วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ใจเขาใจเรา กับการชุมนุมสงบสันติ 25 October 2555 - 00:00



ตกเป็นที่จับตามองของทุกฝ่ายกับการประกาศชุมนุม โดยพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม เพื่อล้มรัฐบาล ที่สนามม้านางเลิ้ง ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ เพราะเป็นการชุมนุมที่นอกเหนือไปจากกิจกรรมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มเสื้อหลากสี และพรรคประชาธิปัตย์ 
    และดูเหมือนว่าจะสร้างความกังวลใจให้กับรัฐบาลเพื่อไทย และบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงอย่างมาก สาเหตุแห่งความกังวลใจคงจะมีเรื่องการท้าทายอำนาจเป็นประเด็นหลัก แต่ก็มีเหตุผลอื่นๆ ประกอบเช่น เกิดมวลชนกลุ่มใหม่ๆ ที่แสดงความไม่พอใจรัฐบาลมากยิ่งขึ้น
    มูลเหตุแห่งความไม่พอใจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลักๆ แล้วเป็นประเด็นการคอรัปชั่น โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว และงบน้ำท่วม รวมไปถึงความพยายามช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นผิด แม้ประเด็นหลัง รัฐบาลเพลาๆ การเคลื่อนไหวลงไปก็ตาม แต่ก็ยังปรากฏว่านักโทษหนีคุกเข้าแทรกแซงการบริหารราชการแผ่นดินอยู่บ่อยครั้ง ไม่เว้นกระทั่งการปรับคณะรัฐมนตรี
    ว่าไปแล้ว การชุมนุมในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ ไม่มีอะไรน่ากลัวสำหรับรัฐบาล เพราะ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ไม่มีมวลชนของตัวเอง เพียงแต่การที่มีหัวหน้าม็อบมียศเป็นพลเอก ทำให้รัฐบาลและแกนนำเสื้อแดงรู้สึกหวาดหวั่น มีเกี่ยวโยงกับกองทัพ และเลยเถิดไปถึงการรัฐประหารด้วยหรือไม่
    คนในรัฐบาล แกนนำเสื้อแดง รวมไปถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาร้องขอให้การชุมนุมเป็นไปอย่างสงบสันติ ขณะที่รัฐบาลนัดรับประทานอาหารเที่ยง ภายในห้องอาหาร สนามม้านางเลิ้ง พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ในมุมหนึ่งเกิดข้อสงสัยในตัว พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ อยู่เหมือนกัน เพราะไม่เคยปรากฏมาก่อนว่า รัฐบาลจะนัดรับประทานอาหารเที่ยงกับกลุ่มอื่นๆ ก่อนที่จะมีการชุมนุม ที่สำคัญคนของรัฐบาลเป็น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี
    ตามรูปการณ์แล้ว รัฐบาลมองว่า พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ มีเบื้องหลังซึ่งก็คือกองทัพ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีส่วนเกี่ยวข้องกันน้อยมาก หรือแทบไม่มีเลย ดูจากท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ให้ความเห็นเรื่องนี้แล้วเป็นการประกาศว่า กองทัพอยู่ข้างรัฐบาลด้วยซ้ำ 
    จึงเป็นไปได้ว่า การชุมนุมที่จะเกิดขึ้น ได้เกิดภาพหลอนคอยหลอกรัฐบาล เพราะเกรงว่าจะสูญเสียอำนาจไปเร็วกว่าที่ควรจะเป็น รัฐบาลจึงพยายามตั้งการ์ดสูงเพื่อรับมือกับทุกม็อบ โดยลืมไปว่าจุดตายของรัฐบาลอยู่ในรัฐบาลเอง นั่นคือการคอรัปชั่น
    รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 63 บัญญัติไว้ว่า "บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ 
    การจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เฉพาะในกรณีการชุมนุมสาธารณะ และเพื่อคุ้มครองความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ หรือเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในระหว่างเวลาที่ประเทศอยู่ในภาวะสงคราม หรือในระหว่างเวลาที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือประกาศใช้กฎอัยการศึก"
    หากกลับไปดูการชุมนุมของคนเสื้อแดงช่วงเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง จะพบว่ามีการละเมิดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน ซ้ำร้ายแกนนำม็อบยังยุให้เผาเมือง แต่เมื่อกลับข้างมานั่งเป็นอำมาตย์เสียเอง กลับร้องขอให้ชุมนุมโดยสงบ สันติ
    จากประวัติศาสตร์การชุมนุมเชื่อแน่ว่าไม่มีครั้งไหนรุนแรงเท่า การเผาเมืองช่วยนักโทษหนีคุก และจะเป็นความรุนแรงครั้งสุดท้ายที่ไม่มีมวลชนฝ่ายไหนกล้าทำอีก เพราะได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสุดท้ายคือหายนะ ถึงจะเผาเมืองเสร็จแล้วได้เป็นรัฐมนตรี แต่มิได้มีความสุขบนเก้าอี้รัฐมนตรี จากการถูกตราหน้าว่าไอ้พวกเผาเมือง
    ฉะนั้น การชุมนุมวันที่ 28 ตุลาคมนี้ ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ที่น่ากังวลสำหรับรัฐบาลคือ การคอรัปชั่นในรัฐบาลนั่นเอง. 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น