ข่าวมั่นคง - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ณ ห้องวิจิตรวาทการ ชั้น 2 สำนักงาน สมช. ทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช.ให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม |
′ปู′ย้ำ ครม.ใหม่สานงานต่อเนื่อง เตรียมแบ่งงานรองนายกฯหลังถวายสัตย์ ยันไม่หนีฝ่ายค้านพร้อมแจงซักฟอก ′เฉลิม′แบะท่าไม่ขอดูงานความมั่นคง
@ ′ปู′ย้ำครม.ต้องทำงานต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 29 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการนำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ ว่า อยู่ระหว่างรอการประสานงานจากสำนักราชเลขาธิการก่อน ดังนั้น ในวันที่ 30 ตุลาคม จะยังไม่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างไรก็ตาม ได้กำชับ ครม.ชุดใหม่ว่างานทุกอย่างต้องมีความต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของหน่วยงานต่างๆ ก็ได้มีการเชื่อมต่อกันไว้แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าทุกนโยบายรัฐบาลได้ทำงานสานต่อ
@ แบ่งงานรองนายกฯหลังถวายสัตย์ฯ
เมื่อถามว่า มีการแบ่งงานในส่วนของรองนายกรัฐมนตรีอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องรอการถวายสัตย์ฯก่อน จากนั้นจะนำเรื่องการแบ่งงานเข้าสู่ ครม.เพื่ออนุมัติ เมื่อถามว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า "เดี๋ยวแจ้งค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่รับผิดชอบเดิมอยู่แล้ว ทุกอย่างนั้นเป็นงานที่หน่วยงานทุกหน่วยงานทราบอยู่แล้ว ตรงนี้ไม่น่าจะมีปัญหา"
เมื่อถามว่า คนเก่าที่พ้นตำแหน่งไปจะมีการปลอบขวัญกันอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องมีการเชิญมาช่วยงานรัฐบาลอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกตัวปฏิเสธไม่รับงานดูแลปัญหาไฟใต้ ได้มองคนอื่นไว้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า "ขออนุญาตรอผ่านคณะรัฐมนตรีแล้วจะชี้แจงให้ทราบ"
@ ปัดตั้ง′เต้น′หวังโต้สภา
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าการแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อต้องการให้เป็น ผู้ชี้แจงเรื่องของนโยบายจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น แต่เห็นว่านายณัฐวุฒิมีประสบการณ์ในด้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น่าจะมาช่วยเสริมในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้ ส่วนเรื่องการชี้แจงเรื่องข้าวเป็นหน้าที่ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
เมื่อถามว่า วันนี้มีแรงกระเพื่อมในพรรคเพื่อไทย (พท.) เกี่ยวกับการปรับ ครม. น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ข้อคิดเห็นต่างๆ สามารถแสดงในพรรคได้และเชื่อว่าสมาชิกทุกคนจะเข้าใจ เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าการปรับ ครม.ไม่ใช่เพื่อตอบ แทนบุญคุณ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า หน้าตาของ ครม.ส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีประสบการณ์ ซึ่งในเรื่องของงานเป็นหลัก ไม่ได้มองในเรื่องของการตอบแทน จะได้เห็นว่าผู้ที่เสนอเข้ามาเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ มีความเหมาะสม
@ ยัน′ตู่′อยู่ช่วยประชาชน
เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงไม่พอใจกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า นายจตุพรเป็นผู้ทำงานเพื่อประชาชนมามาก และเป็นผู้มีอุดมการณ์ ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็ยังคงทำภารกิจเดิมในการดูแลประชาชน
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านจ้องอภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องการทุจริต จะมีการกำชับรัฐมนตรีชุดใหม่เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องย้ำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ครม.ชุดไหนก็ตาม
@ พร้อมชี้แจงซักฟอกเอง
เมื่อถามว่า นายกฯมีความพร้อมในการชี้แจงการอภิปรายของฝ่ายค้านอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า "ชี้แจงคะ ไม่หนีหรอกนะคะ" เมื่อถามต่อว่า จะเป็นการทำให้เสียสมาธิในการนำ ครม. บริหารประเทศหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า "ไม่หรอกค่ะ ทุกอย่างก็ทำงานเหมือนเดิม ดิฉันเองก็มีความมุ่งมั่นในการที่จะทำงานเพื่อรับใช้ประชาชนเราก็ต้องทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ทุกอย่างให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยและใช้กลไกของรัฐสภา"
@ ′เฉลิม′ขอไม่ดูความมั่นคง
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการปรับ ครม.ว่า รู้สึกพอใจ เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงาน ส่วนกรณีที่ไม่มีรายชื่อนายจตุพรใน ครม. เชื่อว่าไม่น่าจะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในพรรค พท.และรัฐบาล สามารถทำความเข้าใจกันได้ เป็นพี่น้องกันและนายจตุพรไม่ใช่คนที่ต้องการแสวงหาตำแหน่ง
เมื่อถามว่า งานด้านความมั่นคงในความรับผิดชอบของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา จะรับมาทำต่อหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ต้องรอให้นายกฯมอบหมายงานก่อน แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้ว ขอรับผิดชอบงานด้านการปราบปรามยาเสพติด แต่ไม่ได้หมายความจะไม่รับ แต่ต้องรอให้นายกฯสั่งการมาก่อน
@ แกะเทปขู่ฟันปราศรัยผิดกม.
เมื่อถามถึงการชุมนุมของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยาม (อพส.) ที่ประเมินไว้ไม่เกิน 2,000 คน แต่มาจริงประมาณ 8,000 คน ถือว่าประเมินผิดพลาดหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ถือว่าเป็นการประเมินผิด เพราะประเมินจากฐานเสียงของ อพส. ส่วนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประเมินว่ามีประมาณ 8,000 คน เพราะเป็นส่วนที่เกณฑ์คนจากบ่อนบางซื่อมาจำนวน 2,000 คน และส่วนที่เหลือเป็นของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จำนวนกลุ่มผู้ชุมนุมจะมีมากหรือน้อยไม่เป็นไร แต่ต้องไม่มีการกระทำผิดกฎหมาย
กำลังใจ - นายวิทยา บุรณศิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ถูกปรับพ้นคณะรัฐมนตรี รับดอกไม้ให้กำลังใจจากอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และประชาชน จ.พระนครศรีอยุธยา กว่า 1,000 คน ที่บ้านพักเขต อ.บางปะอิน เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม |
"กำลังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการถอดเทปการปราศรัยกับกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ว่ามีการพูดที่คึกคะนอง จาบจ้วง เฉี่ยวๆ หรือไม่ ซึ่งถ้าหากพบคนทำก็ต้องรับผิดชอบ" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
@ ′ปึ้ง′ชี้ข้อเสนออพส.ล้าหลัง
ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงข้อเสนอของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์กรพิทักษ์สยาม ที่ต้องการให้มีคณะบุคคลขึ้นมาบริหารประเทศแทนรัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นเวลา 5 ปี จากนั้นมาเลือกตั้งใหม่ว่า เป็นข้อเสนอแสดงถึงความล้าหลัง หรือการถอยหลังของระบอบประชาธิปไตย ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน พม่า ลาว เวียดนาม กำลังก้าวไปข้างหน้า ซึ่งขณะนี้รัฐบาลเหลือเวลาทำงานประมาณ 3 ปี หากประชาชนไม่พอใจผลงานแล้ว การเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ เมื่อขึ้นมาบริหารแล้วมีผลงานประชาชนก็ไม่ไว้วางใจให้บริหารประเทศอีก
@ ′ก่อแก้ว′ชี้ม็อบอพส.ผิดปกติ
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า การชุมนุมของ อพส.ซึ่งมีมวลชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ถือเป็นเรื่องผิดปกติ เชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับพรรคการเมือง โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดินทางไปที่จังหวัดนครปฐม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการพบกับอดีต ส.ส. ปชป.คนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของคอกม้า และมีความสัมพันธ์กับกลุ่มของ พล.อ.บุญเลิศ
นายก่อแก้วกล่าวว่า มวลชนที่เดินทางมาจากอีสานใต้เพื่อร่วมชุมนุมกับ อพส. มีข้อมูลจากนักการเมืองในพื้นที่ระบุว่ามีการรับเงินจากนักการเมืองซีกเสื้อน้ำเงินแต่ไม่ใช่นายเนวิน ชินชอบ ดังนั้น รัฐบาลอย่านิ่งนอนใจ และอย่าคิดว่าไม่มีอะไร ต้องเฝ้าระวังและติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม
"ขอฝากไปยังรัฐบาลอีกว่า ในเมื่อกลุ่มทุนจากอบายมุขสนามม้า เข้ามาเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล ในเมื่อรัฐบาลไม่สนับสนุนการพนันทุกรูปแบบ ดังนั้น บ่อนในรูปแบบของสนามม้าก็ควรถูกปิดด้วย อย่าให้มีการใช้เงินที่มาจากอบายมุขมาล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง" นายก่อแก้วกล่าว
@ นพ.สุรวิทย์ลุ้นคัมแบ๊กสธ.
วันเดียวกัน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายวิทยา บุรณศิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วย แถลงอำลาตำแหน่งหลังจากถูกปรับพ้น ครม.โดยมีผู้บริหารและข้าราชการ สธ. นำมอบดอกกุหลาบแดงให้กำลังใจอย่างคับคั่ง
โดยนายวิทยากล่าวว่า ช่วงเวลาทำงานที่ สธ.ตลอด 399 วัน ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด สิ่งที่ได้รับจากข้าราชการ สธ.คือ ความร่วมมือในองค์กร ทำให้การทำงานไม่มีอุปสรรคในการขับเคลื่อนนโยบาย เมื่อถามว่ามีการหารือกับ รมว. สธ.คนใหม่ในเรื่องใดบ้าง นายวิทยากล่าวว่า เป็นเรื่องนโยบายของ สธ.ที่เป็นประโยชน์ต่อประชา ชน โดยเฉพาะนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ได้รับการยืนยันจาก รมว.คนใหม่ว่าจะขับเคลื่อนต่อไป เพราะเป็นนโยบายรัฐบาล
นพ.สุรวิทย์กล่าวว่า ยังห่วงงานที่ สธ.และเสียดายเวลาและโอกาส อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อมั่นว่าจะมีโอกาสกลับมาทำงานที่ สธ.อีก
@ รมว.อุตฯพร้อมลุยงาน
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการทำหน้าที่ตำแหน่งรัฐมนตรี ว่าจะทำงานให้ดีที่สุด เพราะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เคยผ่านงานในตำแหน่ง ประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภา ผู้แทนราษฎร 1 ปี จึงเข้าใจเนื้องานของกระทรวงอุตสาหกรรมและสามารถสนองนโยบายของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ให้นโยบายดูแลผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ผู้ประกอบการโอท็อป โครงการเมืองไทยเมืองแฟชั่น อุตสาหกรรมสีเขียว การเตรียมพร้อมรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 2558 การอำนวยความสะดวกเรื่องการลงทุนในไทย ฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ส่วนนโยบายใหม่นั้นต้องรอถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน จากนั้นจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการแน่นอน
@ ′บุญทรง′เตรียมมอบงาน′เต้น′
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากการถวายสัตย์ฯแล้ว จะเรียกประชุมข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมาแนะนำให้นายณัฐวุฒิได้รู้จัก และหารือแนวทางการในทำงานต่อจากนี้ เบื้องต้นคงมอบหมายให้นายณัฐวุฒิดูแลหน่วยงานที่นายภูมิ สาระผล และนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ เคยรับผิดชอบไว้เดิม ยกเว้นกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ คงเอามาดูเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากการแบ่งงานเป็นไปตามที่นายบุญทรงระบุไว้ นายณัฐวุฒิจะกำกับดูแลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) และสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่านาย ณัฐวุฒิจะขอดูแลงานทั้งหมดในส่วนของรัฐมนตรีช่วยเดิม รวมถึงกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศด้วย
@ ′หมอทศพร′เต็งนั่งโฆษกรบ.
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย (พท.) แจ้งว่า ภายหลังมีกระแสข่าวว่า น.ต.ศิธา ทิวารี อาจเข้ามารับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แทน น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ ที่ไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ล่าสุดมีความเป็นไปได้ว่า นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อาจได้รับแต่งตั้งให้เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยได้รับการสนับสนุนจากนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำ พท. เนื่องจาก นพ.ทศพรเป็นสามีของนางปานหทัย เสรีรักษ์ ส.ส.แพร่ เขตเลือกตั้งที่ 1 พท. ซึ่งเป็นพี่สาวของนายวรวัจน์
@ ′บิ๊กตู่′ชี้ใครคุมมั่นคงก็ได้
ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงตำแหน่งรองนายกฯ ที่จะเข้ามาดูแลด้านความมั่นคงว่า กองทัพทำงานด้วยระบบ ไม่ยึดถือตัวบุคคล ซึ่งความผูกพันและความเป็นอดีตผู้บังคับบัญชา ความเป็นทหารทำให้ทุกอย่างผสมกลมกลืนไปได้ แต่ทั้งหมดคือ ระบบความเป็นประชาธิปไตย ดังนั้น ไม่ว่าจะเปลี่ยนใครหรือใครจะมาเป็น ทหารต้องทำหน้าที่ของทหารให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า หากนายกฯมาคุมปัญหาภาคใต้เอง จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใครก็ได้เพราะได้สร้างกลไกไว้อยู่แล้ว
@ ฮึ่มอย่ามาชี้นำปฏิวัติ
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงองค์กรพิทักษ์สยามระดมมวลชนให้มาขับไล่รัฐบาลว่า แต่ละคนมีบทบาทไม่เหมือนกัน ที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์เคยมีการเดินขบวน ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในโลก ทุกรัฐบาลมาถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อถามว่า การชุมนุมของ พล.อ.บุญเลิศพยายามยุให้ทหารปฏิวัติ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ขอพูด ไม่ท้าทายใคร ทุกอย่างมีสาเหตุทั้งสิ้น ถ้าไม่มีสาเหตุทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว อย่ามาบอกว่าทหารปล่อยให้ชาติเสียหาย ถ้าโทษอย่างนั้นต้องโทษคนทั้งประเทศ
"อย่ามาถามผมอีกว่าจะปฏิวัติหรือไม่ปฏิวัติ เขาไม่ได้มาชวนผมไปซื้อขนมที่ตลาด ดังนั้น อย่ามาชี้นำผม ผมโตขนาดนี้แล้ว มีวุฒิภาวะพอสมควร ต้องไปหาวิธีการที่ถูกต้อง ผมไม่ได้เคลมใครหรือว่าใคร อยากให้ความเป็นธรรมกับผมหน่อย ผมทำงานบกพร่องตรงไหนถึงมาว่าผม อย่ามาว่าผมว่าไม่รักชาติ ไม่รักแผ่นดิน วิธีการรักของผมมีอยู่ ผมไม่ให้ใครมาชี้นำผมได้" พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
@ วิปรบ.เคาะซักฟอก26-28พ.ย.
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พท.ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลหรือวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า วิปรัฐบาลได้พิจารณากรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคฝ่ายค้าน โดยตรวจสอบจากตารางภารกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ เห็นว่าช่วงเวลาที่นายกฯ สามารถเข้าร่วมฟังการอภิปรายน่าจะอยู่ระหว่างวันที่ 26-28 พฤศจิกายนนี้ เบื้องต้นได้หารือกับวิปฝ่ายค้านและผู้นำฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่าปลายสมัยประชุมเป็นเวลาที่เหมาะสม
@ ส่งผลศึกษาแก้รธน.20พ.ย.
นายอุดมเดชยังกล่าวถึงการทำงานของคณะทำงานพรรคร่วม เพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า จะสามารถดำเนินได้แล้วเสร็จให้ทันภายในสมัยประชุมรัฐสภานี้ เพื่อนำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาต่อไป
ที่โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส หลานหลวง มีการประชุมคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อศึกษาการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 โดยมีนายโภคิน พลกุล เป็นประธานการประชุม โดยนายโภคินกล่าวว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา การทำงานมีความก้าวหน้าค่อนข้างมาก ล่าสุดนาย ชูศักดิ์ ศิรินิล คณะทำงานที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) และคณะทำงานได้ทำการยกร่างรายงานเบื้องต้นให้พิจารณาและปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ คาดว่าสามารถส่งรายงานฉบับสมบูรณ์ให้พรรคร่วมรัฐบาลไม่เกินวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้
@ เล็งแก้มาตรา237ก่อน
นายโภคินกล่าวว่า เนื้อหาในรายงานที่จะส่งให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณาจะเป็นการสรุปความเห็นของทุกภาคส่วนที่เห็นตรงกัน ใน 4 ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เช่น การแก้ไขรัฐธรรม นูญเป็นอำนาจของสภา ซึ่ง ส.ส. และ ส.ว. มีสิทธิลงมติรับหรือไม่รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญต้องยกร่างจากประชาชน เพื่อให้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง รวมไปถึงรัฐธรรมนูญหลายมาตราที่ต้องแก้ไข โดยเฉพาะมาตรา 237 เรื่องการยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริการพรรค ซึ่งขัดต่อหลักนิติธรรม
@ ′มาร์ค′ปรับรูปแบบซักฟอก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า ปชป.กล่าวว่า การปรับ ครม.ที่เกิดขึ้นไม่มีผลต่อเนื้อหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่อาจทำให้ต้องปรับแนว ทางการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะบางเรื่องเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีหลายคน จึงต้องปรับในเชิง ของรูปแบบเล็กน้อย ล่าสุดได้หารือกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป.ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน คาดว่าในวันที่ 30 ตุลาคม ทางวิปฝ่ายค้านจะได้ข้อสรุป ส่วนจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ คนเดียว หรือมีรัฐมนตรีคนอื่นด้วย กำลังดูรูปแบบการอภิปรายอยู่
@ ปัดอยู่เบื้องหลังม็อบเสธ.อ้าย
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีนายก่อแก้วระบุว่า หัวหน้า ปชป.ไปพบกับอดีต ส.ส.ปชป.เจ้าของคอกม้า ที่ จ.นครปฐม ซึ่งอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยาม ว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่ทราบว่าหมายถึงใครที่ไหน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาไป จ.นครปฐม 2 ครั้ง คือไปงานทำบุญคุยกับพระ แทบไม่ได้พูดคุยกับใคร ส่วนครั้งที่ 2 ไปปราศรัยในงานราตรีสีฟ้า ไม่ได้คุยกับใครเช่นกัน ยืนยันได้ว่า ปชป.ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการเกณฑ์คนมาร่วมชุมนุม
@ ปชป.เสี้ยมแดงไม่ได้เก้าอี้รมต.
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษก ปชป.แถลงถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าสะท้อนความจริง 2 ประการ คือ 1.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีอิทธิพลในการเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะมีการส่งคนใกล้ชิด จากบ้านเลขที่ 111 เข้ามาคุมกระทรวงที่เป็นยุทธศาสตร์ 2.แกนนำคนเสื้อแดงถือเป็น บุคลากรชั้น 2 หรือชั้น 3 ในสายตาของ พ.ต.ท. ทักษิณที่มีภารกิจต่อสู้ข้างถนน แต่แกนนำเหล่านี้ไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งในฝ่ายบริหารเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณมองเป็นเพียงเครื่องมือเท่านั้น การปรับ ครม.ทั้งหมด พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้กำหนดและกุมยุทธศาสตร์ปรับเพื่อให้เกมการเมืองลงตัวไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของประเทศแต่อย่างใด
นายชวนนท์ยังกล่าวถึงกรณี พท.ระบุว่า ปชป. ไม่มีข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยยืนยันว่า พรรคมีความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่รัฐบาลกลับมีพฤติกรรมคุกคามฝ่ายตรวจสอบและดิสเครดิตคนทำงาน แม้ว่ารัฐบาลจะมีการปรับ ครม.ไม่ได้มีผลต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังอยู่และต้องเป็นผู้รับผิดชอบในทุกนโยบาย
@ ตร.ยอมรับประเมินม็อบพลาด
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงศักดิ์ รอง ผบช.น. แถลงสรุปผลการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุม บริเวณสนามม้านางเลิ้ง เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่า เบื้องต้นไม่พบการกระทำผิดกฎหมายอาญาของผู้ชุมนุมที่เดินทางมาร่วมชุมนุม แต่การปราศรัยของแกนนำอาจมีคำพูดล่อแหลมใส่ความผู้อื่น อาจเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ถือเป็นความผิดต่อส่วนตัว หากผู้เสียหายมาร้องทุกข์ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวว่า สำหรับผู้ชุมนุมที่ได้มีการประเมินไว้ 3,000 คน แต่ปรากฏว่า มีผู้เข้ามาร่วมประมาณ 7,000-8,000 คน ถือว่าเป็นการประเมินผิดพลาด ทาง ผบ.ตร. และ ผบช.น. ได้มีการกำชับในการดำเนินงานต่อไปนั้น ต้องมีความแม่นยำมากขึ้น ไม่เช่นนั้นการวางแผนรับสถาน การณ์จะเกิดความผิดพลาดได้
พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) กล่าวว่า ยอมรับว่าทางการข่าวของสันติบาลประเมินผู้มาชุมนุมต่ำไป ดังนั้นสันติบาลต้องพิจารณาประชากรจากกรุงเทพฯด้วย รวมถึงเจาะลึกว่ากลุ่มที่มาชุมนุมมีที่มาที่ไปอย่างไร
@ ′ขวัญชัย′เย้ยม็อบอพส.จุดไม่ติด
นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยาม เพื่อขับไล่รัฐบาลว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนได้ตั้งเวทีที่ทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี มีคนเสื้อแดงเรือนหมื่นมาร่วม สามารถสกัดกั้นทำให้ไม่มีคนหลงผิดไปร่วมชุมนุมได้จำนวนมาก จะมีเพียงกลุ่มคนเสื้อเหลืองหน้าเดิม ฉะนั้น ไม่น่าจะจุดติดอีกแน่นอน
@ วุฒิฯยุติสอบไซฟ่อนเงิน
น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ศึกษา ตรวจสอบ เรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา กล่าวว่า กมธ.ได้ยุติการตรวจสอบประเด็นที่นักการเมืองและข้าราชการระดับสูงยักย้ายเงิน (ไซฟ่อน) จำนวน 1.6 หมื่นล้านบาทไปเกาะฮ่องกง ตามที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นแห่งชาติ (ภตช.) ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ เพราะเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงจากบุคคลที่นายมงคลกิตติ์อ้างถึงยืนยันตรงกันว่าไม่ทราบข้อมูลในเรื่องดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น