หนทางยังอีกยาวไกล
เพรียวพันธ์ - เฉลิม
ข่าวล่ามาไว แจ้งกันล่วงหน้าอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร จะบินไปปักหลักอยู่ที่ฮ่องกงในช่วงปลายเดือนตุลาคม นานนับสัปดาห์ ในสถานการณ์เหมาะเจาะพอดีกับคิวที่พรรคเพื่อไทยล็อกโปรแกรมประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันที่ 30 ตุลาคม
“นายใหญ่” มาเกาะติดขอบเวทีอีกตามเคย
แต่อย่างที่รู้เก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยลุ้นกันไม่มันเท่าไหร่ เพราะตามแคนดิเดต “ตัวเก็ง” ที่ออกมาก็ไม่ใช่ประเภทมวยตัวหลัก ตามสเปกก็แค่ “ตุ๊กตา” สั่งซ้ายหันขวาหันได้
โจทย์ใหญ่ที่น่าลุ้นของรัฐบาล มันอยู่ที่ช็อตการปรับ ครม.เท่านั้น
ตามอาการแปร่งๆล่าสุดของ “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ บอกปัดคำถามนักข่าว ออกตัวชัดๆเลยว่า ไม่พร้อมนั่งเก้าอี้ รมว.มหาดไทย เพราะเคยเป็น รมว.มหาดไทยมาแล้ว พอแล้ว ไม่อยากกลับไปอีก
“เมื่อก่อนอยากเป็นจริง แต่เมื่อได้เป็นแล้วก็พอแล้ว อยู่ตรงนี้ดีแล้ว ทำงานปราบยาเสพติด ถือว่าตรงสเปก”
อยู่ๆก็เปลี่ยนอารมณ์กันดื้อๆ มวยเก๋าระดับ “สารวัตรเหลิม”ออกอาการยื้อเก้าอี้รองนายกฯ คุมงานตำรวจ เลิกสนเก้าอี้ รมว.มหาดไทย
ไม่ใช่อาการปกติแน่นอน
โดยจังหวะล้อกระแสข่าววงใน การ “ล่อ” ให้ “สารวัตรเหลิม” ไปคั่วเก้าอี้ในฝัน ลุ้นนั่งแท่นเก้าอี้ รมว.มหาดไทย ก็เพื่อขยับช่องว่างในตำแหน่งรองนายกฯคุมงานตำรวจไว้รองรับ “บิ๊กอ๊อบ” พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร.พี่ชายคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ
แต่ถ้าออกมามุกนี้ ก็ยัง “กั๊ก” จัดเก้าอี้กันไม่ลงล็อก
เรื่องของเรื่อง ลำพังถ้า “สารวัตรเหลิม” ออกอาการยื้อเองก็ยังไม่หนักเท่าไหร่ ต่อรองกันได้
แต่ถ้ามองกันในเหลี่ยมที่ว่า “สารวัตรเหลิม” คือมวยหลักที่นายกฯยิ่งลักษณ์เรียกใช้บริการ ถือเป็นขุนพลสายตรง งานนี้ก็อาจโยงลึกไปกว่านั้น กับอาการขวางลำกันเอง ระหว่างนายกฯยิ่งลักษณ์น้อง “นายใหญ่” กับ “บิ๊กอ๊อบ” พี่ชาย “นายหญิง”
“ยิ่งลักษณ์” กั๊กคิว “เพรียวพันธ์” มันต้องมีอะไรในกอไผ่
และก็ให้บังเอิญสอดรับกับกระแสแว่วๆก่อนหน้านั้น “นายใหญ่” กับนายกฯหญิง ไม่ค่อยสบอารมณ์กับบทติ๊ดชึ่งของอดีต ผบ.ตร. ขอให้ลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ในสีเสื้อพรรคเพื่อไทยก็บอกปัด จัดคิวให้ชิมลางสนามการเมืองก็ไม่ค่อยรับมุก
กระตุกภาพให้เห็นเลยว่า เป็นคนที่สั่งการ คุมเกมไม่ได้
งานนี้ “สารวัตรเหลิม” ออกลูกยื้อในจังหวะเข้าเหลี่ยมตอกลิ่มพอดีก็แล้วกัน
สรุปเอาเป็นว่า สถานการณ์ภายในค่ายของพรรคเพื่อไทยเองยังอึมครึมๆไม่รู้ใครเป็นใคร
อย่าว่าแต่เกลี่ยตำแหน่งรัฐมนตรีให้พวกแถวหนึ่งแถวสองแถวสาม แม้แต่ในหมู่พี่น้องตระกูลชินยังเคลียร์กันไม่ลงตัวระหว่างโควตาของ “นายใหญ่” สายตรง “นายหญิง” เด็กเส้น “เจ๊แดง” หรือสายที่กำลังแรงในขั้วของนายกฯยิ่งลักษณ์
เกมปรับ ครม.ยังอยู่อีกยาวไกล อย่างเร็วก็หลังศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
แต่ที่แทรกคิวร้อนมาก่อนใครเลย กลับกลายเป็นกระแสความเคลื่อนไหวที่โชยออกมาจากซีกของฝ่ายค้านอย่างค่ายภูมิใจไทย ภายหลังขยับปรับทัพเปลี่ยนตัวจ่าฝูงคนใหม่มาเป็น “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ขึ้นแท่นหัวหน้าพรรค
กั๊กสถานะ ตัวเป็นฝ่ายค้านแต่ใจอยากร่วมรัฐบาล
ตามอาการที่แสดงออกกันทั้งลับหลังและซึ่งๆหน้า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวขบวนกลุ่มมัชฌิมา ตั้งท่าจะยกทีม ส.ส.ในปีก 7 คน เข้าซบรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ตามจังหวะบินไปเยี่ยมคนแดนไกลบ่อยๆ
อีกกระแสหนึ่งก็เป็น “เสี่ยหนู” เองที่จะยกเข่ง 24 ส.ส.ในสังกัด กลับมาซุกอก “นายใหญ่” ตามอาการตื้อกันแบบไม่เลิกรา ในอารมณ์ของคนรวยขับเครื่องบินไปประกบกันเลย
โดยเงื่อนไข “เสี่ยหนู” ไม่อยากให้กระทบกระเทือนธุรกิจของตระกูลมากกว่าเรื่องเสียบ ครม.
เพราะโดยสภาพแห่งความเป็นจริงมันอยู่ที่ว่า รัฐบาลผสมกว่า 300 เสียง พรรคเพื่อไทยพรรคเดียวก็มีที่นั่งเกินครึ่งสภา ไม่มีเหตุอธิบายที่เหมาะสมในการดึงเสียงเพิ่มจากพรรคภูมิใจไทย
หนทางดึงอะไหล่เข้าร่วมรัฐบาลยิ่งยาวไกลกว่า.
ข่าวล่ามาไว แจ้งกันล่วงหน้าอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร จะบินไปปักหลักอยู่ที่ฮ่องกงในช่วงปลายเดือนตุลาคม นานนับสัปดาห์ ในสถานการณ์เหมาะเจาะพอดีกับคิวที่พรรคเพื่อไทยล็อกโปรแกรมประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันที่ 30 ตุลาคม
“นายใหญ่” มาเกาะติดขอบเวทีอีกตามเคย
แต่อย่างที่รู้เก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยลุ้นกันไม่มันเท่าไหร่ เพราะตามแคนดิเดต “ตัวเก็ง” ที่ออกมาก็ไม่ใช่ประเภทมวยตัวหลัก ตามสเปกก็แค่ “ตุ๊กตา” สั่งซ้ายหันขวาหันได้
โจทย์ใหญ่ที่น่าลุ้นของรัฐบาล มันอยู่ที่ช็อตการปรับ ครม.เท่านั้น
ตามอาการแปร่งๆล่าสุดของ “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ บอกปัดคำถามนักข่าว ออกตัวชัดๆเลยว่า ไม่พร้อมนั่งเก้าอี้ รมว.มหาดไทย เพราะเคยเป็น รมว.มหาดไทยมาแล้ว พอแล้ว ไม่อยากกลับไปอีก
“เมื่อก่อนอยากเป็นจริง แต่เมื่อได้เป็นแล้วก็พอแล้ว อยู่ตรงนี้ดีแล้ว ทำงานปราบยาเสพติด ถือว่าตรงสเปก”
อยู่ๆก็เปลี่ยนอารมณ์กันดื้อๆ มวยเก๋าระดับ “สารวัตรเหลิม”ออกอาการยื้อเก้าอี้รองนายกฯ คุมงานตำรวจ เลิกสนเก้าอี้ รมว.มหาดไทย
ไม่ใช่อาการปกติแน่นอน
โดยจังหวะล้อกระแสข่าววงใน การ “ล่อ” ให้ “สารวัตรเหลิม” ไปคั่วเก้าอี้ในฝัน ลุ้นนั่งแท่นเก้าอี้ รมว.มหาดไทย ก็เพื่อขยับช่องว่างในตำแหน่งรองนายกฯคุมงานตำรวจไว้รองรับ “บิ๊กอ๊อบ” พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร.พี่ชายคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ
แต่ถ้าออกมามุกนี้ ก็ยัง “กั๊ก” จัดเก้าอี้กันไม่ลงล็อก
เรื่องของเรื่อง ลำพังถ้า “สารวัตรเหลิม” ออกอาการยื้อเองก็ยังไม่หนักเท่าไหร่ ต่อรองกันได้
แต่ถ้ามองกันในเหลี่ยมที่ว่า “สารวัตรเหลิม” คือมวยหลักที่นายกฯยิ่งลักษณ์เรียกใช้บริการ ถือเป็นขุนพลสายตรง งานนี้ก็อาจโยงลึกไปกว่านั้น กับอาการขวางลำกันเอง ระหว่างนายกฯยิ่งลักษณ์น้อง “นายใหญ่” กับ “บิ๊กอ๊อบ” พี่ชาย “นายหญิง”
“ยิ่งลักษณ์” กั๊กคิว “เพรียวพันธ์” มันต้องมีอะไรในกอไผ่
และก็ให้บังเอิญสอดรับกับกระแสแว่วๆก่อนหน้านั้น “นายใหญ่” กับนายกฯหญิง ไม่ค่อยสบอารมณ์กับบทติ๊ดชึ่งของอดีต ผบ.ตร. ขอให้ลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ในสีเสื้อพรรคเพื่อไทยก็บอกปัด จัดคิวให้ชิมลางสนามการเมืองก็ไม่ค่อยรับมุก
กระตุกภาพให้เห็นเลยว่า เป็นคนที่สั่งการ คุมเกมไม่ได้
งานนี้ “สารวัตรเหลิม” ออกลูกยื้อในจังหวะเข้าเหลี่ยมตอกลิ่มพอดีก็แล้วกัน
สรุปเอาเป็นว่า สถานการณ์ภายในค่ายของพรรคเพื่อไทยเองยังอึมครึมๆไม่รู้ใครเป็นใคร
อย่าว่าแต่เกลี่ยตำแหน่งรัฐมนตรีให้พวกแถวหนึ่งแถวสองแถวสาม แม้แต่ในหมู่พี่น้องตระกูลชินยังเคลียร์กันไม่ลงตัวระหว่างโควตาของ “นายใหญ่” สายตรง “นายหญิง” เด็กเส้น “เจ๊แดง” หรือสายที่กำลังแรงในขั้วของนายกฯยิ่งลักษณ์
เกมปรับ ครม.ยังอยู่อีกยาวไกล อย่างเร็วก็หลังศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
แต่ที่แทรกคิวร้อนมาก่อนใครเลย กลับกลายเป็นกระแสความเคลื่อนไหวที่โชยออกมาจากซีกของฝ่ายค้านอย่างค่ายภูมิใจไทย ภายหลังขยับปรับทัพเปลี่ยนตัวจ่าฝูงคนใหม่มาเป็น “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ขึ้นแท่นหัวหน้าพรรค
กั๊กสถานะ ตัวเป็นฝ่ายค้านแต่ใจอยากร่วมรัฐบาล
ตามอาการที่แสดงออกกันทั้งลับหลังและซึ่งๆหน้า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวขบวนกลุ่มมัชฌิมา ตั้งท่าจะยกทีม ส.ส.ในปีก 7 คน เข้าซบรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ตามจังหวะบินไปเยี่ยมคนแดนไกลบ่อยๆ
อีกกระแสหนึ่งก็เป็น “เสี่ยหนู” เองที่จะยกเข่ง 24 ส.ส.ในสังกัด กลับมาซุกอก “นายใหญ่” ตามอาการตื้อกันแบบไม่เลิกรา ในอารมณ์ของคนรวยขับเครื่องบินไปประกบกันเลย
โดยเงื่อนไข “เสี่ยหนู” ไม่อยากให้กระทบกระเทือนธุรกิจของตระกูลมากกว่าเรื่องเสียบ ครม.
เพราะโดยสภาพแห่งความเป็นจริงมันอยู่ที่ว่า รัฐบาลผสมกว่า 300 เสียง พรรคเพื่อไทยพรรคเดียวก็มีที่นั่งเกินครึ่งสภา ไม่มีเหตุอธิบายที่เหมาะสมในการดึงเสียงเพิ่มจากพรรคภูมิใจไทย
หนทางดึงอะไหล่เข้าร่วมรัฐบาลยิ่งยาวไกลกว่า.
ทีมข่าวการเมือง
โดย: ทีมข่าวการเมือง
20 ตุลาคม 2555, 05:03 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น