วันศุกร์ ที่ 5 ตุลาคม 2555 'พรรคเพื่อไทย'ไม่เสี่ยงอีกแล้ว! : ขยายปมร้อน

ในที่สุดก็ทนแรงกดดันทั้งภายในและภายนอกพรรคไม่ไหว ทำให้ "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง "หัวหน้าพรรคเพื่อไทย" และ "ส.ส.บัญชีรายชื่อ"              ถือเป็นการแถลงลาออกจากตำแหน่ง "รองนายกรัฐมนตรี" และ "รมว.มหาดไทย" ห่างกันเพียงสัปดาห์เดียว              การลาออกครั้งนี้ของ "ยงยุทธ" ถือว่าเป็นการลดแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นกับพรรคและตัวเอง              เพราะถ้า "ยงยุทธ" ยังยื้อที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อ ไม่เพียงแต่ตัวเองเท่านั้นที่ "ช้ำ" จะลาก "พรรคเพื่อไทย" และแกนนำในพรรคถูกรุมยำไปด้วย              อย่าลืมว่าปมที่ทำให้ "ยงยุทธ" ต้องลาออกทั้งตำแหน่ง "รัฐมนตรี" และตำแหน่ง "การเมือง" มาจากปัญหาการปฏิบัติหน้าที่มิชอบในเรื่องที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์              หากฝ่ายค้านนำไปเป็นประเด็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาหรือตั้งกระทู้ถามก็จะยก "ผู้เกี่ยวข้อง" มาอภิปรายอีกครั้ง ไม่ต่างกับการนำ "คดีอัลไพน์" มาขยายความอีกครั้ง              แน่นอนผู้เกี่ยวข้องก็คงไม่พ้น "ทักษิณ ชินวัตร-เสนาะ เทียนทอง" ซึ่งเกี่ยวข้องกับการซื้อขายโครงการดังกล่าว              การที่ "ยงยุทธ" ลาออกไม่ต่างกับการ "ตัดเนื้อร้าย" ที่จะนำภัยมาสู่ "ทักษิณ" และ "พรรคเพื่อไทย"              ที่ผ่านมาถือว่า  "ทักษิณ" ได้ให้ "ยงยุทธ" มากแล้ว แต่ผลงานยังไม่เข้าตา              จากนี้ไป "ยงยุทธ" ต้องไปต่อสู้ข้อกฎหมายเอาเอง เพื่อไม่ให้ดึงพรรคเพื่อไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง              กรณีของ "ยงยุทธ" แสดงให้เห็นว่า "พรรคเพื่อไทย" เริ่มคิดใหม่ ทำใหม่ "พรรคเพื่อไทยมีเวลาจะเสีย มีเวลาจะรอ แต่ไม่มีเวลาจะเสี่ยงอีกแล้ว !"              หากดูให้ดีจะเห็นว่าพรรคนี้มีคนเก่ง คนดีมาก เพียงแต่ไม่เป็นที่ยอมรับของผู้ใหญ่ในพรรค เพราะมองว่าคนเหล่านั้นไหว้วานให้ทำงานตามสั่งไม่ได้              จากกรณีการลาออกของ "ยงยุทธ" ในครั้งนี้เชื่อว่าส่วนลึกแล้ว "ยงยุทธ" ยังอยากทำหน้าที่ต่อไปทั้งในตำแหน่ง "รัฐมนตรี" และตำแหน่ง "การเมือง" เพราะถ้าไล่เรียงจากพฤติกรรมจะเห็นว่าน่าจะมีแรงบีบให้ต้องทิ้งทุกตำแหน่ง              เพราะคดีในแง่กฎหมายก็สุ่มเสี่ยงหากเรื่องการยื่นตีความทั้งคุณสมบัติ "รัฐมนตรี" และ "ส.ส." ถึงมือศาลรัฐธรรมนูญ              แต่อย่างที่บอกปัญหาที่รุมเร้ารัฐบาลในขณะนี้ ไม่มีเวลาจะมา "เสี่ยง" อีกแล้ว!              เพราะทั้งคนกันเองอย่าง "แดงสุรินทร์" ไปยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติ  "ยงยุทธ" ว่า ยังสามารถอยู่ในตำแหน่ง "รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย" หรือ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 102 หรือไม่ หลังจากคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน กระทรวงมหาดไทย (อ.ก.พ.) มีมติให้ลงโทษไล่ออก กรณีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์              เจอไม้นี้ทำให้ "แกนนำเพื่อไทย" หวั่นไหว เพราะกลัวว่าจะเกิดปัญหากับพรรค              เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 102 ระบุว่า บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ขณะที่ รัฐธรรมนูญ มาตรา 102 วรรคหก ระบุว่า ถ้าเป็นบุคคลเคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ              นั่นหมายถึงว่าหาก "ยงยุทธ" ถูกไล่ออกตามมติ อ.ก.พ.กระทรวง และยังไม่สามารถล้างมลทินได้ในทันที นอกจากเขาจะต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. และ รมต.แล้ว เขาจะต้องพ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกด้วย              จึงไม่แปลกที่สุดท้าย "ยงยุทธ" ก็ไม่ได้นั่งเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีแทน "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ที่ติดภารกิจต่างประเทศ แต่กลับได้รับคำสั่งให้ไปตรวจดูสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.ปราจีนบุรีแทน ทั้งที่ก่อนหน้านั้น "ยงยุทธ" ให้สัมภาษณ์ว่าจะนั่งหัวโต๊ะและนำโผผู้ว่าฯ เข้าพิจารณาด้วยตัวเอง              และสุดท้าย "ยงยุทธ" ก็ได้แถลงลาออกจาก "รองนายกรัฐมนตรี" และ "รมว.มหาดไทย"              ขณะที่ "ฝ่ายค้าน" ก็ยังเดินหน้าตรวจสอบคุณสมบัติ "ส.ส." ของ "ยงยุทธ" ต่อ โดยยื่นหนังสือผ่าน "ประธานสภา" ให้ส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ "ยงยุทธ"              เมื่อกระบวนการตรวจสอบ "ยงยุทธ" ยังเดินหน้าต่อ แม้ว่าการดำเนินการยังไม่ถึง "ศาลรัฐธรรมนูญ" และเชื่อว่าการจะมีคำวินิจฉัยอาจใช้เวลานาน แต่เพื่อลดความเสี่ยง การลาออกจากตำแหน่ง "หัวหน้า" และ "ส.ส." ของ "ยงยุทธ" น่าจะเป็นผลดีมากกว่า              เพราะกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยเรื่องราวของ "ยงยุทธ" ยังจะถูกหยิบยกให้พูดถึงและเป็นเป้าโจมตีได้ตลอด              ที่สำคัญการที่ "ฝ่ายค้าน" เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลปลายเดือนตุลาคมนี้นอกจากจะมีชื่อของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี แล้วน่าจะมีชื่อของ "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" ถูกดึงมารวมอยู่ในเนื้อหาการยื่นอภิปรายด้วย โดยเฉพาะการทุจริตงบภัยพิบัติที่กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบ              การลาออกของ "ยงยุทธ" ถือเป็นการ "ตัดตอน" เป้าโจมตีที่จะเกิดกับ "ยงยุทธ-พรรคเพื่อไทย"              น่าเสียดายอยู่นิดเดียวตรงที่ "ยงยุทธ" ตัดสินใจลาออกหมดทุกตำแหน่งก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติของ "ยงยุทธ" เพราะจะได้เป็นบรรทัดฐานว่าหากมีกรณีลักษณะเดียวกับ "ยงยุทธ" จะถือว่าเข้าข่ายพ.ร.บ.ล้างมลทิน 2550 หรือไม่ อย่างไร              แต่นาทีนี้ "พรรคเพื่อไทยไม่มีเวลาจะเสี่ยงอีกแล้ว!" ......... (หมายเหตุ : 'พรรคเพื่อไทย'ไม่เสี่ยงอีกแล้ว! : ขยายปมร้อนโดยสมถวิล เทพสวัสดิ์http://www.komchadluek.net/detail/20121005/141584/พรรคเพื่อไทยไม่เสี่ยงอีกแล้ว!.html)