คำต่อคำ: "น.ต. ประสงค์"ฟันเปรี้ยง!!! แก้รธน.ไม่ได้ -อาจผ่านขั้นแรกแต่สุดท้ายไม่รอด
"ประสงค์ สุ่นศิริ" ฟันธงแก้รธน.ไม่ได้ อาจผ่านในขั้นต้นแต่พอวาระสุดท้ายแล้วแก้ไม่ได้ พร้อมชี้ ทำเพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายการเมืองเท่านั้น ไม่มีใครพูดถึงผลที่ประชาชนจะได้รับ
วันนี้ (1 เม.ย.) น.ต. ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. 2550 ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Business Focus ของทีนิวส์ทีวี ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลและภาคประชาชน ที่มีการยื่นร่างแก้ไขต่อสภาไปแล้ว การแก้ไขครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร เพราะเชื่อว่าการแก้ไขครั้งนี้ ทำเพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายการเมืองเท่านั้น ไม่มีใครพูดถึง ผลที่ประชาชนจะได้รับ หรือสิ่งอื่นใดที่จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากขึ้นจากรัฐธรรมนูญครั้งนี้ พร้อมชี้ แก้ไม่ได้ แต่ถ้าผ่านในขั้นต้นก็อาจจะผ่านไปได้ แต่พอวาระสุดท้ายแล้วแก้ไม่ได้
สำราญ : มองภาพรวมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 ร่าง ประเด็นเป็นที่ทราบกันนะครับ มาตรา 68 มาตรา 190 และมาตรา 237 รวมทั้งเรื่องของ ส.ว. ด้วยนะครับ ภาพรวมท่านประสงค์มองยังไงครับ
ประสงค์ : ในภาพรวมของการแก้ไข กับในภาพรวมของภาคประชาชน ผมจะขอพูดถึงในภาพรวมของการแก้ไขก่อนนะครับ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเราอยู่ในสภานิติบัญญัติมา และตอนร่างรัฐธรรมนูญก็ทราบดีว่า รัฐธรรมนูญนั้นคือกฎกติกาในการปกครองบ้านเมืองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ยกร่างขึ้นมาซึ่งมันแตกต่างกับรัฐธรรมนูญฉบับอื่น ๆ ที่ผ่านมาทั้งหมดเลย 17 ฉบับ ฉบับนี้เป็นฉบับที่ 18 ก็คือการเพิ่มเติมประโยชน์สิทธิให้กับประชาชน และประโยชน์ของสาธารณะมากกว่ารัฐธรรมนูญฉบับอื่น ๆ เพราะฉะนั้นในเรื่องของการแก้ไข รัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ปิดประตูว่าไม่สามารถแก้ไขได้ ศาลรัฐธรรมนูญให้แก้ไขได้ตามมาตรา 291 ที่บอกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญใครมีอำนาจในการแก้ไข แม้กระทั่งประชาชน 50,000 ชื่อ ก็มีอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แต่จะต้องเป็นการแก้ไขในรายมาตราที่เห็นว่ามันมีข้อบกพร่อง มันมีอะไรต่าง ๆ ให้แก้ได้นะครับ
แต่ทีนี้ผมมาดูภาพรวมของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่นักการเมืองพวกนี้กำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้ใน 3 ฉบับที่ว่านะครับ ไม่ว่าจะเป็นมาตรา 68 มาตรา 190 และมาตรา 237 ทุกเรื่องเลยนะครับ มันเป็นเรื่องที่แก้ไขเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองบางกลุ่ม บางพวก ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรจากนี่เลย และยังตัดสิทธิ์เสียสิทธิประโยชน์ไป ในการที่เขาจะแก้ไขมาตรา 68 ด้วยซ้ำ นี่คือภาพรวมนะครับก็คือการแก้ไขเท่านี้ ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร แต่กับเสียประโยชน์ลงไปอีก แต่นักการเมืองจะได้ประโยชน์ขึ้นมาอีก ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ทางด้านการทำงาน การทำงานของส.ว. เขาก็จะสามารถเป็น ส.ว. ได้ทุกยุค ทุกสมัย หมดเทอมแล้วสามารถสมัครได้อีก ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่อนุญาตให้ต้องเว้นวรรคไปก่อน ทีนี้ในการยุบพรรคก็เหมือนกัน ก็เขียนไว้ชัดเจนถ้าหากว่ากรรมการบริหารพรรครู้เห็นเป็นใจ หรือรู้เห็นแล้วไม่แก้ไขในเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เขาก็ยุบพรรค
สำราญ : และจำนวน 3 มาตรา 3 ร่าง 4 มาตรา ท่านประสงค์อยากเน้นมาตราไหนเป็นพิเศษไหมครับ คือรู้สึกรับไม่ได้ หนักหนาสาหัสกว่าเรื่องอื่น ๆ
ประสงค์ : คือมาตรา 68 นะครับที่ไปตัดสิทธิ์ประชาชน คุณสำราญคงจำได้นะครับ พรรคเพื่อไทยเคยเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาหนหนึ่งแล้ว แก้ไขมาตรา 291 ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาออกมาแล้วว่า มันขัดรัฐธรรมนูญเพราะว่าเขาจะแก้ไขทั้งฉบับนั่นเอง ความจริงแล้วสำคัญทุกมาตราที่เขาจะแก้ไขกัน มันแย่ทุกมาตรา แต่ว่าในสายตาของผมก็คือ มาตรา 68 ที่นอกจากไปตัดสิทธิของประชาชน ในการไม่ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ อันนี้จะนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันให้ดี เป้าหมายจริง ๆ ของเขาก็คือ การแก้ไขทั้งฉบับ หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรา 309
สำราญ : ผมอยากให้ท่านประสงค์ฝากอะไรนิดหนึ่ง คือที่เขาแก้ไข เขาไปเน้นที่มาตรอัยการ ว่าจากนี้ไปถ้าแก้ไขเสร็จเราไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ ในวรรคสอง มาตรา 68 ได้เขียนไว้อย่างนี้นะครับ
ในกรณีที่บุคคลกระทำการใดตามวรรคหนึ่ง ผู้ทราบการกระทำดังกล่าว ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่ออัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อวรรคหนึ่ง ให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว แต่ทั้งนี้ไม่กระทบกระเทือนการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำดังกล่าว
ประสงค์ : มาตรา 68 เดิมเขาให้ประชาชนมีสิทธิยื่นศาลรัฐธรรมนูญได้ด้วยนะครับ แต่นี่มาเขียนใหม่อย่างนี้ลักษณะอย่างที่ผมบอกนะครับ คืออยู่ดี ๆ ไปตัดสิทธิ์ของประชาชน
สำราญ : ส่วนมาตรา 190 ผมดูตามร่างแล้วก็คือไปตัดหลายประเด็นออก มาตรา 190 คือเขาให้ยกของเก่าแล้วใช้อันนี้แทนก็คือบอกว่า พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจการทำหนังสือสัญญา สันติภาพ สัญญาสงบศึก สัญญาอื่นกับนานาประเทศ หรือกับองค์กรระหว่างประเทศ วรรคต่อไปบอกว่า หนังสือสัญญาใดมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย หรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาเท่านี้เองครับ ก็คือเขียนดูเหมือนจะทำว่ายังมีเหมือนเดิม แต่ถ้าไปส่องกล้อง ไปเอ็กซเรย์แล้วเขาบอกว่าตัดอำนาจไป 3 – 4 ประเด็น เขาอ้างเพื่อความสะดวกในการที่จะทำมาค้าขาย หรือจะติดต่อกับต่างประเทศ ท่านคิดว่าท่านสามารถรับฟังได้ไหมครับ
ประสงค์ : พูดง่าย ๆ ก็คือว่า ธุรกิจการเมืองติดขัดต่อมาตรา 190 มาก ยิ่งมีอำนาจรัฐไปเป็นรัฐบาลไปเจรจาซ่อนเงื่อนซ่อนงำอะไรไว้ ไปตรวจพบเข้าก็มีความผิดมาตรา 190 ยังคงเดิมอยู่ เพราะฉะนั้นผมไม่ไว้ใจนักการเมืองโดยเฉพาะรัฐบาลชุดนี้ที่ครอบงำโดยนักธุรกิจการเมือง หากินกันข้างนอก ทำไมถึงให้รัฐสภาซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนรับทราบไม่ได้ว่าทำสัญญา หรือทำข้อตกลงอะไรกับเขา
สำราญ : สุดท้ายประเด็นเรื่องของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เขาก็จะแก้ให้มี 200 คน มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด แล้วก็เป็นไปอย่างต่อเนื่องได้ ไม่มีขอบเขต ท่านคิดว่าลึก ๆ เขาหวังผลอะไรครับ
ประสงค์ : คือลึก ๆ นักการเมืองที่ถืออำนาจรัฐปัจจุบันในขณะนี้ ต้องการที่จะครอบงำวุฒิสภาทั้ง 200 คนได้หมดเลย ครอบงำ ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรของสภาร่างนะครับ เพราฉะนั้นวุฒิสภาที่เขาให้มีส่วนหนึ่งมาจากการสรรหา ก็เพื่อความมุ่งหมายว่าไม่ให้การเมืองเข้าไปครอบงำ เพราะว่าการเลือกตั้งนะครับ มันต้องอาศัยฐานเสียงของนักการเมืองในจังหวัดต่าง ๆ เพราะฉะนั้นวุฒิสภาความจริงมันเป็นสภาสูงที่ควรจะมีบทบาทในการตรวจสอบฐานอำนาจสภาร่าง แปลว่าเลือกตั้งทั้งหมดไม่มีปัญหาครับ ถ้าเลือกตั้งทั้งหมดจะไปมีทำไมครับสภาสูง มีสภาร่างสภาเดียวก็ช้ำใจเต็มทีแล้ว จะเลือกตั้งสภาสูงให้เข้ามาช่วยกันปู้ยี่ปู้ยำยำกันอีก อย่างนี้รัฐธรรมนูญที่แบ่งแยกเอาไว้ สรรหาเพื่อให้วุฒิสภานอกจากได้บุคคลที่หลากหลายอาชีพ ที่ฝ่ายเลือกตั้งไม่สามารถที่จะมีอาชีพบางอาชีพเข้ามาได้ เขาก็กำหนดให้มีการสรรหา ซึ่งสภาพการปัจจุบันที่มีวุฒิสภาสรรหา คุณสำราญก็เห็นแล้วว่าเป็นปากเป็นเสียงรักษาชาติ รักษาผลประโยชน์ของประชาชน เป็นปากเป็นเสียงค้านอำนาจได้จริง ๆ ในชุดของพวกสรรหาเท่าที่ผมติดตามดูนะครับ แต่ว่าพวกที่มาจากการเลือกตั้งมันอยู่ใต้อาณัติพรรคการเมืองหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นผลประโยชน์อะไรก็ตาม เพราะฉะนั้นผมว่าถ้าหากเลือกตั้งทั้งหมด ก็ยุติสภาไปเลยก็หมดเรื่อง เงินภาษีของประชาชนจะได้ไม่ต้องไปเสียอีก มีสภาร่างสภาเดียว
สำราญ : จริง ๆ หลายประเทศก็ไม่มีสภาสูงเลยนะครับ
ประสงค์ : ใช่ครับ ถ้าผมร่างรัฐธรรมนูญใหม่ผมจะร่างให้สภาสูงมาจากการแต่งตั้งทั้งนั้นครับ ถ้ามีนะครับ ถ้าหากว่าไม่มีสภาสูงเลยผมชอบใจมาก
สำราญ : ท่านประสงค์ดูแล้วถ้าประเมินสถานการณ์เพราะมันต้องผ่านวาระหนึ่ง วาระสอง แล้วกำหนดปลายปีคิดว่าจะไปเป็นวาระสามไหมครับ
ประสงค์ : ผมตอบสั้น ๆ เลยนะครับ ขณะนี้การเมืองภาคประชาชนตื่นตัวแล้วก็เข็มแข็งพอ แล้วก็ติดตามสถานการณ์มาได้ตลอด ผมเชื่อว่าประชาชนขณะนี้ต่างฝ่ายต่างหันหน้าเข้าหากัน แล้วก็คงจะไม่ยอมนักการเมืองที่จะฉุดลากประเทศไทยไปสู่หุบเหวแห่งหายนะต่อไปอีก ตั้งแต่เดือนเมษายน ผมเชื่อว่าเรื่องทั้งหลายทั้งปวงมันจะเกิดขึ้นให้เห็นหลายอย่าง ซึ่งผมไม่อาจจะพูดได้ในขณะนี้ให้ติดตามดูให้ดีนะครับ การเมืองภาคประชาชนจะเป็นพลังสำคัญในการที่จะหยุดยั้งบ้านเมืองให้ไปสู่ความหายนะ จากการกระทำของนักการเมืองที่ถืออำนาจรัฐอยู่ในขณะนี้ ผมเชื่ออย่างนั้นและผมมองอย่างนั้นอยู่แล้วครับ
สำราญ : ท่านประสงค์ได้บอกว่าประชาชนหันหน้าเข้าหากันแล้ว ที่ผ่านมาเป็นดาวกระจาย หรือว่าเป็นอะไรครับ
ประสงค์ : ผมแบ่งเป็นกลุ่มเป็นอะไรต่าง ๆ มีการนำแต่ละกลุ่มอะไรต่าง ๆ ออกไป ในขณะนี้เท่าที่ผมติดตามประชาชนกลุ่มใหญ่ ๆ ต่างฝ่ายต่างหันหน้าเข้าหากัน จับมือกัน เพื่อที่จะดำเนินการในการเมืองภาคประชาชน ในการที่จะหยุดยั้งนักการเมือง เขาจะเปลี่ยนแปลงประเทศของเขาเอง ผมมองอย่างนั้นนะครับ แล้วก็เห็นหนทางนั้นเป็นไปได้สูง ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ครับ
สำราญ : ท่านหมายถึงว่าสถานการณ์ให้จับตานอกสภาเป็นพิเศษด้วย นับจากเมษายนนี้เป็นต้นไป และคิดว่าความเคลื่อนไหวของภาคประชาชนจะดำเนินการไปในทิศทางแบบไหนครับ
ประสงค์ : การออกมาต่อต้านอย่างรูปธรรมชัดเจน แล้วก็บรรดาข้าราชการดี ๆ ทั้งหลายยังมีอยู่อีกเยอะ ผมคิดว่าฝ่ายราชการเหมือนกันก็คงจะร่วมมือร่วมใจกับประชาชนคราวนี้นะครับ
สำราญ : สุดท้ายแล้วท่านคิดว่าการแก้รัฐธรรมนูญ 3 ร่าง 4 มาตรา 4 ประเด็นจะผ่านไหมครับ
ประสงค์ : คือแก้ไม่ได้ก็แล้วกันนะครับ แต่ถ้าผ่านในขั้นต้นก็อาจจะผ่านไปได้ แต่พอวาระสุดท้ายแล้วแก้ไม่ได้ครับ สรุปก็คือไปได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง สุดท้ายผมขอให้ประชาชนรวมตัวกัน รักษาบ้าน รักษาเมือง แล้วก็ดำเนินการตามสิทธิอำนาจที่กฎหมายสูงสุดที่รัฐธรรมนูญได้ให้ไว้กับพวกท่านนะครับ ขณะนี้สิ่งต่างๆ เหล่านี้กำลังถูกนักการเมืองกระทำการลักษณะที่ทำให้ตกต่ำเสียหายลงไป เป็นหน้าที่ของท่านแล้วนะครับ ถ้าท่านไม่ต้องการให้บ้านเมืองเสียหายมากไปกว่านี้ให้ท่านทำหน้าที่ของท่าน ท่านมีสิทธิของท่านตามรัฐธรรมนูญในการต่อต้านขัดขวางทุกอย่าง ที่เป็นการทำให้บ้านเมืองเสียหาย ผมอยากจะขอให้ประชาชนร่วมมือร่วมใจกัน เรือกำลังจม เราต้องช่วยตัวเองกันก่อนนะครับไม่ให้เรือมันจม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น