ประยุทธ์ย้ำม็อบไม่เกี่ยวทหาร ข่าวหน้า 1 13 November 2555 - 00:00

 พันธมิตรฯ ประกาศไม่ร่วมม็อบเสธ.อ้าย แค่ให้กำลังใจ แต่ไม่ปิดกั้นคนเสื้อเหลืองไปชุมนุม "กลุ่มพิทักษ์สยาม" มั่นใจวันที่ 24 พ.ย.มียอดมามากกว่า 2 แสนคน "ยิ่งลักษณ์" วอนชุมนุมโดยสงบ "เฉลิม" ฟุ้งรู้ตัวกลุ่มทุนหนุนหลังชุดเดียวกับพวก 19 ก.ย.49 "ณัฐวุฒิ" ยันเสื้อแดงไม่เคลื่อนไหว "จ่าประสิทธิ์" ซัดม็อบจ้องปั่นสถานการณ์ ยั่วทหารลากรถถังปฏิวัติ "ประยุทธ์" ย้ำเป็นเรื่อง ปชช.ไม่เกี่ยวทหาร
    เมื่อวันจันทร์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้ประชุมหารือถึงจุดยืนต่อการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม นำโดย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ในวันที่ 24 พ.ย.55 ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า
    พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ รุ่นที่ 1 แถลงว่า แกนนำพันธมิตรฯ ยังยืนยันจุดยืนเดิมตามแถลงการณ์ฉบับที่ 8/2555 ที่มีมติให้กำลังใจในการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม และให้ทราบว่าแกนนำไม่พร้อมเข้าร่วมชุมนุม แต่การตัดสินใจของประชาชนในการเข้าร่วมชุมนุม ถือเป็นสิทธิเสรีภาพที่ได้บัญญัติเอาไว้ในรัฐธรรมนูญ และเป็นวิจารณญาณของปัจเจกบุคคล
    "แกนนำพิจารณาแล้วเห็นว่า ควรให้กำลังใจอย่างเป็นรูปธรรม จึงเห็นว่าควรงดกิจกรรมใดที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามในวันดังกล่าว ดังนั้นจึงมีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ ให้งดจัดงานเสวนาการปฏิรูปการเมืองในวันที่ 24 พ.ย.55 ที่จังหวัดกาญจนบุรี และวันที่ 25 พ.ย.55 จังหวัดเพชรบุรี เพื่อเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนได้ใช้วิจารณญาณและการตัดสินใจส่วนตน ในการที่จะเข้าร่วมชุมนุมหรือไม่ก็ได้ในวันดังกล่าว โดยปราศจากอุปสรรคอันอาจเกิดจากการจัดกิจกรรมของพันธมิตรฯ" แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว
    พล.ต.จำลองกล่าวว่า พันธมิตรฯ ยังคงเลือกวิธีการเดินสายสัญจรให้ข้อมูลประชาชนทั่วประเทศ ในประเด็นเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน และรอเวลาตลอดจนสถานการณ์ที่สุกงอม เพื่อให้ประชาชนตื่นรู้และเรียกร้องการปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่
    ด้าน พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวว่า จนถึงขณะนี้มีตัวเลขผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมที่ประเมินไว้มากกว่า 2 แสนคน โดยจะมาจากทั่วทุกจังหวัด และบางคนอาจจะเดินทางมาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. เนื่องจากเกรงว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดการเดินทางเข้า กทม. ซึ่งการชุมนุมจะไม่ยืดเยื้อ เพราะปัจจัยสำคัญอยู่ที่จำนวนมวลชน ไม่ใช่จำนวนวัน     
    พล.อ.บุญเลิศกล่าวถึงกรณี พล.ท.มนัส เปาริก ที่ปรึกษา รมช.มหาดไทย เตรียมทหารรุ่น 10 ระบุมีทหารกลุ่มเก่าที่รู้ๆ กัน อักษรย่อ "ส.” และ "ป.” เป็นผู้อยู่เบื้องหลังองค์การพิทักษ์สยาม อีกทั้งนายทหารชื่อเล่น "ต” เป็นกองหนุน และพร้อมตั้งวอร์รูมจับตาสถานการณ์ว่า คงจะหมายถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี 
    "มันจะตั้งวอร์รูมก็ให้มันตั้งไป พวกมันก็รู้กันหมดนะว่าเราก็มีแค่คนเดียว  ไอ้พวกเวรนี่ก็ตบแต่งเรื่องกันไป ก็ดีปล่อยให้พวกมันแต่งกันไป เรื่องของมัน เพราะยังไงพวกท่านไม่เกี่ยวข้องด้วยอยู่แล้วเรื่องนี้” ประธานองค์การพิทักษ์สยามกล่าว
    ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากขอความร่วมมือการชุมนุมให้ชุมนุมโดยสงบ เพราะจริงๆ แล้ววันนี้ทุกประเทศก็มองประเทศไทย เราเองจะเห็นว่าที่ผ่านมาประเทศเสียหายไปเยอะ เราอยากให้มองไปข้างหน้า และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทย 
    "ในส่วนของรัฐบาลเอง วันนี้มีกลไกในส่วนของรัฐสภาที่ทางฝ่ายค้านสามารถที่จะยื่นตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอยู่แล้ว ดังนั้นอยากให้เห็นเวทีนี้เป็นเวทีในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ที่เป็นไปตามครรลองความสงบและหลักประชาธิปไตย" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
    ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การใช้สิทธิ์ในระบอบประชาธิปไตยเป็นเรื่องที่ทำได้และก็ควรสนับสนุน แต่ถ้าการใช้สิทธิ์ไปกระทบสิทธิ์ของผู้อื่น ซึ่งไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ตนคิดว่าม็อบก็คงไม่ทำ เพราะ พล.อ.บุญเลิศก็เป็นอดีตนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ต้องรักบ้านรักเมืองไม่น้อยกว่าคนอื่น
    "เชื่อว่าผู้ชุมนุมเคารพกติกา และผมจะบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าใช้ความรุนแรงเด็ดขาด แต่ให้ใช้หลักสากล และแนะนำไปแล้วว่าให้เชิญตัวแทนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), ตัวแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), ตัวแทนผู้ตรวจการแผ่นดิน, ตัวแทนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และตัวแทนสำนักงานอัยการสูงสุด มาร่วมสังเกตการณ์ดูแลการชุมนุม" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
    ซักว่า แกนนำระบุจะมีผู้ชุมนุมมาถึง 1 ล้านคน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ประเมินยาก ขอไม่แสดงความคิดเห็นเพราะอาจผิดพลาด
    ถามถึงกระแสข่าวมีทุนใหญ่หนุนม็อบ พล.อ.บุญเลิศ รองนายกฯ กล่าวว่า ก้ำกึ่ง ซึ่งจากสายข่าวน่าจะเป็นกลุ่มทุนเล็กๆ บ้าง ใหญ่ๆ บ้าง โดยเป็นชุดเดียวกับ 19 ก.ย.49 แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าตนและเจ้าหน้าที่ทราบแล้ว
    นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า การชุมนุมวันที่ 24 พ.ย.คงเป็นการสร้างแรงเสียดทานให้กับรัฐบาลในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คิดว่าจำนวนผู้มาชุมนุมจะไม่ถึงหลักล้านอย่างที่ พล.อ.บุญเลิศพูดไว้ แต่อาจมีการขอฉันทานุมัติในการชุมนุมต่อเนื่องวันที่ 25 พ.ย. เพื่อส่งผลให้รัฐบาลเผชิญทั้งศึกทั้งในและนอกสภาฯ ซึ่งเป็นเกมที่เราคาดคะเนได้
    แกนนำเสื้อแดงกล่าวว่า การชุมนุมนี้มุ่งหวังให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาปะทะอยู่แล้ว เพื่อจะได้เป็นข้ออ้างรัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ แล้วจะมีบางส่วนออกมาผสมโรงเกิดการโค่นล้มรัฐบาล นำไปสู่การปิดประเทศในที่สุด แต่ประชาชนที่ต่อสู้ทางการเมืองมา 5-6 ปี เขามีประสบการณ์ รู้เท่าทัน และจะไม่ยอมให้ขบวนการนอกระบบมาทำลายประชาธิปไตย กลุ่มคนเสื้อแดงยังไม่มีความคิดที่จะเอามวลชนมาเผชิญกับองค์การพิทักษ์สยาม
    จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า คาดการณ์จะมีคนออกมาร่วมมากกว่าครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากมีการบูรณาการอย่างเป็นระบบ ได้รับความร่วมมือจาก 85 เครือข่าย และทราบมาว่าบางพื้นที่ว่าจ้างผู้มาชุมนุมคนละ 1,000 บาท 
    "เป็นห่วงว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะสร้างสถานการณ์ เช่น ขว้างปาระเบิดปิงปองใส่กันเอง หรือไม่ก็ยั่วให้เจ้าหน้าที่เข้ามาปะทะก่อน แล้วกลุ่มตัวเองก็จัดการทีหลังเพื่อนำไปสู่ความวุ่นวาย ทำทุกอย่างเพื่อให้มีการปฏิวัติ" จ.ส.ต.ประสิทธิ์ระบุ
    นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยได้ขอให้ ส.ส.ลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจกับประชาชน เพราะมีกลุ่มบุคคล กลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล เข้าไปให้ข้อมูลที่บิดเบือนต่อประชาชนว่า รัฐบาลไม่จงรักภักดี ทุจริต และเป็นหุ่นเชิด ซึ่งไม่เป็นความจริง
    ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์อยู่ ทราบว่าการชุมนุมดังกล่าวเป็นการชุมนุมตามกระบวนการประชาธิปไตย ในส่วนของทหารได้แจ้งไปว่า คงไม่ใช่เวลาที่จะดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นเรื่องของประชาชนที่เคลื่อนไหวตามกระบวนการประชาธิปไตย และหวังว่าจะไม่มีใครทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น เนื่องจากจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ดูแล
    "การชุมนุมใดก็ตาม หากทหารจะไปร่วมชุมนุมถือเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ผมคิดว่าเมื่อยังทำหน้าที่เป็นทหารที่อยู่ในราชการ ก็ไม่อยากให้ไปร่วมชุมนุม เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาขึ้นในภายหลังหากเกิดเรื่องราวขึ้นมา" ผบ.ทบ.กล่าว.