ผมเปิดอ่านคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 รวมทั้งสิ้น 59 หน้ากระดาษเอ4 (รวมทั้งภาคผนวก)แล้ว
ปรากฏว่ามีเรื่องหนึ่งที่ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ได้แถลงต่อรัฐสภา แต่ขยันทำจริง ๆ
เรื่องนั้นคือการ “กู้เงิน” ครับ เห็นยอดหนี้สินที่ทั้งคนไทยและประเทศไทยเป็นหนี้แล้ว ผู้อ่านท่านใดจะคิดอย่างไรไม่ทราบนะครับ
แต่ผมรู้สึกอเนจอนาจใจกับการทำงานของรัฐบาลที่มาจากนักการเมืองไม่ว่าจะพรรคนี้หรือพรรคไหนที่เคยมีมาอย่างยิ่ง
ทุกพรรคที่ขันอาสาเข้ามาบริหารประเทศล้วนมีเป้าหมายที่จะทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้าเหมือนนานาอารยะประเทศกันทั้งนั้น
ฟังจากตอนหาเสียง ต่างก็มีโครงการหมื่นล้านแสนล้านเพื่อที่จะทำโน่นนี่นั่นไม่ต่างกัน
ทั้ง ๆ ที่นักการเมืองในทุกพรรค ต่างก็รู้สถานะของประเทศ ว่ามีหนี้สินกองรวมกันอยู่อย่างมหาศาล
ผมไม่เคยได้ยินพรรคไหนหาเสียงว่า เมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะพัฒนาประเทศแบบค่อยเป็นค่อยไป อะไรที่พอรอได้ก็จะรอไว้ก่อน
หรือจะพยายามแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่สั่งสมมาอย่างยาวนานให้ค่อย ๆ หมดไปทีละเปลาะ เช่น สะสางรัฐวิสาหกิจที่ประสบปัญหาขาดทุนซ้ำซาก ด้วยการเปลี่ยนสถานะใหม่
หรือ พยายามหารายได้เพิ่มเติมนอกเหนือไปจากช่องทางเดิม ๆ ที่เคยมีคือ รายได้จากการท่องเที่ยว รายได้จากการค้าขายกับต่างประเทศที่นับวันจะฝืดเคืองเนื่องจากเศรษฐกิจโลกผันผวน
เช่น จะเร่งการจัดเก็บภาษีจากการนำเข้าสินค้าที่ถูกลักลอบนำเข้าให้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ล่าสุด พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ก็ให้ข่าวว่าตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งมีการเปลี่ยนรัฐบาลมาหลายครั้งนั้น
ได้มีข้าราชการและนักการเมือง "นำเข้ารถยนต์หรู" อย่างผิดกฎหมาย ทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ไปแล้ว 5 ถึง 6 หมื่นล้านบาท
หากรัฐบาลเอาจริงเอาจัง ไม่เกรงว่าจะเป็นการลูบหน้าปะจมูห ผมว่าคงมีรายได้เพิ่มขึ้นมาอีก
แต่ทุกรัฐบาลไม่เคยคิดจะหารายได้ด้วยวิธีการนั้นเลย ตะบี้ตะบันตั้งหน้า “กู้เงิน” ไม่หยุดหย่อน
ในปีงบประมาณ 2556 ก็ก่อหนี้ให้ตัวเองและรัฐวิสาหกิจที่เหมือนง่อยเปลี้ยเสียขาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ต้องแบมือถือกะลาขอจากรัฐบาล รวมกันเบ็ดเสร็จ 9.5 แสนล้านบาทอีกแล้ว
ในจำนวนเงินกู้ 9.5 แสนล้านบาทนี้ ผมขอรายงานยอดใหญ่ให้ทราบว่า
กู้มาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 3 แสนล้านบาท
กู้มาจ้างเอกชนวางแผนป้องกันน้ำท่วมอย่างที่เป็นข่าวไปแล้ว 3.4 แสนล้านบาท
กู้เพื่อการลงทุนในโครงการรัฐวิสาหกิจ 8 แห่งรวม 47,156.32 ล้านบาทครับ
ทำให้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2555 มีหนี้สาธารณะ 5.01 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 44.89 % ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี.)
ในจำนวนนี้เป็นหนี้ของรัฐบาล 3.63 ล้านล้านบาท
หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.02 ล้านล้านบาท (น่าจะได้แก่ รถไฟ รถเมล์ ประปา นั่นแหละครับป
หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน แต่รัฐบาลต้องค้ำประกัน 351.986.95 ล้านบาท
และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 6,541.85 ล้านบาท
สรุปคือ เป็นหนี้มันทั้งประเทศไม่ว่าจะเป็น คน หรือ หน่วยงานต่าง ๆ นั่นแหละครับพี่น้องงงงง !
อย่างนี้แล้ว เรายังจำเป็นต้องมีนักการเมืองไว้สร้างหนี้กันทำไมอีกละครับ
ออกไป ออกไป ออกไป !
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น