เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในช่วงปลายเดือนตุลาคม ในขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กลับระบุ คณะทำงานเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเลือกยื่นญัตติอภิปรายแบบใด และยังไม่มีความชัดเจนในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า นี่เป็นอีกครั้งที่ชี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังขาดความเป็นเอกภาพ ขาดยุทธศาสตร์การทำงานเป็นทีม ขาดข้อมูล ก็ขนาดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลซึ่งถือเป็นอาวุธหลัก เป็นทางถนัดของพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต มาครั้งนี้กลับกลายเป็นเครื่องฉายภาพสะท้อนว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่พร้อมต่อการเป็นฝ่ายค้านของประชาชนที่ดีพอจริงๆ มิหนำซ้ำยังมาเจอเกมทำลายจังหวะจากการปรับ ครม.ของรัฐบาลในช่วงนี้ และยังต้องมีเรื่องให้คิดหนักว่าจะเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ เพราะถ้าเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ไปแล้ว จังหวะคาบลูกคาบดอก กระทรวงกลาโหม เกิดพิจารณาถอดยศ ร.ต. ของนายอภิสิทธิ์ ในข้อกล่าวหาใช้เอกสารไม่ถูกต้องในการเข้ารับราชการ เป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) อีก คราวนี้อาจถึงขั้นเครื่องรวนและพังได้
"จึงขอเตือนว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ได้อยู่ที่จำนวนวันเวลา ไม่ได้อยู่ที่จำนวนคนพูด แต่อยู่ที่หลักฐานในการนำมาแสดงและอภิปรายให้ประชาชนเห็น วันนี้รัฐบาลไม่ต้องเตรียมอะไรมาก เหมือนคนที่ตั้งใจเรียน ขยันสม่ำเสมอ สอบเมื่อไรไม่มีปัญหา หลายนโยบายรุดหน้าต่างจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ที่ใช้เวลา 2ปี8เดือน ไล่ล่าแต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอย่างเดียว อยากให้ประชาชนที่เฝ้ารอจะติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แยกแยะให้ดี อย่าตกเป็นเหยื่อของอุปาทานหมู่โฆษณาชวนเชื่อใดๆ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ หากจะมีการอภิปราย ก็ไม่มีอะไรเป็นอุปสรรค รวมถึงภารกิจใดๆของนายกรัฐมนตรีในหรือต่างประเทศก็ไม่เกี่ยว เพราะกำหนดการต่างๆดังกล่าว ถูกกำหนดไว้ก่อนหน้านี้นานแล้ว และไม่มีความจำเป็นใดๆที่รัฐบาลต้องการหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ฝ่ายค้านต่างหากที่พลาดเอง เพราะเราเก่งไม่กลัวแต่กลัวช้า " นายอนุสรณ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น