แค้นเจอทวงหนี้ 3 ล้าน หนุ่มเจ้าของร้านชำประกอบระเบิดให้เมียรักนำไปวางบ้านเจ้าหนี้ แต่กรรมติดจรวดระเบิดเกิดทำงานก่อนเวลา บึ้มสนั่นหวั่นไหว ฉีก ข้อมือขวาขาดสะบั้น-หน้าท้องเป็นแผลฉกรรจ์ปางตาย
เมื่อวันที่4 มี.ค.พ.ต.ท.พิษณุกองทองนอก พนักงานสอบสวนสภ.เมืองจ.นครราชสีมารับแจ้งเหตุระเบิดที่บ้านเลขที่70 ถนนเดชอุดมซอย 22/2 ต.ในเมืองทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส1 รายจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วยพล.ต.ต.พงษ์เดชพรหมมิจิตร ผบก.ภ.จว.นครราชสีมาพ.ต.อ.บุญเลิศว่องวัจนะ รอง ผบก.พ.ต.ท.อนันต์พิมพ์เจริญ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครราชสีมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองพิสูจน์หลักฐานและชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านของพ.อ.บุญยฤทธิ์จันทร์สูงเนิน นายทหารนอกราชการพบว่าที่บริเวณโรงจอดรถข้างบ้าน มีกองเลือดตกอยู่จำนวนมากและมีเศษชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องตกอยู่จำนวนหนึ่งเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐานนอกจากนี้แรงระเบิดยังทำให้ที่รถยนต์มิตซูบิชิปาเจโร่ สีดำ ทะเบียน ขจ 9577นครราชสีมาที่จอดอยู่ได้รับความเสียหายเล็กน้อยส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่งรพ.ค่ายสุรนารีทราบชื่อนางสมถวิล อุตะนาวินอายุ 42 ปีอยู่บ้านเลขที่ 3122ถนนเดชอุดม ต.ในเมืองถูกสะเก็ดระเบิดจนข้อมือขวาขาดและที่หน้าท้องเป็นแผลฉกรรจ์
สอบสวน นางพิมพกานต์จันทร์สูงเนิน ภรรยาเจ้าของบ้านให้การว่าผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าของร้านขายของชำ อยู่ที่หน้าปากซอยบ้านพักด้วยความที่สนิทสนมกันมานานผู้บาดเจ็บได้มาขอยืมเงินตนไปลงทุนทำธุรกิจครั้งละ 2-3 แสนบาทนานกว่า 1 ปีรวมเป็นหนี้ตนอยู่ประมาณ3 ล้านบาทซึ่งระยะหลังผู้บาดเจ็บอ้างว่าค้าขายไม่ดีจึงไม่ได้ส่งดอกเบี้ยตามเวลาที่กำหนด โดยก่อนเกิดเหตุผู้บาดเจ็บได้เข้ามาหาตนที่บ้านพักเพื่อขอยืมลูกแก้วพญานาคอ้างว่าจะนำไปประกอบพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ เพื่อให้ทำมาค้าขายดีในขณะที่ตนกำลังขึ้นไปบนบ้านเพื่อหยิบลูกแก้วให้จู่ๆ ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวมาจากโรงจอดรถพอวิ่งลงไปดูก็พบว่าผู้บาดเจ็บถูกระเบิดข้อมือขวาขาดนอนร้องครวญครางอยู่ที่พื้น จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลและแจ้งตำรวจโดยไม่ทราบว่าระเบิดเป็นของใครและเหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร
ต่อมา พล.ต.ต.พงษ์เดชได้เดินทางเข้าสอบปากคำผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลพบว่าแพทย์ได้ทำแผลให้เรียบร้อยแล้วโดยยังไม่สามารถผ่าตัดต่อข้อมือให้ได้ ในเบื้องต้นผู้บาดเจ็บได้ให้การวกไปวนมาอ้างว่าไม่รู้ว่าระเบิดมาจากที่ไหนและเกิดขึ้นได้อย่างไรซึ่งทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อและมั่นใจว่าผู้บาดเจ็บน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการระเบิดดังกล่าวจึงนำกำลังไปตรวจค้นที่บ้านพักเลขที่3122 ถนนเดชอุดมต.ในเมืองซึ่งอยู่ในซอยติดกับบ้านเกิดเหตุ
กระทั่งพบนายศิริกร ซาเวียง อายุ42 ปีสามีของผู้บาดเจ็บอยู่ภายในบ้านจึงเค้นสอบอย่างหนักจนนายศิริกรรับสารภาพว่าเป็นคนประกอบระเบิด โดยต่อวงจรระเบิดแสวงเครื่องเข้ากับระเบิดปิงปองตั้งเวลาจุดชนวนระเบิดไว้ 5นาทีเพื่อให้ภรรยานำไปวางไว้ในบ้านที่เกิดเหตุเพื่อข่มขู่เจ้าหนี้แต่ระหว่างที่ภรรยาจะนำระเบิดไปวางไว้ที่รถยนต์เกิดเหตุผิดพลาดระเบิดได้ทำงานจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าวส่วนการประกอบระเบิดครั้งนี้ตนได้อาศัยครูพักลักจำมาตั้งแต่สมัยเรียนรด. เมื่อหลายสิบปีก่อนทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหาทำให้เกิดการระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและหากสืบสวนจนทราบว่ามีการวางแผนเตรียมการลงมือก่อเหตุก็จะแจ้งข้อหาพยายามฆ่ากับสองสามีภรรยาคู่นี้อีก1 ข้อหาด้วย.
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น