงตัวให้มวลชนเสื้อแดงเข้าพบด้วย แต่เมื่อเกิดแรงกระเพื่อมจากการปรับ ครม.ที่ไม่มีชื่อนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง จึงเกิดภาวะกลืนไม่เข้า คายไม่ออก ต้องเลี่ยงโดยหยิบเหตุผลด้านความปลอดภัยเป็นข้ออ้าง 
    “บอกว่าตัวเองถูกลอบสังหารถึง 4 ครั้ง แต่ที่ผ่านมาล้วนไม่เคยมีมูลแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้งการบินไทยระเบิดเมื่อปี 44 หรือเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่ยังไม่รู้ว่าเป็นการลอบสังหารจริงหรือจัดฉาก การลักลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่เรื่องง่ายตามที่ออกมาให้ข่าว ยิ่งลักลอบปฏิบัติการในต่างประเทศยิ่งยากไปใหญ่ ส่วนที่บอกว่ากลุ่มผู้ค้ายาลงขันกันลอบสังหารนั้น ถือว่ามีน้ำหนักน้อย การปราบปรามยาเสพติดสมัยทักษิณล่วงเลยมาหลายปีแล้ว จะมาทำอะไรตอนนี้ หากผู้ค้ายาจะลงขันฆ่าทักษิณ  ลงขันฆ่า ร.ต.อ.เฉลิมไม่ดีกว่าหรือ” 
    อดีตเลขาฯ สมช.บอกว่า เรื่องนี้ต้องรอรายงานผลการสอบสวนชาวไทยใหญ่ที่ถูกจับกุมออกมาเป็นที่ชัดเจน ไม่ใช่ฟังคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิมเพียงฝ่ายเดียว 
    นายถวิลกล่าวอีกว่า รัฐบาลควรระมัดระวังความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย การไปโจมตีประเทศพม่าว่าไม่มีความปลอดภัยต่ออดีตนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีมูลความจริงที่ชัดเจน จะกลายเป็นการกล่าวหาประสิทธิภาพของหน่วยงานความมั่นคงในประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่รู้ตัว อยากถามย้อนมาว่า หากเขาใช้ความมั่นคงในประเทศไทยเป็นตัวละครบ้าง เราจะรู้สึกอย่างไร
กองทัพยันไม่มีรายงาน
      พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า ในขอบเขตความรับผิดชอบของกองทัพบก ยังไม่มีการรายงานว่า การจับอาวุธสงครามดังกล่าวเชื่อมโยงกับการลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ และยังไม่พบสิ่งผิดปกติในลักษณะดังกล่าว แต่ทางกองทัพภาคที่ 3 ก็ได้มีการหาข้อมูล แต่ในระดับสูงอย่างสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รัฐบาล และ ร.ต.อ.เฉลิม อาจมีช่องทางอื่นในการประเมินสถานการณ์ด้านการข่าว
    เขาเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ทราบเรื่องแล้ว โดย ผบ.ทบ.เคยมีนโยบายให้เข้มงวดกวดขันในการกระทำผิดกฎหมาย และให้ดูที่มา-ที่ไป โดยร่วมมือกับตำรวจ ซึ่งประมาณ 2 เดือนก่อนหน้านี้เคยจับกุมอาวุธสงครามได้ที่ อ.แม่สาย จำนวนมากกว่าครั้งนี้อีก 
    นักธุรกิจชายแดนไทย-พม่ารายหนึ่ง ระบุว่า ขณะนี้มีการจับตามองการเดินทางไปพม่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อพบ พล.อ.เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีพม่า ที่ทำเนียบรัฐมนตรี กรุงเนปิดอว์ ในวันที่ 8 พ.ย.นี้ คาดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายมากนัก แต่น่าจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านพลังงานมากกว่า เพราะถือเป็นธุรกิจหลักที่  พ.ต.ท.ทักษิณสนใจ โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐ ก็พุ่งเป้ามาที่ผลประโยชน์ด้านนี้มานานแล้ว จะเห็นได้ว่ามีความเคลื่อนไหวของสหรัฐต่อการลงทุนในพม่าอย่างคึกคัก หลังจากที่ทางการพม่าได้เปิดประเทศอย่างเป็นทางการ และไฟเขียวให้สหรัฐเข้าร่วมโปรแกรมการฝึกร่วมผสมภายใต้รหัสคอบร้าโกลด์ เหลือแค่ขั้นตอนการแก้ไขกฎระเบียบของทางการสหรัฐเท่านั้น
    นายกษิต ภิรมย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีต รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า ตอนที่พม่าเป็นรัฐบาลทหาร และมีกลุ่มต่อต้านนั้น ได้ขอร้องให้รัฐบาลไทยไม่ให้กลุ่มต่อต้านใช้ประเทศไทยเป็นเวทีต่อต้านรัฐบาลพม่า รวมทั้งมีหลักของอาเซียนว่าด้วยการไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกัน ซึ่งรัฐบาลพม่าต้องตอบให้ได้ว่า การที่ปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาที่พม่า แล้วมาทำกิจการทางการเมือง ถือว่ารัฐบาลพม่ากลืนน้ำลายตัวเองหรือไม่ และละเมิดหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกันหรือไม่
    "คุณทักษิณใช้ประเทศพม่าทำกิจการการเมืองที่เกี่ยวกับประเทศไทย และถือว่าพม่าช่วยสร้างความแตกแยกให้กับไทย" นายกษิตกล่าว
    นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัยต์ กล่าวว่า เป็นขบวนการโกหก และใส่ร้ายคนอื่น ซึ่งเรียกได้ว่า โกหกทั้งโคตร หลังจากที่มีการโกงทั้งโคตรไปแล้ว ซึ่งเป็นการสร้างภาพให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณถูกรังแก และเป็นการแย่งพื้นที่ข่าวเท่านั้น ไม่ได้สนใจในเรื่องของข้อเท็จจริง แค่สร้างเรื่องไปวันๆ เท่านั้น
    “เสียดายองค์กร และเสียดายตัว พล.ท.ภราดร ที่เป็นข้าราชการมานาน แต่ต้องมาเสียเพราะคบเด็กสร้างบ้านเพื่อช่วยคนคนเดียว แต่อย่างไรก็ตาม ผมร้สึกสงสารองค์การความมั่นคงของชาติมากกว่า ที่ต้องเสื่อมเสียเพราะการกระทำในครั้งนี้” นายถาวรกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น