วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557

มือปืนป๊อปคอร์นส่อแพะ แฉตำรวจบังคับสารภาพ 26 March, 2014

มือปืนป๊อปคอร์นส่อแพะ แฉตำรวจบังคับสารภาพ 26 March, 2014


 ทนายความ คปท.เผยเข้าเยี่ยม "มือปืนป๊อปคอร์น" เจ้าตัวแฉถูกตำรวจใช้ผ้าปิดตารุมซ้อมจึงยินยอมรับสารภาพ ทั้งยังถูกยัดโพยคำให้การ เตรียมประสานสภากาชาดสากลตรวจสอบร่างกายแล้ว พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานขอประกันตัวต่อไป
    เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่สะพานชมัยมรุเชฐ น.ส.พวงทิพย์  บุญสนอง ทนายความเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เผยว่า เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา  ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ อายุ 24 ปี หรือผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นมือปืนป๊อปคอร์น ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ภายหลังศาลอาญาอนุญาตให้ฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 20-31 มีนาคม โดยนายวิวัฒน์ได้พูดคุยถึงเรื่องที่ถูกจับกุมว่า ไม่ได้เป็นมือปืนป๊อปคอร์นตามที่ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ที่ต้องรับสารภาพเพราะภายหลังถูกจับกุมตัวที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ก็ถูกจับขึ้นรถตู้ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ถูกใช้ผ้าปิดตา จากนั้นถูกรุมต่อยทุบตี โดยใช้เบาะรองที่ท้องแล้วต่อยจำนวนหลายครั้งตลอดการเดินทาง ทำให้ไม่มีร่องรอย รวมถึงที่คอก็ถูกเชือกรัดแต่ใช้ผ้ารองไว้ ทำให้ไม่มีร่องรอยเช่นกัน
    "เพื่อบังคับให้นายวิวัฒน์ยอมรับสารภาพว่าเป็นมือปืนป๊อปคอร์น โดยถูกบังคับให้รับสารภาพ 3 ครั้ง จนกระทั่งถึงที่ทำการ ศรส. และเมื่อเดินขึ้นบันไดจึงได้เปิดตาออก ก่อนที่ตำรวจจะนำตัวเข้าไปภายในห้องสอบสวนที่มีพนักงานสอบสวนรวม 5 คนเข้าสอบสวน นายวิวัฒน์ไม่ได้ให้การใดๆ เลย  จนเจ้าหน้าที่ข่มขู่ว่า หากไม่รับสารภาพจะถูกซ้อมเช่นในรถอีก นายวิวัฒน์จึงยอมรับสารภาพ โดยไม่มีโอกาสได้อ่านคำให้การ ทั้งนี้นายวิวัฒน์บอกว่า ตำรวจใช้เวลาสอบสวนตั้งแต่เวลา 23.00 น.ถึง 03.00 น. และในระหว่างที่มีการแถลงข่าว  ยังมีการนำกระดาษคำให้การมาให้นายวิวัฒน์อ่านและให้แถลงข่าวไปตามที่เขียนมาด้วย" ทนายความ คปท.ระบุ
    น.ส.พวงทิพย์กล่าวอีกว่า เบื้องต้นจากการพูดคุยกับนายวิวัฒน์ ยอมรับว่ามาร่วมชุมนุมกับ กปปส.จริง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธว่าเป็นมือปืนป๊อปคอร์นหรือไม่ แต่ได้พูดถึงเรื่องที่ถูกทำร้ายจนต้องยอมรับสารภาพ แต่ปัญหาที่น่าเป็นห่วงคือ ขณะนี้หลักฐานการถูกทำร้ายและทรมานตามร่างกายได้หายไปหมดแล้ว ซึ่งเท่าที่ตนได้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชได้ให้ความรู้ว่า ผู้กระทำการเป็นมืออาชีพ มีการเตรียมการเพื่อให้หลักฐานร่องรอยต่างๆ ตามร่างกายหายไปโดยเร็ว ไม่สามารถพิสูจน์ในศาลได้ว่าถูกทำร้าย วันนี้ตนจึงทำเรื่องขอเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ให้นำตัวนายวิวัฒน์ไปตรวจร่างกาย รวมถึงขอเอกสารการตรวจร่างกายในวันแรกเข้าฝากขังด้วย
    นอกจากนี้ ที่มีการบอกเล่าถึงเรื่องการทรมานนั้น ตนได้ติดต่อไปยังสภากาชาดสากล ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่เห็นด้วยกับการซ้อมทรมานผู้ต้องหา เพื่อประสานเจ้าหน้าที่คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ซึ่งตอบรับมาแล้วว่าจะเข้าเยี่ยมนายวิวัฒน์ภายในสัปดาห์นี้ รวมถึงนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ที่รับปากว่าจะเข้ามาช่วยเหลือต่อไป ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้จะรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อใช้ประกอบในการขอประกันตัว แม้จะต้องยื่นหลายครั้งจนกว่าศาลจะมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวก็ตาม
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายวิวัฒน์แถลงข่าวที่ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวมีสีหน้าวิตกกังวลและก้มหน้าตอบคำถามอยู่ตลอดเวลา และก่อนที่จะเริ่มแถลงข่าวนั้น ผู้ต้องหารายนี้ได้บีบจับที่ท้องด้านซ้ายอยู่เป็นระยะ พร้อมจ้องมองมาที่ผู้สื่อข่าว
    ขณะที่นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษาเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) แถลงข่าวถึงกรณีที่ทางฝ่ายกฎหมายได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากแม่บุญธรรมของนายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ ว่าเบื้องต้นได้มอบให้  น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความ คปท.ไปรวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมด เนื่องจากมีข้อที่น่าสงสัยหลายอย่าง เช่น ประเด็นการรับจ้างเป็นการ์ดวันละ 300 บาท คนที่ได้รับค่าแรงในจำนวนนี้จะมาทำการก่อเหตุในลักษณะนี้หรือไม่ รวมไปถึงอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ จะต้องเป็นคนมีความรู้ ซึ่งพื้นที่ชุมนุมแต่ละเวที ตนไม่เคยพบเห็นว่ามีการฝึกใช้อาวุธในพื้นที่ ตามที่มีการแถลงข่าว และในพื้นที่ชุมนุมก็มีสื่อมวลชนเฝ้าทำข่าว เจ้าหน้าที่การข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลแทรกซึมเข้ามาในพื้นที่ตลอดเวลา แต่ทำไมไม่เคยมีใครพบเห็น
    นายนิติธรกล่าวว่า กรณีนี้เนื่องจากญาติผู้ต้องหาเกิดความไม่มั่นใจในส่วนกระบวนการสอบสวน เพราะในวันเกิดเหตุดังกล่าว ตามภาพข่าวมีการปกปิดใบหน้า แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถจับกุมตัวมาได้ ซึ่งในทางอาญาการจับบุคคลต้องมีความชัดเจน ทั้งที่ควรมีการเปรียบเทียบดูที่ตัวบุคคลให้ชัดเจน ไม่ใช่แค่สันนิษฐานและคาดการณ์ไปว่าใช่  รวมไปถึงในวันที่ 20 มีนาคม ที่ได้นำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าว  สภาพของผู้ต้องหาก็น่าสงสัย เพราะผู้ต้องหามีการเดินที่ไม่ปกติ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังมีข้อสงสัย และการเรียบเรียงประเด็นพูด คำให้การของผู้ต้องหาเป็นจริงหรือไม่ และอีกหลายอย่างขัดแย้งกัน ดังนั้นจึงตั้งข้อสงสัยการทำคดีในครั้งนี้ว่า การจับกุมหรือการสอบสวนชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และการให้การของผู้ต้องหาเป็นไปด้วยความสมัครใจหรือไม่
    "ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการโดยสุจริต และดำเนินการทุกคดีในลักษณะเดียวกัน เพราะในหลายคดีมีความชัดเจนในส่วนของผู้ต้องหามากกว่าคดีนี้ เช่น คดีล้อมยิงนายสุทิน ธราทิน แกนนำ กคป.ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่วัดศรีเอี่ยม แต่ตำรวจกลับดำเนินการล่าช้า ไม่เป็นไปตามแนวทางที่ถูกต้อง ทั้งนี้ เราจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นจะส่งเรื่องให้สภาทนายความ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนดำเนินการต่อไป รวมไปถึงหากมีการข่มขู่พยาน หลังจากนี้ก็จะดำเนินการขอคุ้มครองพยานตามกระบวนการของกฎหมายด้วย" ที่ปรึกษา คปท.ระบุ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น