วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สภากลาโหม ห่วงพายุแกมี ทบ.สั่ง 11หน่วยทหารทำแก้มลิงรับน้ำทะลักกรุง เมื่อ 4 ต.ค.55




สภากลาโหม ห่วงพายุแกมี ทบ.สั่ง 11หน่วยทหารทำแก้มลิงรับน้ำทะลักกรุง

วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม 2555 เวลา 13:43 น.

วันนี้ ( 4 ต.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม  แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหมที่มีพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมเป็นประธานว่า ที่ประชุมมีความเป็นห่วงเรื่องพายุแกมีที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 5-9 ต.ค.นั้น ทางรมว.กลาโหมได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพ โดยเฉพาะกองทัพบกจัดเตรียมพื้นที่แก้มลิงรองรับน้ำจากพื้นที่ท่วมขัง โดยเฉพาะเส้นทางหลัก เช่น ถ.วิภาวดีรังสิตตลอดทั้งสาย และถ.พหลโยธิน โดยได้มีการแบ่งการจัดการพร่องน้ำใน 11หน่วยได้แก่ กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์(ป.1 รอ.)  กรมการสื่อสารทหารบก (สส.)หน่วยข่าวกรองทางทหารกองทัพบก(ขกท.) กองพันที่ 3 กรมทหาราบที่1 มหาดเล็ก รักษาพระองค์ (ร.1 พัน3 รอ.) กรมสรรพาวุธทหารบก (สพ.ทบ.) มณฑลทหารบกที่ 11 (มฑบ.11) กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก (วศ.ทบ.) กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ) กรมทหาราบที่ 1มหาดเล็ก รักษาพระองค์ (ร.1 รอ) และกรมทหารราบที่ 11รักษาพระองค์ (ร.11 รอ) ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่บางเขน เขตดุสิตและเขตพญาไท ต้องทำให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ของแต่ละหน่วยให้น้อยที่สุด โดยจะทำการเปิดประตูระบายน้ำของหน่วยให้ระบายออกมาตามการระบายน้ำของกทม. หากมีฝนตกลงมาและมีน้ำท่วมขังในบริเวณดังกล่าว หน่วยทหารทั้ง 11หน่วย ก็จะเปิดประตูระบายน้ำรับน้ำเข้ามายังพื้นที่แก้มลิงที่มีการปฏิบัติและเตรียมการไว้ หลังจากนั้นหากกลับคืนสู่สภาวะปกติก็จะระบายน้ำออกจากหน่วยตามการระบายน้ำของแต่ละเขต

พ.อ.ธนาธิป กล่าวต่อว่า หากมีเหตุที่ฝนตกลงมาอย่างหนักไม่สามารถที่จะระบายได้ก็จะปล่อยน้ำจากร.1 รอ. ผ่านไปยังพล.ม.2 ซึ่งตรงนั้นก็จะมีแก้มลิงสำรองไว้อีกจุด  หลังจากนั้นจะปล่อยน้ำเข้าคลองบางซื่อ สำหรับพื้นที่ทั้งหมด 11หน่วยมี 2หน่วยที่สามารถรองรับน้ำได้ 271,945 ลูกบาศก์เมตร สำหรับภาพใหญ่ของคณะกรรมการ กบอ. โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพได้จัดเจ้าหน้าที่ 4 นาย เข้าร่วมสังเกตการณ์กับเจ้าหน้าที่กบอ.และชี้แจงการทำงานภาพรวมของกระทรวง กลาโหม ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ในส่วนของกองทัพเรือจะมีเจ้าหน้าที่กรมอุทกศาสตร์ของกองทัพเรือเข้าชี้แจง
 
เมื่อถามว่าได้กำหนดไว้หรือไม่ว่าฝนจะตกลงมาจำนวนเท่าใดจึงจะสามารารถรองรับ ปริมาณได้ พ.อ.ธนาธิป กล่าว่า ในเบื้องต้นหากฝนตกลงมาไม่เกิน 60  มิลลิเมตร ต่อชั่วโมงก็จะใช้เวลาประมาณ 3 ชม.ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่ถ้าตกมากกว่านี้เราก็พยายามที่จะระบายออกมาให้มากที่สุด ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นก็อาจจะมีบนถ.วิภาวดีรังสิตที่น้ำท่วมขังมากที่สุด ทั้งนี้การแก้ปัญหาน้ำอย่างเป็นระบบโดยใช้พื้นที่แก้มลิงรองรับน้ำที่ระบาย ออกจากพื้นผิวถนน ส่วนพื้นที่ร.11 รอ.จะเป็นพื้นที่แบ่งเบาน้ำในถ.พหลโยธิน ในส่วนของน้ำที่ระบายได้ช้าบนถนนก็จะจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือเจ้า หน้าที่ตำรวจจราจร
 
เมื่อถามว่าในส่วนนี้ทางทหารได้ประสานกับทางกทม.หรือไม่ว่าจะสามารถพร่องน้ำได้ มากน้อยแค่ไหน เพราะกทม.ก็ยังมีปัญหาเรื่องอุโมงค์ระบายน้ำ พ.อ.ธนาธิป กล่าว่า เราได้ประสานกับทางกทม.ในการพร่องน้ำอยู่แล้ว และคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะอุโมงค์ระบายทางห้วยขวางและอนุสาวรีชัยสมรภูมิเป็นอุโมงค์ที่ใหญ่มาก ขณะนี้ก็มีการติดต่อเพื่อพร่องน้ำอยู่ตลอด
 
“ขอยืนยันว่าหากฝนตกไม่เกิน 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมงก็น่าที่จะรับมือได้ แต่หากตกลงมาเกิน 100 มิลลิเมตรขอให้ประชาชนใจเย็นและช่วยกัน เพราะทางเจ้าหน้าที่ก็จะเร่งระบายน้ำออก ที่ผ่านมาที่มีน้ำท่วมขัง เพราะเรายังได้มีการจัดการที่ดี ในหน่วยต่างๆก็ยังไม่ได้พร่องน้ำ จึงไม่สามารถระบายน้ำได้ เพราะการจะเปิดน้ำออกต้องเปิดจากที่หน่วยและประสานกับทางกทม. ไม่ได้ไหลได้เองโดยอัตโนมัติ” พ.อ.ธนาธิป กล่าว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น