26 มี.ค.57 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทีมสืบสวนเหตุเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH370 สูญหาย
กำลังสืบสวนความเป็นไปได้ เกี่ยวกับปัญหาสภาพจิตของ กัปตันซาฮารี อาหมัด ชาห์ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนเส้นทางการบิน ก่อนตกลงในมหาสมุทรอินเดีย หลังจากเรดาร์ของกองทัพอากาศมาเลเซีย ตรวจพบว่าMH370 บินที่ความสูงระหว่าง 43,000 - 45,000 ฟุต หลังระบบสื่อสารจากห้องนักบินถูกปิดไป และยังคงบินในระดับดังกล่าวอีก 23 นาที ก่อนเครื่องบินจะลดระดับลงมา
จากข้อมูลเรดาร์ดังกล่าว ทำให้ผู้เชี่ยวชาญในวงการการบินหลายคนเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันว่า หากเป็นไปตามข้อสันนิษฐานนี้ ผู้โดยสารบนเครื่องบินน่าจะหมดสติ หลังจากเปลี่ยนเส้นทางการบินเพียงไม่นานนัก เพราะถ้าเครื่องบินบินในระดับ 43,000 - 45,000 ฟุต เพียง 12 นาที ออกซิเจนบนเครื่องก็น่าจะหมดแล้ว แต่ MH370 บินอยู่ในระดับดังกล่าวนานถึง 23 นาที ก่อนลดระดับการบินลง
ข้อสันนิษฐานดังกล่าว รอน บิชอป หัวหน้าการบินจากมหาวิทยาลัยเซ็นทรัล ควีนส์แลนด์ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า หลังจากนักบินเปลี่ยนเส้นทางบิน และไต่ระดับการบินสูงสุดถึง 45,000 ฟุตแล้ว นักบินเองก็น่าจะหมดสติเช่นกัน แต่ที่เครื่องบินลดระดับลงได้หลังจากนั้น อาจเป็นเพราะนักบินเปลี่ยนไปใช้ระบบการบินอัตโนมัติ หรือ ออโต้ ไพล็อต ก่อนหมดสติ จึงทำให้เครื่องบินบินไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมาย จนกระทั่งน้ำมันหมด และตกลงกลางมหาสมุทรอินเดีย
ขณะเดียวกัน เพื่อนนักบินของกัปตันชาห์ ที่คบหากันมานาน ได้ออกมาเปิดเผยว่า จริงๆ แล้ว กัปตันชาห์เป็นนักบินที่เยี่ยมยอด แต่ก่อนที่กัปตันชาห์จะบินเที่ยวบินดังกล่าว เขามีสภาพจิตใจที่ไม่ปกตินัก เพราะเพิ่งแยกทางกับภรรยา หลังภรรยาจับได้ว่ากัปตันชาห์แอบคบชู้ และเธอก็ได้ตัดสินใจหอบลูกหนีออกจากบ้านก่อนหน้านั้น 1 วัน อาจเป็นไปได้เหมือนกันว่า ด้วยสภาพจิตเช่นนี้ เขาอาจทำอะไรที่เลวร้ายลงไปอย่างไม่คาดคิดมาก่อน
นี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐานทฤษฎีหนึ่งในหลายๆ ทฤษฎีเท่านั้น ทีมสืบสวนยังคงทำงานกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อไขปริศนาการหายไปของเที่ยวบิน MH370 ขณะที่ทีมค้นหาเอง ก็เริ่มปฏิบัติการค้นหาซากเครื่องบินในมหาสมุทรอินเดียอีกครั้งในวันนี้ หลังจากที่วานนี้ได้ยุติการค้นหาชั่วคราว เพราะสภาพอากาศเลวร้าย
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น