วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

‘ตู่’ยอมกลืนเลือด โวยโดนสกัดร่วมครม.ทูลเกล้าฯ22ตำแหน่ง 26 October 2555 - 00:00




‘ตู่’ยอมกลืนเลือด โวยโดนสกัดร่วมครม.ทูลเกล้าฯ22ตำแหน่ง

  “ยิ่งลักษณ์” แจงทูลเกล้าฯ ถวายปรับ ครม.แล้ว โยกครั้งใหญ่ 22 ตำแหน่ง คนสนิท “นายใหญ่-เจ๊แดง” กวาดเก้าอี้พรึ่บ “ปู” ปัดหนีอภิปรายไม่ไว้วางใจ อ้างความเหมาะสมทำโผกับมือ! แต่ดันตอบไม่ได้ปรับกี่คน ส.ส.อาวุโสอีสานฮึ่ม “ยุทธพงศ์” ก้าวข้ามหัว แกนนำแดงช้ำ “ตุ๊ดตู่” แห้วรัฐมนตรี แฉมีคำสั่งพิเศษสกัด “จตุพร” ลั่นยอมกลืนเลือดต่อ ทุกวันนี้อารมณ์กระสันตำแหน่งหมดแล้ว เตรียมเปิดใจ 26 ต.ค.
เมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี ได้มีความชัดเจนในการปรับคณะรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือ ครม.ปู 3 แล้ว เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ว่า อยู่ในขั้นตอนของสำนักเลขาธิการ สำนักพระราชวัง โดยเหตุผลการปรับ ครม.ครั้งนี้ เพราะมีตำแหน่งว่างของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่ลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และล่าสุด นายธีระ วงศ์สมุทร ได้แจ้งขอลาออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพราะทำงานมานานแล้ว จึงเห็นว่าทั้ง 2 ตำแหน่งอาจไม่สามารถฝากงานให้รักษาการได้ เลยมีการปรับ รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาลได้แจ้งความจำนงขอเปลี่ยนรายชื่อรัฐมนตรีด้วย
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านมองการปรับ ครม.เพื่อหนีการอภิปราย น.ส.ยิ่งลักษณ์ยืนยันว่า ไม่ เพราะถ้าดูกระทรวงหลักๆ ยังอยู่ ซึ่งรัฐบาลกับฝ่ายค้านต่างคนต่างทำหน้าที่ รัฐบาลเองมีหน้าที่ทำงานฝ่ายบริหาร อย่างที่เรียน อยู่ที่ความเหมาะสม ส่วนฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ในสภา ซึ่งเราไม่ได้หนีอยู่แล้ว
ถามต่อว่า พอใจกับภาพ ครม.ใหม่ที่ออกมามากน้อยแค่ไหน นายกฯ ตอบว่า พอใจ ซึ่ง ครม.ที่ปรับเปลี่ยนไม่ได้หมายความว่าไม่มีความสามารถ แต่อาจเป็นช่วงเวลาต่างๆ ที่เหมาะสม และเรามีผู้มีความสามารถหลายท่านที่จะเข้ามาช่วยงาน ถือว่าเป็นการปรับให้การทำงานเกิดความคล่องตัวขึ้น ซักอีกว่า ทำไมถึงปรับใหญ่มากกว่า10 ตำแหน่ง มีนัยอะไรหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า การปรับเปลี่ยนบางท่านแค่เปลี่ยนกระทรวงนิดหน่อย บางทีก็เป็นการเรียนรู้ประสบการณ์ที่หลากหลายด้วย และบางครั้งงานจะได้ตรงด้วย
เมื่อถามว่า ห่วงแรงกระเพื่อมในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ก็ต้องชี้แจง เรียนว่าการปรับตรงนี้มาจากความเหมาะสม และเราอยากได้ผู้ที่มีความสามารถมาช่วยเยอะๆ แต่ในความเป็นจริงตำแหน่งมีเท่านี้ อาจให้เวลาในการทำงาน คงใช้เวลาชี้แจง และเชื่อว่าเราคุยกันได้
 “ไม่มี ทำเอง สื่อมวลชนก็เห็นอยู่แล้ว” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวตอบทันทีเรื่องมีเด็กฝากหรือใบสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือไม่
และเมื่อถามว่า มีคนนอกกี่คน นายกฯ กลับตอบว่า ยังไม่ได้นับ และเมื่อถามต่อว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้ถูกมองว่าตอบแทนบุญคุณมากกว่าเรื่องงาน นายกฯ แจงว่า สื่อยังไม่ทันเห็นชื่อทั้งหมดเลย รอเปิดชื่อก่อนแล้วค่อยดูดีมั้ย ขอเรียนว่าผู้ที่เข้ามามีความสามารถ ประสบการณ์ตรง และเมื่อถามว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้ วางหลักเกณฑ์การพิจารณาผลการทำงานกี่เดือนหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ตอบ เพียงแค่ส่ายหัวแล้วเดินเข้าร่วมประชุมสภาทันที
เผยปรับใหญ่ 22 เก้าอี้
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย (พท.) แจ้งว่า การปรับ ครม.ยิ่งลักษณ์ 3 ครั้งนี้นั้นเป็นการปรับใหญ่ถึง 22 ตำแหน่ง โดยที่เลือกเวลานี้เพราะปัจจัยลงตัว ทั้งใกล้เวลาฝ่ายค้านยื่นญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 พ้นจากการถูกเพิกถอนสิทธิครบ 6 เดือน โดยการปรับนั้นมีทั้งโยกย้ายเก้าอี้ ปรับออกและปรับเพิ่ม
โดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม ปรับย้ายเป็น รมว.มหาดไทย, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา สมาชิกบ้านเลขที่ 111 มาเป็นรองนายกฯ ควบ รมว.ศึกษาธิการ, นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ควบเก้าอี้รองนายกฯ เช่นเดียวกับนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.การต่างประเทศ ที่ควบรองนายกฯ,  พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม ย้ายเป็น รมช.มหาดไทย, นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ ขึ้นเป็น รมช.มหาดไทย, นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ที่ทำงานตรวจสอบฝ่ายตรงข้ามให้พรรคหลายประเด็น ทั้งกรณีเขาแพง บ.ฟิลลิป มอร์ริส เป็นต้น เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ที่ พ.ต.ท.ทักษิณมีสัญญาใจและบอกกับคนใกล้ในงานวันเกิดที่ฮ่องกง จะมีตัวแทน ส.ส.นครราชสีมาเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ก็เป็น รมช.คมนาคม
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช สมาชิก 111 เป็น รมช.ศึกษาธิการ, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คนสนิทบ้านจันทร์ส่องหล้า รมช.คมนาคม ขึ้นเป็น รมว.คมนาคม, พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต นายทหารใกล้ชิดแกนนำพรรคเพื่อไทย เป็น รมช.คมนาคม, นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คนสนิทนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็น รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, นายวราเทพ รัตนากร คนสนิทนางเยาวภาอีกราย เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ, น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกรัฐบาล เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ , นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล สมาชิก 111 ที่เป็นสายตรงดูไบ ก็ก้าวมาเป็น รมว.พลังงาน, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน กลุ่มนางเยาวภา เป็น รมช.สาธารณสุข, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ ย้ายเป็น รมช.พาณิชย์
ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล พรรคชาติพัฒนาส่งนายยุคล ลิ้มแหลมทอง เป็น รมว.เกษตรฯ, นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์  ส.ส.พิจิตร ย้ายจาก รมช.พาณิชย์ เป็น รมช.เกษตรฯ, นายประเสริฐ บุญชัยสุข ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา คนสนิทนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็น รมว.อุตสาหกรรม, นายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำพรรคพลังชล เป็น รมว.วัฒนธรรม, นพ.ประดิษฐ์ สินธณรงค์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์แผนไทย ในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่มีสายสัมพันธ์อันดีทั้งเครือข่ายอสังหาริมทรัพย์ที่ใกล้ชิดนายกฯ เป็น รมว.สาธารณสุข
ในส่วนรัฐมนตรีที่หลุดตำแหน่ง อาทิ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา พ้นจากรองนายกฯ, นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ พ้นจาก รมว.พลังงาน, นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช พ้นจาก รมว.ศึกษาธิการ, นายวิทยา บุรณศิริ พ้นจาก รมว.สาธารณสุข, นายภูมิ สาระผล พ้นจาก รมช.พาณิชย์, นางนลินี ทวีสิน พ้นจาก รมต.ประจำสำนักฯ, นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ พ้นจาก รมช.มหาดไทย ในส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศกลางงานคอนเสิร์ตคนเสื้อแดงโบนันซ่าเขาใหญ่เมื่อ 25 ก.พ. จะมอบตำแหน่งรัฐมนตรีให้แน่นอน แต่ภายหลังเกิดกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ค่อยพอใจ เนื่องจากเกรงว่าเข้ามาจะเป็นสายล่อฟ้าให้ทำงานได้ลำบากขึ้น ประกอบกับมีแรงกระเพื่อมจากภายนอก โดยนายจตุพรจะแถลงข่าวต่อท่าทีการปรับ ครม.ครั้งนี้ในวันที่ 26 ต.ค. เวลา 13.30 น. ที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว
โควตา"เหนาะ"ยังต้องลุ้น
ขณะเดียวกัน ยังมีความไม่แน่นอนในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาจมีการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรี จากนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข มาเป็นนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ หนึ่งในสายตรงนายยงยุทธ ติยะไพรัช เข้ามาแทน ส่วนนายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย โควตากลุ่มวังน้ำเย็นของนายเสนาะ เทียนทอง ก็กำลังมีการต่อรองว่าจะถูกปรับออก หรือว่าปรับย้ายให้ไปเป็น รมช.อุตสาหกรรม หรือ รมช.พาณิชย์ แทน
สำหรับความเคลื่อนไหวและความคิดเห็นของบรรดารัฐมนตรีที่มีชื่อถูกปรับเปลี่ยนเก้าอี้นั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่นายกฯ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ยอมรับได้ และไม่เสียกำลังใจ ส่วนรายชื่อบุคคลต่างๆ ที่มีออกมานั้นไม่ทราบ เพราะยังไม่เห็น
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ซึ่งเดิมถูกคาดว่าจะไปนั่งเก้าอี้ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ไม่ผิดหวัง สบายๆ เพราะเคยเป็น รมว.มหาดไทยมาแล้ว คนเราเป็นนักการเมือง  ถ้าเคยทำหน้าที่ตรงไหนมาแล้วก็ชินๆ ไม่มีอะไร แต่ถึงขณะนี้ยังยืนยันว่านายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดงเหมาะสมที่จะเป็นรัฐมนตรี ส่วนจะมีชื่อหรือไม่ ไม่ทราบ และคงแสดงความเห็นล่วงหน้าไม่ได้
“ไม่ใช่การปรับเพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ต้องยื่นญัตติอยู่แล้ว” ร.ต.อ.เฉลิมระบุ
ด้านนายปลอดประสพ ได้เดินทางมายังตึกบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของรองนายกฯ โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ก่อนให้สัมภาษณ์ปฏิเสธการปรับ ครม.ว่า ไม่รู้ แต่ที่รู้คือต้องทำงานเรื่องน้ำต่อไป โดยทำอย่างไรไม่ให้ปีนี้น้ำแล้ง และปีหน้าไม่ให้น้ำท่วม
    ส่วนในการประชุมสภา หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่าได้นำรายชื่อ ครม.ยิ่งลักษณ์ 3 ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแล้ว ทำให้ ส.ส.  รัฐมนตรี ต่างจับกลุ่มวิจารณ์กันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายหลุด ครม. ส่วนใหญ่สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก ต่างจากว่าที่ รมต.ที่นอกจากจะรับโทรศัพท์แสดงความยินดีถ้วนหน้าแล้ว บรรดาห้องทำงานที่ชอบไปนั่งเป็นประจำยังมีบุคคลต่างๆ ทยอยเข้า-ออกเป็นระยะๆ  โดยเฉพาะนายประเสริฐ ปรากฏว่ามี ส.ส.และข้าราชการแห่แสดงความยินดีกันคึกคัก เช่นเดียวกับนายยุทธพงศ์ ก็เดินทางมายังรัฐสภาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แต่ก็มีกลุ่ม ส.ส.วิจารณ์ว่ามาทีหลังกลับได้ก่อน แซงหน้ารุ่นพี่ที่อยู่พรรคมานาน 
อีสานฮึ่มเก้าอี้ยุทธพงศ์
มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยว่า กรณีนายยุทธพงศ์ได้สร้างความไม่พอใจให้ ส.ส.อีสานรุ่นอาวุโสของพรรคอย่างมาก เพราะเห็นว่าเพิ่งเป็น ส.ส.พรรคสมัยแรก และย้ายมาจากพรรคอื่นมา แต่นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ส.ส.มหาสารคาม กล่าวปกป้องว่า นายยุทธพงศ์เป็นคนมีความสามารถ ประสบการณ์สูง เชื่อว่าการที่ผู้ใหญ่เลือกนายยุทธพงศ์ คงให้เอามาตามติดการทุจริตของฝ่ายตรงข้าม ขอให้ดูความสามารถ อย่าดูแค่เป็น ส.ส.หลายสมัย
นายวรวัจน์กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่เหตุผลที่นายกฯ ปรับครม.ครั้งนี้ เนื่องจากมีตำแหน่ง รมต.ว่างลง ซึ่งนายกฯ ทราบดีว่าใครมีความถนัด เหมาะสมกับตำแหน่งอะไร จึงปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม ใครถนัดงานอะไร นายกฯ ก็วางไปอยู่ตำแหน่งนั้น ไม่มีเรื่องกลุ่มก๊วนต่างๆ มาเกี่ยวข้อง
สำหรับความคิดเห็นของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ได้โทรศัพท์คุยกับนายจตุพรแล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่า ไม่เป็นไร เพราะทำใจไว้แล้ว พร้อมฝากบอกคนเสื้อแดงว่า ขอให้อยู่นิ่งๆ อย่าเคลื่อนไหวอะไร ซึ่งส่วนตัวเห็นใจนายจตุพรและเข้าใจในการปรับ ครม.ครั้งนี้ เพราะอำนาจไม่ได้อยู่ น.ส.ยิ่งลักษณ์คนเดียว แต่ต้องฟังเสียงทั้งในและนอกพรรคด้วย ซึ่งก็มีเสียงที่กีดกันนายจตุพรทั้งในและนอกพรรค ซึ่งขบวนการนอกพรรคก็อยู่ใกล้ชิดศูนย์กลางอำนาจเดิม
    “เชื่อว่ามีคำสั่งพิเศษมาสกัดไม่ให้นายจตุพรเป็นรัฐมนตรี เราไม่เสียใจและน้อยใจ เรารู้ว่าคนเสื้อแดงคิดอย่างไรกันบ้าง   แม้คนเสื้อแดงต้องการให้นายจตุพรเป็นรัฐมนตรี แต่ก็ต้องขอให้ยอมรับการตัดสินใจปรับ ครม.ครั้งนี้ ผมก็ได้บอกกับนายจตุพรให้ใจเย็น เพราะคนทำงานต้องได้รับผลตอบแทนแน่นอน“ นายวรชัยกล่าว
นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท ส.ส.บัญชีรายชื่อ แกนนำคนเสื้อแดง ยอมรับว่า อาจมีความน้อยเนื้อต่ำใจเกิดขึ้นบ้างในหมู่คนเสื้อแดง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างคนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยยังเหมือนเดิม ไม่มีจืดจางลง
        จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวว่า คนเสื้อแดงหลายคนเสียความรู้สึก ยอมรับไม่ได้ ผิดหวัง เพราะอยากให้นายจตุพรรับตำแหน่ง เนื่องจากเป็นแม่ทัพในการต่อสู้ในเหตุการณ์การชุมนุม และเป็นผู้เสียสละจนมีคดีติดตัวมากมาย ถึงขนาดถ้าศาลตัดสินให้มีความผิด ตายไป 10 ชาติก็คงใช้หนี้ไม่หมด
     “หลายคนที่นอนอยู่เฉยๆ กลับได้ดีทางการเมือง แต่ในการต่อสู้ที่ผ่านมานายจตุพรน่าจะมีโอกาสมากกว่าบางคน จึงอยากให้รัฐบาลระวังตัวในการแต่งตั้งบุคคลเข้ามาเป็นรัฐมนตรีให้มากกว่านี้ หลังจากนี้พรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดงจะต้องอธิบายให้คนเสื้อแดงเข้าใจถึงเหตุผลที่นายจตุพรไม่ได้รับตำแหน่งด้วย” จ.ส.ต.ประสิทธิ์กล่าว
นายจตุพรกล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอเชียอัพเดทเมื่อค่ำวันที่ 24 ต.ค. โดยมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักว่า เรื่องนี้จะให้ตอบแบบใด ตอบแบบนักการเมืองก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้อยู่ที่นายกฯ และเป็นแค่กระแสข่าว หากตอบแบบคนเสื้อแดงก็ตอบว่า บัดนี้คงเป็นที่ยุติชัดเจนครบถ้วนแล้ว ขอแสดงความเสียใจกับคนที่พ้นจากตำแหน่ง และแสดงความยินดีกับคนที่เข้ารับตำแหน่งใหม่
          เมื่อถามว่า กระแสข่าวก่อนหน้านี้โควตาของ นปช.ระบุว่านายจตุพรต้องสลับกับนายณัฐวุฒิ นายจตุพรกล่าวว่า ไม่เคยคุยเรื่องนี้ ตนเองกับนายณัฐวุฒิเป็นพี่น้องร่วมตาย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่นายณัฐวุฒิจะตัดสิน เพราะคนตัดสินคือหัวหน้ารัฐบาล การยืนหยัดเดินทางในระยะไกล 3 ปีเศษนี้ต้องมีอุปสรรค ฉะนั้นต้องทำเรื่องของตนเองให้เล็ก เรื่องส่วนรวมต้องใหญ่ขึ้น
ตุ๊ดตู่ยอมกลืนเลือด
    และในวันช่วงค่ำวันที่ 25 ต.ค. นายจตุพรย้ำในช่องเอเชียอัพเดทว่า เลือดมีไว้ให้กลืนก็ต้องกลืนต่อไป ทุกๆ อย่างได้ผ่านไปแล้ว ทุกอย่างต้องมองไปข้างหน้า การจะวิจารณ์ก็จะอายเขาเปล่าๆ ต้องก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป ทุกวันนี้อารมณ์อยากหายไปหมดแล้ว พี่น้องจะได้ไม่ต้องมาลุ้นกัน    
สำหรับความเห็นฝ่ายค้านนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลกระทบต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจหลังปรับ ครม.ว่า ต้องรอดูว่าถ้ามีการปรับ ครม.จะมีการปรับบุคคลในตำแหน่งที่เราจะอภิปรายหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องปรับเปลี่ยนไป แต่เชื่อว่าคงไม่มีปัญหา แม้ว่าจะมีข่าวว่านายกฯ อาจติดภารกิจต่างประเทศ ไม่อยู่ในประเทศช่วงอภิปราย ก็ไม่มีผลกระทบอะไร เพราะสามารถจัดวันได้ เพราะทราบว่านายกฯ จะเดินทางไปต่างประเทศ 3 ครั้ง และวิปรัฐบาลก็ยืนยันแล้วว่าสามารถจัดเวลาให้ได้
“ฝ่ายค้านเข้าใจดีว่า ทุกครั้งที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่เราจะนำเสนอความจริงที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน แม้ผลจะไม่เกิดในสภา แต่จะเกิดผลทางสังคมแทน” นายอภิสิทธิ์กล่าว
         นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ปชป. ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวถึงกรณีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า มีผู้เข้าข่ายถูกอภิปรายคือ นายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีรายบุคคล หรือทั้งนายกฯ และรัฐมนตรี ซึ่งยังไม่ได้กำหนดชัดเจน แต่นายกฯ จะถูกอภิปรายแน่นอน ในช่วงเดือน พ.ย. จึงขอให้นายกฯ อย่ากำหนดภารกิจใดๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการมารับฟังหรือชี้แจง
“การปรับ ครม.ช่วงนี้ เป็นการชี้ให้เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลต้องการหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ” นายจุรินทร์ระบุ
    นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า หากมีการปรับนายบุญทรงออกจริง ก็แสดงว่ารัฐบาลยอมรับโดยปริยายว่าสิ่งที่พรรคพยายามบอกมาตลอดว่า นโยบายจำนำข้าวมีปัญหาทุจริตจริง แต่พรรคยังยืนยันไม่เปลี่ยนแผนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องนโยบายจำนำข้าวแน่นอน.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น