เปิดใจ..วินาทีเตะสกัดบึ้ม
เปิดใจ..วินาทีเตะสกัดบึ้ม : ทีมข่าวรายงานพิเศษ
คลิป "ตำรวจเตะระเบิด" ซึ่ง "โจนาธาน เฮด" จากสำนักข่าวบีบีซี บันทึกนาทีชีวิตของ ด.ต.ธีรเดช เล็กภู่ ผบ.หมู่งานป้องปราบปราม สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี กำลังแพร่หลายในโลกโซเชียลมีเดีย และมีผู้ยกย่องให้เขาเป็น "วีรบุรุษผู้กล้า" ช่วยเหลือเพื่อนตำรวจให้รอดพ้นจากความตาย ขณะที่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส!!
ด.ต.ธีรเดช มีสีหน้าอิดโรย บริเวณขาทั้งสองข้างมีเหล็กดามไว้ และพันด้วยผ้าพันแผล โดยมีภรรยาเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะนอนรักษาตัวอยู่ภายในห้องผู้ป่วย ตึกศัลยกรรมชาย คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร (มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช) ยอมรับว่า เห็นคลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์วินาทีที่เขาเตะระเบิดถูกโพสต์ลงในอินเทอร์เน็ตแล้ว และมีคนยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษนั้น
"ผมไม่มีความรู้สึกอะไรเลย มันเป็นแค่สัญชาตญาณ ที่ต้องทำแบบนั้น แต่ก็ไม่ทันกาล ระหว่างที่ง้างเท้าเตะ ระเบิดเอ็ม 67 ก็ทำงานเสียก่อน"
ด.ต.ธีรเดช เล่าวินาทีระทึกต่อว่า ตอนนั้นชุลมุนมาก เพราะมีเสียงปืนดังมาจากหลายทิศทาง จังหวะนั้นกำลังถือโล่เหล็กกันกระสุน นั่งยองๆ แต่ด้านขวาของตนนั้นโล่ง ไม่มีโล่กำบัง จึงกวักมือพร้อมตะโกนเรียก ส.ต.อ.อดุลย์ เกตุกัปตัน ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองพัทยา จ.ชลุบรี ซึ่งถือโล่กันกระสุนให้เข้ามาปิดช่องโหว่ดังกล่าว เพราะเกรงว่ากำลังตำรวจหลายนายที่อยู่ด้านหลังและด้านข้างอาจจะถูกยิงได้
"ระหว่างที่ ส.ต.อ.อดุลย์ กำลังมาปิดช่องโหว่ ได้ยินเสียงของแข็งมากระทบที่โล่กันกระสุนของผม และเห็นว่าเป็นระเบิดแบบขว้าง จึงรีบตัดสินใจลุกขึ้น และไปเตะระเบิดตามสัญชาตญาณ โดยไม่ได้บอกเพื่อนๆ ว่า สิ่งที่กระทบโล่กันกระสุนเป็นระเบิดที่ถูกขว้างมาจากเต็นท์ฝั่งตรงข้าม แต่มองไม่เห็นว่าใครขว้างระเบิดมา"
เหตุใดไม่ตะโกนบอกเพื่อนตำรวจ? ด.ต.ธีรเดช ให้เหตุผลว่า นาทีนั้นชุลมุนมาก พอรู้ว่าของแข็งที่กระทบกับโล่กันกระสุนเป็นระเบิด ถ้าหากมัวแต่ตะโกนบอกเพื่อนอาจจะตกใจ แล้วอาจถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิตได้ และหากไม่มีโล่กันกระสุนของตนและของส.ต.อ.อดุลย์ กำบังอยู่ อาจมีเพื่อนตำรวจเสียชีวิตได้
"ผมทำไปตามสัญชาตญาณ ถ้าหากตะโกนบอกเพื่อนอาจจะตกใจ แล้วลุกขึ้น อาจถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิตได้ แม้ผมจะเจ็บ แต่ก็ยังดีกว่าเพื่อนตำรวจเสียชีวิต ตอนนี้อาการผมไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ แพทย์ดามเหล็กที่ขา และบอกว่าไม่ต้องตัดขา เพราะขาไม่ขาด เคราะห์ดีที่มีโล่กันกกระสุนกำบังไว้" ด.ต.ธีรเดช บอกทิ้งท้าย ก่อนเจ้าหน้าที่จากรถศูนย์ส่งกลับ โรงพยาบาลตำรวจ มาเคลื่อนย้ายไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ
ขณะที่ ด.ต.วัฒนพงษ์ พระสุรัตน์ ผบ.หมู่ สภ.นายายอาม จ.จันทบุรี ได้รับบาดเจ็บที่ขาด้านใน พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ยอมรับว่า วินาทีนั้น ถ้าระเบิดมาอยู่ตรงหน้าคงทำอะไรไม่ถูก แต่ตามสัญชาตญาณคงต้องเตะให้ไกลตัวไปก่อน เหมือนๆ กับแก๊สน้ำตา แต่ถ้าไม่เตะคงเจ็บกันอีกหลายคน
ส่วน ส.ต.ท.สุพล บุตรดี ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองชลบุรี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาทั้งสองข้าง ที่นิ้วเท้า แรงระเบิดทำให้เส้นเลือดตรงไหล่ขวาโป่งขึ้นมา หูขวาฉีก มีรอยบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดบริเวณหน้าและแขนทั้งสองข้าง พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ บอกว่า วันเกิดเหตุปฏิบัติหน้าที่อยู่ข้าง ด.ต.ธีรเดช พอได้ยินเสียงตะโกนว่าระเบิดจะดึงโล่ถอนมาบังแต่ไม่ทัน พอสิ้นเสียงระเบิด พยายามขยับตัว ก็เห็นเลือดไหลตามแผลที่โดนสะเก็ดระเบิด แต่ไม่ได้หมดสติ
ส.ต.ท.สุพล ยอมรับว่า เวลาเห็นเพื่อนตำรวจบาดเจ็บล้มตายก็รู้สึกกลัว แต่ก็เป็นหน้าที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อมาทำอาชีพนี้แล้ว ต้องทำให้ดีที่สุด อยากจะฝากบอกทุกฝ่ายว่า ตำรวจมาทำหน้าที่ ผู้ชุมนุมก็มาชุมนุม ต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่กันคนละแบบ ไม่อยากให้มีความรุนแรงแบบนี้ อยากให้มีการเจรจากันได้!!
ด.ต.ธีรเดช มีสีหน้าอิดโรย บริเวณขาทั้งสองข้างมีเหล็กดามไว้ และพันด้วยผ้าพันแผล โดยมีภรรยาเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะนอนรักษาตัวอยู่ภายในห้องผู้ป่วย ตึกศัลยกรรมชาย คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร (มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช) ยอมรับว่า เห็นคลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์วินาทีที่เขาเตะระเบิดถูกโพสต์ลงในอินเทอร์เน็ตแล้ว และมีคนยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษนั้น
"ผมไม่มีความรู้สึกอะไรเลย มันเป็นแค่สัญชาตญาณ ที่ต้องทำแบบนั้น แต่ก็ไม่ทันกาล ระหว่างที่ง้างเท้าเตะ ระเบิดเอ็ม 67 ก็ทำงานเสียก่อน"
ด.ต.ธีรเดช เล่าวินาทีระทึกต่อว่า ตอนนั้นชุลมุนมาก เพราะมีเสียงปืนดังมาจากหลายทิศทาง จังหวะนั้นกำลังถือโล่เหล็กกันกระสุน นั่งยองๆ แต่ด้านขวาของตนนั้นโล่ง ไม่มีโล่กำบัง จึงกวักมือพร้อมตะโกนเรียก ส.ต.อ.อดุลย์ เกตุกัปตัน ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองพัทยา จ.ชลุบรี ซึ่งถือโล่กันกระสุนให้เข้ามาปิดช่องโหว่ดังกล่าว เพราะเกรงว่ากำลังตำรวจหลายนายที่อยู่ด้านหลังและด้านข้างอาจจะถูกยิงได้
"ระหว่างที่ ส.ต.อ.อดุลย์ กำลังมาปิดช่องโหว่ ได้ยินเสียงของแข็งมากระทบที่โล่กันกระสุนของผม และเห็นว่าเป็นระเบิดแบบขว้าง จึงรีบตัดสินใจลุกขึ้น และไปเตะระเบิดตามสัญชาตญาณ โดยไม่ได้บอกเพื่อนๆ ว่า สิ่งที่กระทบโล่กันกระสุนเป็นระเบิดที่ถูกขว้างมาจากเต็นท์ฝั่งตรงข้าม แต่มองไม่เห็นว่าใครขว้างระเบิดมา"
เหตุใดไม่ตะโกนบอกเพื่อนตำรวจ? ด.ต.ธีรเดช ให้เหตุผลว่า นาทีนั้นชุลมุนมาก พอรู้ว่าของแข็งที่กระทบกับโล่กันกระสุนเป็นระเบิด ถ้าหากมัวแต่ตะโกนบอกเพื่อนอาจจะตกใจ แล้วอาจถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิตได้ และหากไม่มีโล่กันกระสุนของตนและของส.ต.อ.อดุลย์ กำบังอยู่ อาจมีเพื่อนตำรวจเสียชีวิตได้
"ผมทำไปตามสัญชาตญาณ ถ้าหากตะโกนบอกเพื่อนอาจจะตกใจ แล้วลุกขึ้น อาจถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิตได้ แม้ผมจะเจ็บ แต่ก็ยังดีกว่าเพื่อนตำรวจเสียชีวิต ตอนนี้อาการผมไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ แพทย์ดามเหล็กที่ขา และบอกว่าไม่ต้องตัดขา เพราะขาไม่ขาด เคราะห์ดีที่มีโล่กันกกระสุนกำบังไว้" ด.ต.ธีรเดช บอกทิ้งท้าย ก่อนเจ้าหน้าที่จากรถศูนย์ส่งกลับ โรงพยาบาลตำรวจ มาเคลื่อนย้ายไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ
ขณะที่ ด.ต.วัฒนพงษ์ พระสุรัตน์ ผบ.หมู่ สภ.นายายอาม จ.จันทบุรี ได้รับบาดเจ็บที่ขาด้านใน พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ยอมรับว่า วินาทีนั้น ถ้าระเบิดมาอยู่ตรงหน้าคงทำอะไรไม่ถูก แต่ตามสัญชาตญาณคงต้องเตะให้ไกลตัวไปก่อน เหมือนๆ กับแก๊สน้ำตา แต่ถ้าไม่เตะคงเจ็บกันอีกหลายคน
ส่วน ส.ต.ท.สุพล บุตรดี ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองชลบุรี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาทั้งสองข้าง ที่นิ้วเท้า แรงระเบิดทำให้เส้นเลือดตรงไหล่ขวาโป่งขึ้นมา หูขวาฉีก มีรอยบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดบริเวณหน้าและแขนทั้งสองข้าง พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ บอกว่า วันเกิดเหตุปฏิบัติหน้าที่อยู่ข้าง ด.ต.ธีรเดช พอได้ยินเสียงตะโกนว่าระเบิดจะดึงโล่ถอนมาบังแต่ไม่ทัน พอสิ้นเสียงระเบิด พยายามขยับตัว ก็เห็นเลือดไหลตามแผลที่โดนสะเก็ดระเบิด แต่ไม่ได้หมดสติ
ส.ต.ท.สุพล ยอมรับว่า เวลาเห็นเพื่อนตำรวจบาดเจ็บล้มตายก็รู้สึกกลัว แต่ก็เป็นหน้าที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อมาทำอาชีพนี้แล้ว ต้องทำให้ดีที่สุด อยากจะฝากบอกทุกฝ่ายว่า ตำรวจมาทำหน้าที่ ผู้ชุมนุมก็มาชุมนุม ต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่กันคนละแบบ ไม่อยากให้มีความรุนแรงแบบนี้ อยากให้มีการเจรจากันได้!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น