วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2555
หยันอภิปรายฝ่ายค้านแค่‘พิธีกรรม’ประจำปี ข่าวหน้า 1 29 October 2555 - 00:00
เพื่อแม้วเรียงหน้าเย้ย “ประชาธิปัตย์” ดร.เหลิมนำทีมซัดอภิปรายไม่ไว้วางใจแค่พิธีกรรม โวรัฐบาลเหมือนเด็กเรียนสอบเมื่อไหร่ก็ได้ พร้อมยกโครงการรับจำนำข้าวเป็นจุดแข็ง แดงอุตรดิตถ์ผลิตเสื้อให้สาวกใส่หนุนนโยบาย “เวทีนางเลิ้ง” ชี้กลยุทธ์หลอกลวง โรงสีภาคกลางล่ำซำพรึ่บ
เมื่อวันอาทิตย์ มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะจากฟากฝั่งพรรคเพื่อไทย เริ่มจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ระบุถึงการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า เชื่อว่าไม่มีอะไร เป็นแค่การวิเคราะห์วิจารณ์สิ่งที่เป็นนามธรรม ประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ระบุว่า รัฐบาลทุจริตประพฤติมิชอบต้องชี้ให้เห็นเป็นรูปธรรม และที่ระบุว่าจะใช้เวลา 2 วัน สะท้อนให้เห็นว่าเขาไม่มีข้อมูล ทำเพื่อเป็นพิธีกรรม
“ประเด็นที่ฝ่ายค้านโจมตีว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเป็นจุดอ่อนนั้น ผมไม่เชื่อ และมองว่าโครงการรับจำนำข้าวเป็นจุดแข็งของรัฐบาลที่จะทำให้รัฐบาลชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย โครงการรับจำนำข้าวอาจเสียหายบ้าง แต่ประชาชนได้ประโยชน์ มันก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลควรทำ” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม กล่าวในระหว่างลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างแนวคันป้องกันน้ำ ที่บริเวณคลองพระยาบันลือ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ได้สอบถามเรื่องโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลกับชาวนาในพื้นที่ พบว่า ชาวนาพึงพอใจ เพราะทำให้มีรายได้ที่มั่นคง รวมทั้งดีกว่าโครงการประกันราคาข้าวด้วย
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายวันที่ 26-27 พ.ย. อาจมีปัญหา เพราะวันที่ 28 พ.ย.จะปิดสมัยประชุมแล้ว ถ้าเป็นไปได้น่าจะกำหนดวันในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนปิดสมัยการประชุมน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า ซึ่งรัฐบาลและนายกฯ พร้อมชี้แจง ไม่หนีการอภิปราย ขอให้อภิปรายอย่างสร้างสรรค์ มีข้อมูลจริงๆ ไม่ใช่ตัดแปะข่าวแล้วมาขยายผล เช่น กรณีไซฟอนเงิน หรือจินตนาการเรื่องทุจริตงบน้ำท่วมหรือจำนำข้าว
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ สำทับว่า ปชป.ยังไม่มีความเอกภาพในการอภิปราย เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กลับมองไม่ตรงกัน ขาดยุทธศาสตร์การทำงานเป็นทีม ขาดข้อมูล เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลถือเป็นอาวุธหลัก และเป็นทางถนัด ปชป.ในอดีต แต่ปัจจุบัน ปชป.ยังไม่พร้อมต่อการเป็นฝ่ายค้านของประชาชนที่ดี ประกอบกับเจอเกมทำลายจังหวะจากการปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงนี้
นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า ปชป.ยังมีเรื่องให้คิดว่าจะเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ หรือไม่ เพราะถ้าเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ไปแล้ว จังหวะคาบลูกคาบดอก กระทรวงกลาโหมพิจารณาถอดยศ ร.ต.ของนายอภิสิทธิ์ อาจถึงขั้นเครื่องรวนและพังได้
“วันนี้รัฐบาลไม่ต้องเตรียมอะไรมาก เหมือนคนที่ตั้งใจเรียน ขยันสม่ำเสมอ สอบเมื่อไหร่ไม่มีปัญหา” นายอนุสรณ์กล่าว
ขณะเดียวกันในการเปิดโครงการโรงเรียนผู้ปฏิบัติงาน นปช. "แดงทั้งแผ่นดิน" หลักสูตรผู้ปฏิบัติงาน นปช. ระดับต้น ที่ จ.อุตรดิตถ์ นายปัณณวัฒน์ นาคมูล แกนนำ นปช.และคนเสื้อแดง จ.อุตรดิตถ์ ได้จัดทำเสื้อสีแดง เพื่อสนับสนุนนโยบายรับจำนำข้าว โดยมีภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ สวมหมวกและชุดชาวนา พิมพ์ข้อความว่า “สนับสนุนนโยบายรับจำนำข้าว ปลดแอกชาวนาไทย”
“ชาวนาไทย 100% สนับสนุนนโยบายรับจำนำข้าว เพราะได้ประโยชน์จากโครงการนี้อย่างแท้จริง หนี้สินที่มีอยู่ก็สามารถปลดได้หมด ซึ่ง นปช.อุตรดิตถ์จะรณรงค์ให้ชาวนาทั้งจังหวัดสวมเสื้อนี้ตลอดไป” นายปัณณวัฒน์ระบุ
วันเดียวกัน ในการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ที่สนามม้านางเลิ้ง นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปราศรัยถึงโครงการรับจำนำข้าวว่า รัฐบาลทุ่มงบกว่า 3 แสนล้านบาท บอกว่าช่วยคนส่วนใหญ่ของประเทศนั้น เป็นเพียงกลยุทธ์หลอกลวงทางการเมือง เพราะเม็ดเงินตามโครงการไม่ได้ถึงมือเกษตรกรหรือชาวนาอย่างแท้จริง แต่กลับไปตกอยู่กับคนกลาง และคนทุจริตสวมสิทธิ์ ทั้งที่เป็นนักการเมืองและคนใกล้ชิด
“เมื่อมีผู้ออกมาคัดค้านนโยบายนี้ รัฐบาลก็นำชาวนาบางกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์ออกมาสนับสนุน พร้อมต่อต้านด่าทอกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการ” นายณรงค์ระบุ
นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน อดีตนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย ปราศรัยเช่นกันว่า อยากให้ตั้งข้อสังเกตไปยังโรงสีหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง ที่มีการร่ำรวยเติบโตในช่วงนี้เกิดขึ้นได้เพราะอะไร และปัจจัยอะไรที่ทำให้กลุ่มโรงสีเหล่านี้เติบโตจนผิดสังเกต ซึ่งเรื่องนี้มีการเปิดช่องทางให้มีการโกง
“ที่อ้างว่าทำสัญญาซื้อขายข้าว 7.3 ล้านตัน จำนวน 6 สัญญา กับ 4 ประเทศ โดยได้ทยอยส่งมอบข้าวไปต่างประเทศแล้ว และข้าวทั้งหมดจะถูกส่งมอบแล้วเสร็จในสิ้นปี 2556 ตรงนี้ก็ยังไม่ชัดเจน และผิดปกติอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการซื้อขายข้าวหน้าคลัง ที่ทำให้ผู้ซื้อมีค่าใช้จ่ายการปรับปรุงสภาพข้าว ค่าบรรจุกระสอบ และค่าขนส่งตลอดทาง ตรงนี้เป็นปัญหาอย่างแน่นอนอยู่แล้ว เพราะไม่มีใครที่ไหนยอมซื้อและแบกรับต้นทุนในราคาแพงอย่างแน่นอน แต่รัฐบาลกลับทำเป็นมองไม่เห็นปัญหา” นายนิพนธ์กล่าว.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น