วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ก๊วนแก้ รธน.คาดส่งรายงานให้พรรคร่วมไม่เกิน 20 พ.ย. ยันสร้างสิ่งที่ดีให้สังคม โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 ตุลาคม 2555 15:20 น
ก๊วนแก้รัฐธรรมนูญพรรคร่วม จ่อเชิญ “โคทม-สมบัติ-ดิเรก-ม.เที่ยงคืน” สรุปร่วม 5 พ.ย.ก่อนนัดประชุมครั้งสุดท้าย 12 พ.ย.ส่งพรรคร่วมดูได้ไม่เกิน 20 พ.ย. เน้นที่เห็นตรงกัน 4 ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พ่วงคอป.การันตีต้องแก้ โวชำเรากฎหมายเพื่อสร้างสิ่งดีให้สังคม
วันนี้ (29 ต.ค.) ที่โรงแรมปริ๊นเซส หลานหลวง เมื่อเวลา 13.30 น. คณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลพิจารณาศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามาตรา 291 ที่มีนายโภคิน พลกุล เป็นประธาน ประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยนายโภคินระบุว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาการทำงานมีความก้าวหน้าค่อนข้างมาก ซึ่งล่าสุดนายชูศักดิ์ ศิรินิล ที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทยและคณะทำงานได้ทำการยกร่างรายงานเบื้องต้นให้ตนเองพิจารณาและปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โดยคณะทำงานเตรียมเชิญนักวิชาการจาก 5 สถาบัน ประกอบด้วย สถาบันพระปกเกล้า ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่มีนายโคทม อารียา เป็นผู้อำนวยการศูนย์ นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี ในฐานะที่เคยเป็นประธานกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภา นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า และนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เข้าร่วมเสนอข้อคิดเห็นและข้อสรุปร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน จากนั้นจะมีการประชุมครั้งสุดท้ายในวันที่ 12 พฤศจิกายน เพื่อรวบรวมและตรวจสอบข้อมูลครั้งสุดท้าย ก่อนส่งรายงานฉบับสมบูรณ์ให้พรรคร่วมรัฐบาลไม่เกินวันที่ 20 พฤศจิกายน
นายโภคินกล่าวว่า เนื้อหาในรายงานที่จะส่งให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณาดำเนินการนั้น เป็นการสรุปความเห็นของทุกภาคส่วนที่เห็นตรงกัน ใน 4 ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของสภา ซึ่ง ส.ส และส.ว มีสิทธิลงมติรับหรือไม่รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญต้องยกร่างจากประชาชน เพื่อให้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง รวมไปถึงรัฐธรรมนูญหลายมาตราที่ต้องแก้ไข โดยเฉพาะมาตรา 237 เรื่องการยุบพรรคและตัดสิทธิ์กรรมการบริการพรรค ซึ่งขัดต่อหลักนิติธรรม นอกจากนี้คณะทำงานจะนำเอกสารของคณะกรรมการ คอป.ที่วิเคราะห์ว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เพราะถือเป็นเหตุส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง
นายโภคินกล่าวถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นหลังรัฐบาลเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่คณะทำงานมีหน้าที่ทำความเข้าใจว่า สิ่งที่กำลังเดินหน้าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้สร้างสิ่งที่ไม่ดี แต่เป็นการสร้างสิ่งที่ดีขึ้นให้กับสังคม และผลักดันให้ประสบความสำเร็จ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น