วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ยิ่งลักษณ์ 3 จะดีหรือแย่ รัฐบาลต้องพิสูจน์ตัวเอง 26 October 2555 - 00:00



การปรับคณะรัฐมนตรีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลายรายชื่อตามที่ปรากฏตามสื่อมวลชน ปรากฏว่าไม่ได้สร้างเสียงตอบรับจากสังคมตามมาแต่อย่างใด 
    ด้วยมองว่าเป็นการปรับ ครม.ภายใต้หลักการเดิมๆ คือเป็นการปรับเพื่อเหตุผลทางการเมืองของตัวยิ่งลักษณ์ และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้นำรัฐบาลตัวจริง โดยส่วนรวมไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการปรับ ครม.ครั้งนี้
     และหลายตำแหน่งที่มีการปรับเปลี่ยน คนที่มาแทนก็ไม่ได้ดูแล้วจะมีคุณสมบัติความเหมาะสมอะไรดีกว่าคนที่ถูกปรับออกไปแต่อย่างใด เผลอๆ แย่กว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ เข้าทำนองผิดฝาผิดตัว ตั้งคนไม่เหมาะกับงาน ปรับ ครม.เพื่อตอบสนองกลุ่มก๊วนการเมือง และปัจจัยการเมืองในพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล รัฐมนตรีบางคนที่ควรถูกปรับออกเพราะประชาชนมองว่าไม่มีผลงาน เป็นรัฐมนตรีที่โลกลืม ผนวกกับมีปัญหาเรื่องภาพลักษณ์การทำงานที่ถูกมองว่าทำงานไม่โปร่งใส ถูกสังคมตั้งคำถามเรื่องการใช้อำนาจหน้าที่ไปแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง บางคนก็ถูกสังคมตั้งคำถามถึงเรื่อง จริยธรรมทางการเมือง ในการเป็นรัฐมนตรี แต่ก็ไม่ถูกปรับออก แถมยังได้ตำแหน่งที่ดีขึ้นกว่าเดิม
    แม้ประชาชนจะเข้าใจดีว่าการปรับ ครม.ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ล้วนเป็นการปรับภายใต้เงื่อนไขเช่นนี้ แต่ก็ยังหวังว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่รับคะแนนเสียงจากประชาชนอย่างท่วมท้น จนได้ ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนเสียงในสภาผู้แทนราษฎร จึงน่าจะใช้โอกาสนี้สร้างศรัทธาให้กับประชาชน
    แต่ก็พบว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 จนถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 3 รายชื่อคนที่เป็นรัฐมนตรีก็ยังไม่ได้สร้างเสียงชื่นชมอะไรให้กับประชาชนได้อย่างที่ควรจะได้มากกว่านี้
    อย่างกรณีที่ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่วนหนึ่งก็เข้าใจได้ว่า ยิ่งลักษณ์ให้ความไว้วางใจในตัวกิตติรัตน์ในฐานะเป็นเพื่อนสนิทกันมา ตั้งแต่ยิ่งลักษณ์ยังเป็นนักธุรกิจอยู่ในเครือชินคอร์ป ผนวกกับคงคิดว่าหากปรับนายกิตติรัตน์ออก ก็เท่ากับเป็นการยอมรับว่าการดำเนินการที่ผ่านมาของรัฐบาลทางด้านนโยบายเศรษฐกิจ มีความผิดพลาดบกพร่องจริงอย่างที่ถูกวิจารณ์ จึงไม่มีการปรับเปลี่ยนใดๆ ทั้งที่แนวนโยบายเศรษฐกิจหลายเรื่องของรัฐบาลกำลังถูกวิจารณ์และถูกตั้งคำถามตรวจสอบอย่างหนัก ว่าก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของคลังของประเทศอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะหลายปัญหาที่หลายคนกำลังเป็นห่วง เช่น หนี้สาธารณะ ที่เกิดจากผลพวงโครงการประชานิยมของรัฐบาล
    อีกทั้งตัวกิตติรัตน์ก็ยังเคลียร์ตัวเองไม่ได้ในเรื่องของการเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาล เพียงแต่ออกมาระบุว่าสามารถ โกหกสีขาว หรือ White lies เพื่อโกหกตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศ อย่างเรื่องการตั้งเป้าการส่งออกได้ จนถูกตั้งคำถามอย่างมากถึงความเหมาะสม-จริยธรรมทางการเมือง ในตัวของกิตติรัตน์ ณ ระนอง แต่ก็ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนตัวกิตติรัตน์ออกจาก ครม.แต่อย่างใด บ้างก็วิเคราะห์ว่าอาจเป็นเพราะส่วนหนึ่ง ตัวทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ต้องเอาตัวกิตติรัตน์ไว้เป็นกันชนให้กับตัวยิ่งลักษณ์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน จะได้ลดแรงกระแทกลง หากมีการอภิปรายเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าจะเป็นการคาดเดากันเองของคนนอกเท่านั้น เพราะหากผู้นำประเทศคิดและวางแผนการเมืองแบบนี้ มันก็เป็นแค่การเอาตัวรอดทางการเมืองมากกว่าคิดถึงส่วนรวม
    อย่างไรก็ตาม การปรับ ครม.จนเกิดยิ่งลักษณ์ 3 แม้หลายคนจะบอกว่าไม่มีอะไรให้คาดหวัง เพราะไม่เคยหวังอะไรอยู่แล้วจากนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดนี้ แต่ก็หวังว่าครม.ยิ่งลักษณ์ 3 จะพยายามเร่งแสดงฝีมือพิสูจน์ตัวเอง เพื่อลบข้อครหาและเสียงปรามาสที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น