บันทึกหน้า 4 ...เพลิงทัศน์บันทึกหน้า 4 30 October 2555 - 00:00

ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันอังคารนี้ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากต้องรอให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำรัฐมนตรีใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณเสียก่อน ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการประสานจากสำนักราชเลขาธิการสำนักราชวัง คงสัปดาห์หน้าถึงจะมีการประชุม ครม.กันตามปกติ ...๐ ควันหลง “จตุพร พรหมพันธุ์” ชวดเก้าอี้อำมาตย์ วันนี้เสื้อแดงยังอารมณ์ค้าง โวยวายว่าถูกสกัดกั้นจากคนใกล้ชิดนายกฯ นาม “ส” ตามที่ “วรชัย เหมะ”  ระบุว่า “ตอนยึดอำนาจก็โดดหนีเอาตัวรอดไปดื้อๆ พอเราชนะก็กลับมาเสนอหน้าแบบไม่อาย อยากเตือน น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้ระวังด้วย” แหม จะอ้อมค้อมไปไย ก็ว่ากันตรงๆ สิ ใช่ “สุรนันทน์ เวชชาชีวะ” เลขาธิการนายกฯ หรือเปล่า? ...๐ จะว่าไปแล้ว  “ปุ้ม สุรนันทน์” คงไม่มีอิทธิพลถึงขั้นจะไปสกัดกั้นใครได้ เพราะอำนาจทั้งหมดอยู่ที่ “ทักษิณ ชินวัตร”  ฉะนั้น ถ้าเสื้อแดงจะโวย ก็ต้องไปโวย “ทักษิณ” เพราะก่อนหน้านี้เคยพูดไว้ว่า “จตุพรเป็นน้องที่ผมรักมากคนหนึ่ง และทุ่มเทให้พี่น้องเสื้อแดงมาก แต่ทำไมกลับไม่ได้เป็นรัฐมนตรี จึงขอตอบกับพี่น้องว่า คนเสื้อแดงที่เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีมากที่สุดคือจตุพร” แต่วันนี้  “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ต่างหากคือน้องรักที่สุดของทักษิณ ไม่ใช่จตุพร ...๐ เอ้า! นึกว่า “ครม.ปู 3” จะราบรื่น แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเสียแล้ว โดยเฉพาะในตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ของ “วราเทพ รัตนากร” ที่ “วิรัตน์  กัลยาศิริ” ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ และ “คมสัน โพธิ์คง” อดีต ส.ส.ร. 50  ออกมาชี้ตรงกันว่า นายวราเทพขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี!  …๐ ทั้งนี้ นายวราเทพ อดีต รมช.การคลัง เคยถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ในคดีหวยบนดินเลขท้าย 2 ตัว และ 3 ตัว เมื่อปี 2552 แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 174 (5) ระบุถึงคุณสมบัติของการเป็นรัฐมนตรีไว้ว่า “ไม่เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีก่อนได้รับแต่งตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ” งานนี้สงสัยอาจถึงขั้นยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความเป็นแน่ ...๐ วันที่ 30 ตุลาคมนี้ พรรคเพื่อไทยจะประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แว่วว่า “จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” คนใกล้ชิดทักษิณและคุณหญิงพจมาณ ณ ป้อมเพชร นอนมาแน่ในตำแหน่ง “หัวหน้าพรรค” ส่วนตำแหน่ง “เลขาธิการพรรค” ข่าวค่อนข้างแน่นอนว่าเป็น “อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย แต่ที่ยังไม่ชัวร์คือ “โฆษกพรรค” อาจจะไม่ใช่ “เด็จพี่” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เพราะมีกระแสข่าวว่าถูกส.ส.ในพรรคจำนวนหนึ่งวิ่งสกัดกั้นกันฝุ่นตลบไปเลย ...๐  “ม็อบสนามม้า” ที่นำโดย “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์กรพิทักษ์สยาม ที่ใครๆ ก็หยามหยันโดยเฉพาะคนของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและแกนนำเสื้อแดง ว่าจะมีคนเพียง “หยิบมือเดียว” แต่ไปๆ มาๆ เมื่อวันอาทิตย์ กลับมีคนมา “มืดฟ้ามัวดิน” ชนิดที่ประมาทการเคลื่อนไหวของกลุ่มของเสธ.อ้ายไม่ได้ ...๐ “ก่อแก้ว พิกุลทอง” ส.ส.เสื้อแดง พรรคเพื่อไทย บอกว่า “การชุมนุมของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยามซึ่งมีมวลชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมากนั้น ถือเป็นเรื่องผิดปกติ ซึ่งได้พยายามตรวจสอบความเคลื่อนไหวหลายๆ พื้นที่ และเชื่อว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับพรรคการเมือง” โธ่เวร! พูดยังกับม็อบเสื้อแดงบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีพรรคเพื่อไทยหนุนหลัง! ...๐ เอาเป็นว่า ไม่ว่าม็อบจะมีใครชักใยหรือพรรคการเมืองใดหนุนหลัง หรือมีจำนวนมวลชนสักกี่มากน้อยก็ตาม  เหล่านี้ไม่ใช่เงื่อนไขหลักจะนำไปสู่การล้มรัฐบาลได้ แต่อยู่ที่เนื้อหาสาระของการชุมนุม 1.ปล่อยให้มีการจาบจ้วงสถาบัน 2.เป็นหุ่นเชิด พ.ต.ท.ทักษิณ 3.ปล่อยให้มีการทุจริตคอรัปชั่น ตามเหตุผลการนัดชุมนุมของกลุ่มเสธ.อ้ายนั้น มีข้อเท็จจริงมากน้อยเพียงใด ถ้าจริง รัฐบาลก็อยู่ลำบาก แต่ถ้าตรงกันข้าม ปลุกม็อบยังไงก็ปลุกไม่ขึ้น ...๐ “3 จี” ยังไม่จบ ล่าสุดกลุ่ม ส.ว.นำโดย “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ส.ว.สรรหา ยื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ส่งเรื่องต่อให้ศาลปกครองพิจารณา ประเด็นที่กลุ่ม ส.ว.กังขาก็คือ รัฐธรรมนูญ มาตรา 47 วรรคสอง บัญญัติไว้ว่า หน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่เป็นของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 มาตรา 45 ก็บัญญัติไว้ว่า อำนาจการออกใบอนุญาตเป็นของ กสทช. “ไม่ใช่” เป็นของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ "กทค." ซึ่งเป็นเพียงหน่วยงานย่อยใน กสทช.เท่านั้น !!! ...๐