วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ผวาซักฟอก‘ยิ่งลักษณ์’งอแงข่าวหน้า 1 31 October 2555 - 00:00




ผวาซักฟอก‘ยิ่งลักษณ์’งอแง

  ฝ่ายค้านเคาะยื่นซักฟอก 9 พ.ย. กำหนดวันเปิดสภาเชือด 25-26 พ.ย. ลงมติ 27 ก่อน ส.ว.ลงอีกดาบ 28 พ.ย. "ยิ่งลักษณ์" งอแงไม่อยู่ร่วมประชุม อ้างงานเยอะ จัดคิวล่วงหน้าหมดแล้วเปลี่ยนไม่ได้ "เหลิม" ขู่ม็อบจะใช้ระเบิดควัน-แก๊สน้ำตาชนิดไม่มีเสียงปราบ
    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิปฝ่ายค้านมีมติยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 9 พฤศจิกายน และจะเปิดเผยรายชื่อว่าจะอภิปรายใครบ้างในวันดังกล่าว  เบื้องต้นได้ประสานงานกับนายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล ว่าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 25-26 พ.ย. และลงมติในวันที่ 27 พ.ย. และหากอภิปราย 2 วันไม่เสร็จสิ้น จะอภิปรายเพิ่มในวันที่ 27 พ.ย. และลงมติในวันที่ 28 พ.ย.
         เขายอมรับว่า การปรับคณะรัฐมนตรีกระทบต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจบ้าง เห็นว่าเป็นการปรับเพื่อจะให้มีผลในการรับมือกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะนายกรัฐมนตรีได้ประเมินว่าจะมีการอภิปรายเรื่องโครงการรับจำนำข้าว จึงปรับเพื่อหวังผลรับมือเรื่องดังกล่าว การที่ไม่ปรับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ออกจากตำแหน่ง ก็เพื่อให้นายบุญทรงมารับหน้าเสื่อในการถูกอภิปรายเรื่องโครงการรับจำนำข้าว แทนนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม มองว่าการปรับ ครม.ในครั้งนี้ เป็นการแบ่งเค้กกันภายในกลุ่มเครือญาติ หรือ 3 ก๊กภายในพรรคเพื่อไทย หรือจะเรียกว่าเป็น ครม. 3 ก๊กก็ได้
        ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย  กล่าวว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยมีมติของคณะกรรมการบริหารพรรคที่จะร่วมกับ ปชป. ในการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ ส่วน ส.ส.ของพรรคจำนวนทั้งสิ้น 34 คน จะลงชื่อทั้งหมดหรือไม่นั้น ต้องรอทำความเข้าใจภายในพรรคอีกที แต่เบื้องต้นมีลงชื่อแน่นอน 27 คน
    ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าพรรคฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายเรื่องอะไร คงต้องรอหลังจากที่ยื่นมาอย่างเป็นทางการก่อน จากนั้นจะให้รัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องเตรียมข้อมูลในการชี้แจง    
    ถามว่า ระหว่างวันที่ 25-26 พ.ย. สามารถอยู่ชี้แจงได้ตลอดหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า จะมีติดภารกิจบางช่วง ซึ่งเราได้แจ้งล่วงหน้าแล้ว ทุกอย่างที่ติดเป็นภารกิจที่ล่วงหน้าไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งได้แจ้งทางวิปรัฐบาลไปแล้ว ดังนั้นขึ้นกับวิปที่จะหารือกันในรายละเอียด เมื่อถามว่า หากไม่ติดภารกิจนายกฯ พร้อมที่จะชี้แจงด้วยตนเองหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถ้าไม่ติดก็ชี้แจง เพราะเป็นหน้าที่ที่เราต้องชี้แจง
    ซักว่า หากมีการพุ่งเป้ามาที่ตัวนายกรัฐมนตรี พร้อมจะชี้แจงหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า ถือเป็นกลไกในรัฐสภาในการที่จะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ตนเองพร้อมที่จะชี้แจงและให้ข้อมูลกับทางฝ่ายค้าน
    เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านมีการตั้งข้อสังเกตแม้นายกฯ มาสภา แต่คงไม่เข้าไปนั่งล่อเป้าในที่ประชุมสภา โดยจะนั่งอยู่ในห้องรับรอง นายกฯ กล่าวว่า อย่าเพิ่งตั้งอะไรไปก่อน เพราะบางทีต้องอยู่ที่เนื้อหา และบางครั้งการทำงานอยู่ที่ว่าอยู่ตรงไหน อยู่ในสภาเราก็รับฟัง และอยู่ที่หัวข้อที่เกี่ยวข้อง ถ้าเกี่ยวข้องจำเป็นต้องขึ้นมาตอบเราก็มาตอบ
"ยิ่งลักษณ์" งอแง
    ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ใช้เวลาช่วงหนึ่งขณะเดินทางมายังพรรคเพื่อไทยด้วยการหารือกับแกนนำพรรคเพื่อไทย 
    จากนั้น นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล ได้แจ้งต่อที่ประชุมใหญ่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ โดยระบุถึงเรื่องเงื่อนเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้ว่า ได้ตรวจสอบปฏิทินการประชุมสภาผู้แทนราษฎรและรัฐสภาแล้ว เบื้องต้นนายกรัฐมนตรีได้แจ้งกับวิปรัฐบาลเพื่อขอให้ไปประสานกับฝ่ายค้านว่าจะขอให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันอาทิตย์ที่ 25 พ.ย. และจันทร์ที่ 26 พ.ย.นี้
    อย่างไรก็ตาม นายกฯ ได้บอกว่า ขอให้ประสานกับฝ่ายค้านว่า หากเป็นไปได้ การยื่นอภิปราย หากมีการอภิปรายนายกรัฐมนตรีด้วย ก็ขอให้อภิปรายหลังวันที่ 25 พ.ย. เพราะวันดังกล่าวติดภารกิจไม่สามารถเข้าประชุมสภาได้ และคงไม่อยู่ในที่ประชุมสภาวันที่ 25 พ.ย. แต่จะมาในวันรุ่งขึ้นคือ 26 พ.ย. การอภิปรายจึงจะมี 2 วัน คือ 25-26 พ.ย. อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวันที่ 28 พ.ย. ได้มี ส.ว.ขอยื่นอภิปรายรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ซึ่งได้ประสานกับทาง ส.ว.ไว้แล้ว ดังนั้นการอภิปรายของฝ่ายค้าน หากเกินเที่ยงคืนวันที่ 26 พ.ย. ก็จะทำให้ต้องพักไว้ 1 วัน แล้วไปลงมติวันที่ 28 พ.ย. แต่ก็ไปตรงกับวันอภิปรายของ ส.ว. จึงต้องไปหารือกับทางฝ่ายค้านเพื่อขอให้การอภิปรายอยู่ในกรอบไม่เกินเที่ยงคืนวันที่ 26 พ.ย. เพื่อจะได้ลงมติ 27 พ.ย. แล้ววันที่ 28 พ.ย.ก็ให้ประชุมวุฒิสภาแบบไม่มีการลงมติ
    “ฝ่ายค้านเราก็รู้อยู่ เราบอก ก. เขาก็บอก ข. ก็ต้องไปคุยกับวิปฝ่ายค้านให้ได้ข้อยุติก่อน ฝ่ายเราก็ต้องรักษาเวลาด้วยเช่นการประท้วงเพื่อให้อยู่ภายในเวลา 2 วัน เพราะวันที่ 28 พ.ย.นี้ เป็นวันสุดท้ายของสมัยประชุม"  
    นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ที่ไม่สามารถอภิปรายได้ก่อนหน้านี้เพราะตารางปฏิบัติงานวางไว้หมดก่อนแล้ว โดยเฉพาะการเดินทางไปต่างประเทศ” ประธานวิปรัฐบาลระบุกลางที่ประชุม ส.ส.เพื่อไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมกับร่ายตารางเวลาการเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีในช่วงเดือน พ.ย. 
    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องไม่ควรจะหนี และ น.ส.ยิ่งลักษณ์เองตอบแล้วว่าไม่หนี แต่จะตอบคำถามหรือไม่นั้น พอถึงเวลาจริงก็จะพิสูจน์เอง ซึ่งข้อเท็จจริงก็ต้องปรากฏอยู่แล้ว ส่วนระยะเวลาการอภิปรายถ้าจำเป็นต้องอภิปรายในวันเสาร์-อาทิตย์ ฝ่ายค้านก็ไม่เกี่ยง ซึ่งวิป 2 ฝ่ายก็ได้คุยกันแล้ว จึงไม่น่ามีปัญหา
    หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังให้สัมภาษณ์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel ถึงการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยากให้ใช้กลไกรัฐสภาในการตรวจสอบรัฐบาลแทนสนามม้าว่า ตนฟังแล้วแปร่งๆ เพราะคนที่ไม่ใช้กลไกรัฐสภาในขณะนี้คือรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเข้าร่วมประชุมสภาน้อย ไม่มาตอบกระทู้ถามสด ไม่มาแลกเปลี่ยน และไม่มาฟังการอภิปรายของ ส.ส. ทั้งนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่นายกรัฐมนตรีจะบอกกับผู้ที่มาชุมนุมว่าอยากให้ใช้กลไกรัฐสภา แต่ตนคิดว่าสังคมก็คงต้องบอกนายกรัฐมนตรีกลับไปเหมือนกันว่าขอให้ใช้กลไกรัฐสภาเช่นเดียวกัน 
"เหลิม" ไม่ให้ไล่กลัวไม่มีรัฐบาล
    ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรฯ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงรักอีสาน 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกาศว่า หากม็อบกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามนำม็อบมาล้อมทำเนียบฯ จะนำม็อบคนเสื้อแดงมาล้อมม็อบกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ว่าไม่มีหรอก เขาคุยสนุก นายขวัญชัยเขาไม่ทำหรอก เขาเป็นคนมีเหตุผล ยืนยันไม่มี
    "ขอย้ำไว้ก่อนว่าการดูแลควบคุมฝูงชนคราวนี้เราใช้หลักสากล สถานการณ์เป็นอย่างไรจะพัฒนาไปตามสถานการณ์โดยใช้ตามหลักสากล ไม่ใช้อาวุธ ระเบิดควันจะใช้ชนิดไม่มีเสียง แก๊สน้ำตาใช้ชนิดไม่มีเสียง และจะใช้รถควบคุมฝูงชน การปฏิบัติทุกขั้นตอน จะบอกผู้ชุมนุมให้ทราบว่าทำอย่างนี้ผิด  ทำอย่างนี้ไม่ได้ ทำอย่างนี้เข้าข่ายอย่างนี้ตลอด เพราะหลังการควบคุมฝูงชนแล้วพวกผมไม่อยากเป็นผู้ต้องหา เราทำให้เห็นสื่อรับรู้รับทราบ บันทึกวิดีโอทุกขั้นตอน ไม่มีการใช้อาวุธ ยุทโธปกรณ์ที่ขัดหลักสากล"
    เมื่อถามว่า การข่มขู่ที่จะมาชุมนุมล้อมทำเนียบฯ ได้มีจัดกำลังตำรวจรับมือไว้แล้วหรือยัง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนยังเชื่อว่าเขาไม่มาทำเนียบฯ จะมาทำไม
    “หากคุณมาไล่พวกผม ใครมาเป็นรัฐบาล หรือจะเป็นกันเอง ก็เป็นไม่ได้ เพราะต้องคัดเลือกโดยสภาผู้แทนราษฎรก่อนจะเป็นรัฐบาล ทรงพิจารณาโปรดเกล้าฯ เป็นรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อมาก็ต้องถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนที่จะบริหารราชการบ้านเมืองได้ และพวกคุณเป็นใคร ไม่มีใครเขาเอาด้วยหรอก” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น