ปชป. ยันประกันรายได้ ใช้งบน้อยกว่า "จำนำข้าว" 3.5 เท่า ไม่เปิดช่องทุจริต อัด สส.-รมต. แห่พบทักษิณฮ่องกง ทำสภาล่ม
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เปรียบเทียบโครงการประกันรายได้ที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการใช้งบปีละ 5 หมื่นล้านบาท ครอบคลุม ชาวนาได้ 3.7 ล้านครอบครัว ครอบคลุมผลผลิตทั้งประเทศ 37 ล้านตัน จ่ายเงินส่วนต่างให้กับชาวนา 1,500 บาท ขณะที่โครงการจำนำข้าวรัฐบาลนี้ใช้งบถึง 4.5 แสนล้านบาท ช่วยชาวนาได้ 2.4 ล้านครอบครัว ได้ข้าวเปลือก 23 ล้านตัน สีเป็นข้าวสารเหลือ 1.4 ล้านตัน ขายได้ตันละ 16,300 บาท ซึ่งจะพบว่าใช้เงินมากกว่าโครงการประกันรายได้ถึง 3.5 เท่า และโครงการประกันรายได้ ชาวนาทุกครัวเรือนได้รับเงินอย่างทั่วถึงไม่มีการทุจริต และไม่กระทบกับงบประมาณเงินทุนหมุนเวียนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
นอกจากนี้ กรณีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ที่ระบุว่าสามารถขายข้าวในลักษณะแบบรัฐต่อรัฐได้ ก็ไม่เป็นความจริงเพราะจนบัดนี้ยังไม่เห็นการขายข้าวในลักษณะดังกล่าวแม้แต่กก. เดียว อีกทั้ง มิ.ย.ที่ผ่านมามีข่าวว่ากรมการค้าต่างประเทศ มีหนังสือไปที่กรมการค้าข้าว ว่าขอเบิกข้าว 1 ล้านตัน แล้วอ้างว่าจะนำไปส่งออกในลักษณะรัฐต่อรัฐ แต่จนถึงบัดนี้ยังไม่มีการส่งออกข้าวเลย แม้เเต่เม็ดเดียว หมายความว่า มีการสมคบคิดอ้างการส่งออกแบบ รัฐต่อรัฐ แล้วนำข้าวมาเวียนเทียนจำนำนี่คือการโกงกินกันมหาศาลของนักการเมืองชุดปัจจุบัน ซึ่งจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าเราใช้โครงการประกันรายได้
นายชวนนท์ กล่าวว่า กรณี สส.และรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย เดินทางไปฮ่องกง เพื่อพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้ไม่ต้องมาเถียงกันใครมีอำนาจในการปรับครม. และการเดินทางดังกล่าวทำให้สส.และรัฐมนตรี ต้องลาราชการไป ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์สภาล่ม ในการประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา ดังนั้น จึงอยากฝากไปถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าในการปรับครม.ครั้งนี้อยากให้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศมากกว่าการให้โอกาสคนที่เอาอกเอาใจ และคนที่ละทิ้งภารกิจในการดูแลประชาชนเพียงเพื่อไปกราบขอตำแหน่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น