เมื่อมาถึงจุด 'ชัยชนะที่เลือกได้'27 March, 2014
อากาศกำลังร้อน ฤดูกาลกำลังผันแปร เหตุบ้าน-เหตุเมืองกำลังเข้าจุดเปลี่ยน ทุกอย่างมีเป็นชั้นๆ กระทั่งความคิดคน ฉะนั้น ช่วงนี้ ประเด็นที่ผมอยากบอกคือ ด้วยชั้นของปัญหาและชั้นของความคิด เห็นอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นกับบ้าน-กับเมืองระยะนี้"เฉยไว้"...แล้วทุกอย่างจะดีเอง!
แต่ถ้ามันคันปากนัก...ก็เกาซะ ไม่ต้องรักชาติชนิด "ไม่มีหูรูด" พูดทะลุกลางปล้องไปเรื่อย โดยไม่ใช้สติตั้ง-สัมปชัญญะกรองก่อน
ในความเป็นสังคมร่วมชาตินั้น ประกอบด้วยคนนับล้านๆ เขาต้องการอย่าง, เราต้องการอย่าง แต่ถึงต่างกันขนาดไหน ทั้งเขา-ทั้งเรา จะแยกขาดจากกันไปทางไหนไม่ได้
ฉะนั้น ประเด็นที่ต้องคำนึง คือ......
"แล้วเราจะ 'บริหารความต่าง' ให้อยู่ร่วมกันด้วยความลงตัวได้ตรงไหน ขนาดไหน และอย่างไร?"
ไม่ใช่ใครจะชนะใคร "เบ็ดเสร็จ-เด็ดขาด" ได้ฝ่ายเดียว!
นี่คือความเป็นจริงที่ทุกฝ่ายไม่ชอบ ไม่ต้องการ แต่ในโลกเป็นจริง มีใครบ้างล่ะ "ได้ทุกอย่าง" ตามที่ชอบ ที่ต้องการ?
ส่วนใหญ่ มนุษย์ไม่ค่อยยึดเหตุและผลเป็นทางออกของปัญหา แต่จะยึด "ตัวจี๊ด" รายวัน คือการได้ทำกับอีกฝ่าย ที่ทำแล้ว
แหม...มันสะจั๊ย...สะจัยยยย!
แต่สะใจแล้วจบหรือไม่....ไม่มีใครอยากคิดในประเด็นที่ตัวเองก็รู้ แต่ไม่อยากรับสภาพเป็นจริงตรงนี้
ดังนั้น ความขัดข้อง-วุ่นวายของบ้านเมืองต่อเนื่องเกือบ ๑๐ ปี จึงกลายเป็น "กองขยะ" ที่ต่างคน-ต่างฝ่ายเอามาถมทิ้ง แล้วหาคนรับผิดชอบที่จะจัดการกับ "ขยะกองนี้" ไม่ได้
คนไทยทั้งประเทศ วันนี้...บ่นว่าเหม็นขยะ เบื่อขยะ แต่ก็เอาขยะมาทิ้งถมทับแถมทำเป็นคนดูมวย ชนิดไม่มียก-ไม่มีกติกา ระหว่าง กปปส.มวลมหาประชาชน กับ นปช.เพื่อไทย ระบอบทักษิณ ที่ต่อสู้แบบไม่รู้จบ
ยกโน้น...เอ็งสะใจ
ยกนี้ ข้าสะใจ...ได้เอาคืน!
ในขัดความขัดแย้งที่ไม่ใช่สงครามต่างชาติ-ต่างสายเลือด-ต่างพี่-ต่างน้องเช่นนี้ ทางแก้-ทางออก มันจะทำอะไรที่ "ตัดตาย-ขายขาด" ให้สะเด็ดน้ำกันไปไม่ได้
ด้วยเงื่อนไขจำเพาะนี้ แล้วเราจะหาความสะใจไปวันๆ จาก "แค้นกันไป-แค้นกันมา" ชนิดร้อยยก-พันยกไม่รู้จบอยู่อย่างนี้ละหรือ?
มันจะไม่มีฝ่ายไหนชนะ....
มีแต่ "ประเทศไทย-คนไทย" ทุกคน แพ้!
ผมเข้าใจทั้ง ๒ ฝ่าย ในการนำทัพมวลชน เป้าหมายไปสู่นั้น ต้องเด็ดขาด-ชัดเจน "ขึงตึง" ไว้สูง
ไม่มีแต่..ไม่มีถ้า..มี เยส กับ โน เท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะเสียมวลชน!
ในหนทางที่ "เป้าหมายไม่เปลี่ยน" แต่เมื่อสถานการณ์แปรเปลี่ยน หนทางสู่เป้าหมาย ย่อมขยับขยายได้ตามเงื่อนไขและสถานการณ์นั้น
เหมือนเหล็ก แข็งขนาดนั้น จากสภาพอากาศร้อนและเย็น ยังยืดและหดตัวไปตามสภาพ
และขณะนี้ สถานการณ์กำลังแปรเปลี่ยน!
แปรเปลี่ยนอย่างไร ก่อนพูดถึงตรงนี้ ผมอยากบอกก่อนว่า ภาพรวมของสถานการณ์บ้านเมือง กำลังมาถึงจุดดังนี้
ตำรวจ ข้าราชการปกครอง คือมหาดไทย คณะรัฐบาล และนักการเมือง รวมถึงทหารบางส่วน
หน้าที่ทำให้บ้านเมืองสงบ-เข้มแข็ง มีอนาคต...ไม่ทำ
แต่กลับไปทำให้บ้านเมืองสับสน-วุ่นวาย อ่อนแอ ไร้อนาคต!
โจรปล้นประเทศจริงๆ ไม่มี...
มีแต่ ตำรวจ ข้าราชการปกครอง คือมหาดไทย คณะรัฐบาล นักการเมือง และทหารบางส่วน
เป็นโจรและ "หัวโจกโจร" กันเอง!
เมื่อระบบรัฐ และเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน ไม่ทำหน้าที่แก้ปัญหาให้ชาติ แต่กลับไปสร้างปัญหาให้ชาติ
"สมดุลอำนาจระบบรัฐ คือ สมดุลประสิทธิภาพประเทศ"
แต่เมื่อ "สมดุลอำนาจ" เสีย ด้วยระบบรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ สร้างปัญหาเสียเอง วันนี้ "สมดุลประเทศ" จึงเสีย
แต่ที่ไม่ทรุดพังซบดิน นั่นเพราะยังมีอีกสถาบันอำนาจหนึ่ง คือ "สถาบันอำนาจตุลาการ" เป็นคานแบกรับน้ำหนักแทน
รับหน้าที่ ที่ประดัง-ประเด เข้ามาในรูปสัพเพเหระคดี จนเป็น "ขยะคดี" ท่วมศาล ท่วมองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ดังเห็นเวลานี้!
นั่นก็คือ...ทุกปัญหา ที่ไม่ทำหน้าที่ และไม่รับผิดชอบกัน ขนมากองรวมให้สะสาง "รอจบ" ที่องค์กรตามรัฐธรรมนูญ และ...
ที่...ศาล!
ยิ่งรัฐบาลระบอบทักษิณ กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อระบบอำนาจบ้านเมืองโดยตรง สร้างแบบอย่างเลวๆ ให้สังคมเดินตาม คดีไหนตัดสินแล้วตัวเองไม่พอใจ ก็แข็งขืน
ประกาศไม่ยอมรับคำตัดสิน!
ถึงขั้น ยิงระเบิดใส่ศาล!!
ไม่แค่แสดงอำนาจเถื่อนคุกคามสถาบันตุลาการเท่านั้น กระทืบกระทั่งพระ ชั่วช้า-ชั่วชาติ ขนาดนรกยังต้องขยาด คนรัฐบาลระบอบทักษิณก็ทำให้เห็นแล้ว
เมื่อวาน ภาพยังประจักษ์พร้อมข่าวสารอีกว่า...
"อดีต ผบ.ทบ." พลเอกชัยสิทธิ์ ชินวัตร กลายเป็น ผบ.กองกำลังแบ่งแยกประเทศ
ร่วมงานจัดตั้ง "แนวร่วมปกป้องประชาธิปไตย (นปต.๕๗)” ที่ อ.ขุนหาญ ศรีสะเกษ!
และเมื่อวาน (๒๖ มี.ค.๕๗) อีกเหมือนกัน ภาพประจักษ์กลางบ้าน-กลางเมือง.......
"นายศรรักษ์ มาลัยทอง" แกนนำกลุ่ม กวป.เครือข่ายกลุ่มคนเสื้อแดง นำสมุนบุกบังเกอร์ทหารที่ดูแลความปลอดภัยให้ ป.ป.ช.อยู่บริเวณซอยติวานนท์ ๓๗
ไล่ทหารออกจากบังเกอร์ รื้อกระสอบทราย รื้อเต็นท์ลายพรางทิ้ง ท่ามกลางสายตาประชาชนที่ยืนดู
แล้วทหารทำไง...?
ทหารนำรถมาขนสิ่งของที่คนรัฐบาลระบอบทักษิณรื้อทิ้งกระจุยกระจายกลับกรม-กองไป โดยไม่ตอบโต้ใดๆ!
และยิ่งตอกย้ำชัดลงไปอีกว่า ในภาวะประเทศเสียสมดุล สถานการณ์ที่แปรเปลี่ยนนั้น เปลี่ยนถึงขั้นว่า...
น้ำเป็นของปลา ฟ้าเป็นของนก และนรก...เป็นของ นปช.เพื่อไทยชัดเจน-ชัดแจ้งไปแล้ว ด้วยคำยืนยันท่านจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.ที่ประกาศว่า
"พี่น้องเสื้อแดงที่รักทั้งหลาย ต่อไปนี้พวกเราตัดขาด หมอ กับ พระ คนเสื้อแดง หมอไม่หา พระไม่ไหว้ ถ้าเจ็บป่วยจะตาย ก็ไม่เข้าโรงพยาบาล ถึงแม้จะตายก็ไม่ต้องเอาไปเข้าวัด พวกเราจะตอบโต้พวกไม่เอารัฐบาล"
นี่....ผมก็ลำดับ "ความแปรเปลี่ยน" ให้ท่านเห็นหยาบๆ ซึ่งความแปรเปลี่ยนที่ฝ่ายระบอบทักษิณทำเวลานี้ เหมือน "คนแก้ผ้า" ล่อนจ้อน แล้วขู่ว่า...กูมีอาวุธหนัก
รู้มั้ย...นี่มันเป็นคำตอบถึงอะไร?
ยิ่งตอนนี้ นปช.เพื่อไทยเดินแผนโพนทะนา "นายกฯ คนกลาง" นั่นยิ่งตอกย้ำถึงความแน่นอนในคำตอบมากขึ้นไปอีกว่า
ความฉิบหาย ความพินาศ ความล่มจม ความแตกฉานซ่านเซ็นของพวกซากเดนนักการเมืองเพื่อไทย ที่จะผละหนีจากระบอบทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ เป็นจริงเป็นจัง
และ...กำลังมาถึงแล้ว!
เขารู้ตัวพวกเขาเองแล้ว ยิ่งลักษณ์จบแน่ ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ ๑ เพื่อเป็นนายกฯ ไม่มีแล้ว หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลอีกไม่กี่วันนี้
เกมลอยหน้า-ลอยดอก "อยู่เพื่อรักษาประชาธิปไตย" มันไม่มีแล้ว ที่สมุนบริวารชูประเด็น "นายกฯ คนกลาง" ขึ้นมาพูด นั่นคือการย้ำหัวตะปู
ส.ส.เพื่อไทย "เขี่ยทิ้ง" ยิ่งลักษณ์ แล้ว!
ที่ทักษิณพ้อเมื่อ ๑๑ มี.ค.ไม่ผิดหรอก..."ในพรรคเพื่อไทย คนจริงใจกับผมมีน้อย และพยายามวางยาผม" นั่นน่ะ
ขณะที่ยิ่งลักษณ์ยังเป็นอีเป๋อ "หนูจะอยู่รักษาประชาธิปไตย" แต่อีกด้าน นายปึ้ง นายเต้น ใครต่อใคร จุดพลุ "นายกฯ คนกลาง"
ลุงกำนันของผมก็ใช่ย่อย แต้มทันกัน เกทับ-บลัฟแหลกไปทันที "นางดอกไม้ออกไปเมื่อไหร่ ก็จะเปิดตัว 'นายกฯ คนกลาง' ของมวลมหาประชาชนให้เห็นโฉม"!
เห็นมั้ย....ฝ่ายไหนรบชิงพื้นที่ ชิงมวลชนมากองไว้หน้าตักได้มากกว่า และฝ่ายไหนเสียพื้นที่ เสียมวลชน ยิ่งแข็งขืนยิ่งจะแพ้พ่ายทั้งกระดาน
และที่สำคัญ แต้มทหารยอมเสียเบี้ย ปล่อยพวกกเฬวรากรื้อบังเกอร์ ขอบอกสั้นๆ ว่า...นี่คือแผน "น้ำร้อนปลาเป็น-น้ำเย็นปลาตาย"
พวกมึงตายเรียบทั้งกระดานแน่!
ข้อคิดสำหรับฝ่ายหน้าตักหนา ไม่เจรจา ตัวเองอาจ...ได้ชนะชั่วขณะ
แต่ถ้าเจรจา ประเทศชาติ-ประชาชน...ได้ชนะถาวร!
ชอบแบบไหน เลือกเอา!?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น