|
|
รายงานการเมือง
กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ได้จัดประชุมใหญ่แกนนำทั่วประเทศ ในชื่องาน “นปช. ลั่นกลองรบ” มีคนเสื้อแดงเข้าร่วมประมาณ 5,000 คน ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยมีแกนนำระดับพระกาฬมาร่วมอย่างพร้อมพรั่ง
ไม่ว่าจะเป็น นางธิดา โตจิราการ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายวรชัย เหมะ นายประแสง มงคลสิริ นพ.เหวง โตจิราการ แถมในงานนี้ นางพญานกแสกอย่างนางธิดายังได้นำตีกลองสะบัดชัยเป็นเชิงสัญลักษณ์ให้รู้กันว่า
นายหัวใหญ่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สั่งทิ้งไพ่ใบสุดท้าย
หรืออาจจะรวมไปถึงเงินก้อนโตก้อนสุดท้ายเพื่อเป้าหมายกำจัดเสี้ยนหนามอย่างสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พร้อมพวกให้สิ้นซากเสียที หลังต่อมความอดทนกว่า 4 เดือน ใกล้ระเบิดเต็มที
ขี้ข้ากิตติมศักดิ์อย่าง “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเสื้อแดง ที่ได้รับความไว้วางใจให้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยมาหลายกระทรวง ต้องทำหน้าที่เอาหน้า เลียแข้งเลียขาเจ้านายเสียหน่อย ออกโรงประกาศกับมวลลนเสื้อแดงให้เตรียมพร้อมบุกเข้ากรุงเทพฯ ต่อต้าน กปปส. เพื่อหนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรักษาการ ในการทำหน้าที่ต่อไป และทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจต่อไป
เหตุการณ์ทั้งหมดจากเวทีลั่นกลองรบ น่าจะสอดคล้องกับเหตุการณ์ขว้างระเบิด และกราดยิงมวลชนที่เกิดขึ้นในจังหวัดตราด ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือ บริเวณตลาดยิ่งเจริญ ที่เป็นการตั้งเวทีของกลุ่ม กปปส. จนทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
ทำให้ พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล ออกมาอีกครั้ง และบอกอย่างเชื่อมั่นว่า การกระทำที่เกิดขึ้นเป็นของกองกำลังต่างชาติเนื่องจากคนไทยด้วยกันเองคงไม่ทำ
แถมหลังเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น แกนนำเสื้อแดงคนหนึ่งยังใช้คำพูดที่แสดงถึงความสะใจที่มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวอีกด้วย
เกมที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทำให้มองได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังเล่นเกม 2 ทาง หลังจากที่พยายามใช้อำนาจรัฐที่ตัวเองกำอยู่ในมือมาแล้วแต่ไม่เสร็จสมอารมณ์หมายเสียที ไม่ว่าจะเป็นกองทัพที่ดูเหมือนจะใส่เกียร์ว่างมาพักใหญ่ ไม่ได้อย่างราคาคุยในคลิปถั่งเช่าสักนิด
แถมยังมีกระแสข่าวหลุดๆ ว่าทหารจะประกาศกฎอัยการศึก ออกมายับยั้งความแตกแยกที่เกิดขึ้น ก็ยิ่งไปกันใหญ่
ด้านตำรวจก็พึ่งพาไม่ค่อยจะได้ ขนาดปฏิบัติการขอคืนพื้นที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ภายใต้คำสั่งของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส. ที่สถานการณ์วันนั้นตอนแรกตำรวจเหมือนจะคว้าชัยได้อยู่แล้ว แต่สุดท้ายกลับถูกมวลชนไล่ไปเกือบถึงสนามหลวง และเผ่นหนีกลับจังหวัดชลบุรีไปอย่างง่ายดาย
คงสร้างความอับอายให้กับ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่น้อย จึงต้องแก้เกมว่าไม่ได้เป็นคนลงนามสั่งสลายการชุมนุมของกลุ่มกองทัพธรรมในบริเวณนั้น กลายเป็นเรื่องโอละพ่อ ผู้บังคับบัญชาโยนขี้ไปให้ตำรวจชั้นผู้น้อยซะแบบนั้น
แหม...แมนเหลือเกิน “เป็ดเหลิม”
อนาคตจะสั่งใครไปสลายการชุมนุมก็คงไม่มีใครยอมโง่อีกแล้ว เพราะจับพลัดจับผลูจะตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตายได้ง่าย แถมวันต่อมาภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยให้ แกนนำ กปปส. นำมวลชนบุกเข้าไปในพื้นที่สโมสรตำรวจ พร้อมรอยยิ้มที่เกิดขึ้นระหว่างตำรวจกับมวลชนบริเวณนั้น คงจะเหมือนการตบหน้า ร.ต.อ.เฉลิม ฉาดใหญ่
ทำให้คนฉลาดแก้มโกงอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะมองออกว่าหากปล่อยสถานการณ์ให้คาราคาซังอยู่แบบนี้ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อครอบครัวชินวัตรแน่ๆ แต่สุดท้ายคนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังเชื่อว่าอำนาจเงินที่ตัวเองมี จะสามารถจูงจมูกบรรดาแดงฮาร์ดคอร์ด ให้กลับมาเด็ดหัว “กำนันสุเทพ” ให้ได้
แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องอย่าลืมว่า การชุมนุมของเสื้อแดงในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้หวืวหวาที่จะสามารถสร้างความหวาดหวั่นให้กับฝ่ายตรงข้ามได้เหมือนเหตุเผาเมืองปี 53 อีกแล้ว จะเห็นได้จากเหตุปะทะบริเวณสนามราชมังคลากีฬาสถาน ที่คนเสื้อแดงใช้เป็นที่รวบรวมพล จนมีบรรดาสายแข็งออกมาบู๊กันอย่างล้างผลาญกับนักศึกษารามคำแหง ภาพตัดกลับไปที่สนามฟุตบอลที่ใหญ่โต กลับเหลือมวลชนเพียงแค่หยิบมือ สุดท้ายแกนนำโจกแดงคงทนความอับอายไม่ไหว สั่งยุติการชุมนุมเอาดื้อๆ
ครั้งนี้จะเป็นการพิสูจน์อีกครั้งหนึ่งว่า เศษเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะซื้อใจคนเสื้อแดงให้ออกมาเข่นฆ่ากันอย่างดุเดือด เพื่อส่งคนในครอบครัวชินวัตร เข้าไปโกงเงินบรรดาชาวนา ที่ครั้งหนึ่งเคยลงทุนมาร่วมด้วยช่วยกันเผากรุงฯ แต่พอหมอกและควันจางหายไป คนไร้มิตรแท้อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กลับถีบพวกเขาลงไปในกองเพลิง
จนวันนี้ก็ยังหาทางปีนขึ้นจากไฟที่ตัวเองเป็นคนจุดไม่ได้เลย
พ.ต.ท.ทักษิณ เองก็น่าจะรู้ความจริงข้อนี้ดีว่า คนที่มาด้วยใจ กับคนที่มาด้วยเงิน มันแตกต่างกันมากเหลือเกิน จึงต้องใช้อาวุธสงครามถล่มมันซะทุกจุด ทุกวัน มีเป้าหมายทำลายล้างในลักษณะกินพื้นที่วงกว้าง โดยเลือกกลุ่มเด็กและสตรี เพราะเชื่อว่าตามธรรมชาติของมนุษย์คงไม่รักประเทศชาติมากกว่ารักชีวิตตัวเองแน่นอน และอีกไม่นานหมู่มวลมหาประชาชน ก็จะลดน้อยลงไป คราวนั้นคงจะเป็นโอกาสของกองทัพแดง ที่จะเข้าบุกตีช่องว่างที่เกิดขึ้นทันที
จุดเปลี่ยนจึงถูกจับตามองมาที่นายสุเทพทันที เพราะเกมนี้แต่ละฝ่ายกำลังแก้เกมทุกวินาที หากฝ่ายใดพลาดพลั้งไป ต้องลิ้มรสความพ่ายแพ้ หนทางในสยามเมืองยิ้มคงจะไม่สวยหรูอีกแล้ว
กว่า 4 เดือน ยังมองไม่ออกว่า ฝ่ายใครจะชนะ หรือนายสุเทพจะพาดบันไดหาทางลงเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังทำพฤติกรรมเดิมๆ ก็คือ การเหยียบศพผู้บริสุทธิ์ ผู้หญิง และเด็กๆ ขึ้นไปนั่งเสวยอำนาจอยู่บนกองเลือดอีกครั้งหนึ่งเสียแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น