‘ยิ่งลั‘ยิ่งลักษณ์’โกงจำนำข้าว ‘ปปช.’แจ้งข้อกล่าวหา-นัดไต่สวน27กุมภา.กษณ์’โกงจำนำข้าว ‘ปปช.’แจ้งข้อกล่าวหา-นัดไต่สวน27กุมภา.57 19 February, 2014
"ยิ่งลักษณ์" ยังไม่สำนึกผิด ท่องโพยคุยฟุ้งจำนำข้าวทำให้ชาวนามีรายได้เพิ่ม อ้างมีเงินหมุนเวียน แต่โดนเกมการเมืองบ่อนทำลายขัดขวางสกัดกั้นไม่ให้เงินชาวนา ขอโทษชาวนาที่ถูกจับเป็นตัวประกัน หวังตั้งรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย โถ! ยืดเวลาชำระหนี้ 6 เดือน-เพิ่มวงเงินกู้เพิ่ม ขณะที่ ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์แจ้งข้อกล่าวหานายกฯ ฐานละเว้นหน้าที่ ระบุมีการท้วงติงแล้วมีการทุจริตแต่ไม่ระงับยับยั้ง เรียกรับทราบข้อกล่าวหา 27 ก.พ.นี้ กปปส.มอบเงิน 25 ล้านให้สภาทนายความฯ ดำเนินคดี
ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เวลา 10.30 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงข่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยยืนยันถึงเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ที่ดีของรัฐบาลต่อโครงการรับจำนำข้าว ตนเชื่อมั่นตั้งแต่เมื่อพรรคเพื่อไทยได้นำเสนอโครงการนี้ และประชาชนได้ให้ความไว้วางใจพรรคและตนเอง ว่าโครงการจะยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตเพื่อสร้างความมั่งคั่ง มั่นคงและยั่งยืนให้กับชาวนาไทยทุกคน
น.ส.ยิ่งลักษณ์บอกว่า ในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา โครงการจำนำข้าวของรัฐบาลก็ประสบความสำเร็จ บรรลุเป้าหมาย ชาวนามีรายได้เพิ่ม ทั้งยังเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจรากหญ้า สำหรับการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อดำเนินโครงการนั้น มีความชัดเจนถึงที่มาของแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการ คือ รายได้จากการระบายข้าวในตลาด ซึ่งมีกระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพหลัก และเงินจากการบริหารจัดการของกระทรวงการคลัง ซึ่งมีตามกลไกปกติของกระทรวงที่จะจัดเงินมาสนับสนุน รวมถึงอนุมัติให้ ธ.ก.ส.กู้เงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการรับจำนำข้าวจากสถาบันการเงินต่างๆ ภายในวงเงินที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ประชาชนเห็นถึงผลที่ชัดเจน เงินตกถึงมือเกษตรกรตัวจริงโครงการจึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
"เป็นที่น่าเสียดายว่าความฝันความหวังที่จะลืมตาอ้าปากของชาวนาไทย กำลังโดนเกมการเมือง สร้างกระบวนการบ่อนทำลายอันรวดเร็วจนจะหมดสิ้นลงในไม่ช้า ดิฉันมีความเสียใจ และต้องขอโทษพี่น้องชาวนา ที่เหตุการณ์เอาชาวนาเป็นตัวประกันของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทำให้รัฐบาลไม่สามารถดำเนินโครงการได้ด้วยความราบรื่นอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่ในปัจจุบัน"
นายกฯ ระบุว่า เกมการเมืองที่กล่าวถึงมาจากกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลมีแนวทางที่จะล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และตั้งรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตยให้เกิดขึ้น กลุ่มต่อต้านรัฐบาลยังคงดำเนินยุทธวิธีที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายต่อประเทศชาติโดยรวม และยังพร้อมที่จะใช้ทุกช่องโหว่เพื่อทำลายนโยบายที่ประชาชนได้ประโยชน์ อย่างเช่น โครงการจำนำข้าว
อ้างไม่มีทุจริต
เธอกล่าวอีกว่า ขณะนี้การบ่อนทำลายโครงการจำนำข้าวไปถึงขั้นการสกัดกั้นที่จะไม่ให้รัฐบาลจ่ายเงินค่าข้าวให้กับชาวนา การขัดขวางทำกันอย่างเป็นกระบวนการ เพื่อให้การจัดหาแหล่งเงินทุนหมุนจะต้องสะดุดหยุดลง ทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายหากทุกฝ่ายมีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ธนาคารสามารถดำเนินการปล่อยกู้ตามขั้นตอนเพื่อช่วยเหลือชาวนา และยังมีกระบวนการกล่าวหาโจมตีว่าโครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริตคอร์รัปชัน ยืนยันว่าในระดับนโยบายไม่มีการสร้างวิธีที่จะโกงเงิน และในระดับปฏิบัติหากมีการรั่วไหล ก็ต้องการเห็นการตรวจสอบที่เข้มงวด และยินดีในกระบวนการตรวจสอบของป.ป.ช.โดยไม่เลือกปฏิบัติ
และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเท่าที่จำเป็นของปัญหาที่เกิดขึ้น ทาง ธ.ก.ส จะขยายเวลาการชำระหนี้ ออกไปเป็นระยะเวลา 6 เดือน นอกจากนี้จะขยายวงเงินให้ลูกค้ารายปัจจุบัน โดยสามารถใช้หลักค้ำประกันที่ได้วางได้กับ ธ.ก.ส. โดยมาตรการนี้ครอบคลุมถึงชาวนาที่ไม่ได้เป็นลูกค้าของทาง ธ.ก.ส.ด้วย
"ขอยืนอีกครั้งว่า รัฐบาลจะปกป้องรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องชาวนาและพี่น้องประชาชนทุกคน ดิฉันจะไม่ยอมให้เกมการเมืองมาเอารัดเอาเปรียบเอาพี่น้องเป็นตัวประกัน ดิฉันขอความร่วมมือและความเห็นใจของทุกฝ่ายต่อความทุกข์ยากของพี่น้องชาวนา " น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวทิ้งท้าย (รายละเอียดหน้า 4)
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้รัฐบาลมีเงินเพียงพอจ่ายชาวนาแล้วหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า โดยสถานะรัฐบาล ความสามารถในการกู้ สัดส่วนหนี้สาธารณะ ยังอยู่ในอัตราที่สามารถกู้ได้ เป็นขั้นตอนตามปกติ ซึ่งทุกครั้งที่จ่ายเงินให้กับชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวก็ทำแบบนี้ แต่เนื่องจากมีการยุบสภา ทำให้ต้องมีขั้นตอนต่างๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลา ขอร้องทุกภาคส่วนให้ร่วมมือ โดยเฉพาะธนาคารให้เห็นใจชาวนา
เมื่อถามว่า ยืนยันจ่ายเงินตามลำดับใบประทวนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ใช่ ขั้นตอนการจ่ายเงินอยู่ที่ธ.ก.ส.ซึ่งมีระเบียบของคณะกรรมการอย่างชัดเจนว่า จะจ่ายตามลำดับของใบประทวน ส่วนมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งล่าสุด กำลังรอการพิจารณาจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
เมื่อซักว่า ชาวนาต้องการคำยืนยันจากรัฐบาลจะจ่ายเงินโดยเร็วได้เมื่อไร นายกฯ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เข้ม มีสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียด ว่าถ้าวันนี้สถานะของรัฐบาลสามารถบริหารได้เต็มตามหน้าที่ ดิฉันคงจะรับปากชาวนาได้ แต่วันนี้รัฐบาลได้ยุบสภาแล้ว มีขั้นตอนตามกฎหมายต่างๆ แล้ววันนี้ไม่ได้เป็นการทำงานที่รัฐบาล เป็นหน้าที่ของธนาคารไม่สามารถก้าวล่วงได้ ดิฉันไม่สามารถรับปากในงานที่ไม่ใช่งานของดิฉันได้ ดิฉันทำได้ก็คือขอความกรุณา และขอร้องว่าถ้าทุกคนเห็นแก่ความเดือดร้อนและช่วยกันทำ ก็จะสามารถดำเนินการได้
"แต่ต้องเรียนว่า ที่ต้องขอเวลา 1 เดือนนั้น ส่วนหนึ่งมาจากความเห็นใจ ธ.ก.ส. เพราะถ้า ธ.ก.ส.จะจ่ายเงินทุกวัน ก็มีความสามารถจำกัดจ่ายเงินต่อวัน ดังนั้นไม่สามารถจ่ายได้มากกว่านี้ จึงไม่ต้องใช้เวลาเท่าที่ได้ประมาณการไว้ 6-8 สัปดาห์ แต่ไม่สามารถเร่งได้ ในเมื่อกำลังที่จะดูแลชาวนาแต่ละสาขามีจำกัด”
ถามว่า แหล่งเงินกู้ชาวนาได้จากที่ไหน นายกฯ กล่าวว่า ภาพรวมสถานะของการเงินการคลังมีสภาพคล่องอยู่ ซึ่งในรายละเอียดต้องให้กระทรวงการคลังดำเนินการหารือตามความเหมาะสม
ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์แถลงข่าวผ่านทางทีวีพูล ด้านหน้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้มีกลุ่มชาวนา 17 จังหวัดภาคกลางประมาณ 200 คน นำโดยนายวิบูลย์ แช่มชื่น อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์, นายพายัพ ยังปักษี แกนนำกลุ่มสมาพันธ์พลเมืองฐานราก ในนามสหพันธ์เกษตรกรและชาวนาแห่งประเทศไทย มาสนับสนุนนายกฯ กรณีโครงการรับจำนำข้าว และขอบคุณรัฐบาลที่กล้าทลายการผูกขาดการค้าข้าวจาก 5 เสือ โดยมีป้ายข้อความสนับสนุน และยังมีป้ายที่มีรูปถ่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย อีกทั้งยังช่วยกันส่งเสียงให้ "นายกฯ สู้ๆ"
จากนั้นนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.การคลัง ได้เดินทางออกไปพบชาวนาที่มาสนับสนุน ซึ่งชาวนาได้ปรบมือต้อนรับ และมอบดอกไม้ให้ ซึ่งนายกิตติรัตน์ได้กล่าวกับชาวนาผ่านเครื่องขยายเสียงว่า รัฐบาลทำโครงการรับจำนำข้าวมาตั้งแต่ปี 54 ไม่เคยมีปัญหาในเรื่องการจ่ายเงิน การดำเนินโครงการนี้ รัฐบาลไม่มีเจตนาที่จะสร้างนโยบายมาให้เกิดการทุจริต แต่ต้องการให้ชาวนาจำนำข้าวในราคาที่สูงพอ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่อาจจะมีบ้างที่ต้องขายข้าวในราคาที่ต่ำกว่าราคารับจำนำ และยืนยันว่ารัฐบาลสามารถทำได้ ยืนยันชาวนาที่มีใบประทวนจะได้รับเงินเต็มจำนวนทุกราย
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิชา มหาคุณ กรรมการและโฆษก ป.ป.ช. แถลงกรณีประธานวุฒิสภาให้ส่งคำร้องขอให้วุฒิสภาถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยกล่าวหาว่าผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย และกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีเหตุอันควรสงสัยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว โดยเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้น
นายวิชาระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติให้ไต่สวนข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าว โดยให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะเป็นองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง ซึ่งได้ดำเนินการไต่สวนมาระยะหนึ่งแล้ว จากการไต่สวนปรากฏว่า มีพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสารยืนยันชัดเจนว่าผู้ถูกกล่าวหาในฐานะนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้รับหนังสือจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่ทักท้วงว่าโครงการดังกล่าวจะก่อให้เกิดปัญหาทุจริตอย่างมหาศาล โดยเฉพาะการทุจริตในทุกขั้นตอนและทุกกระบวนการในการดำเนินการ นอกจากนั้นผู้ถูกกล่าวได้รับทราบเรื่องทุจริตในการดำเนินโครงการจากการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร อีกทั้งยังได้รับรายงานเรื่องทุจริตในการดำเนินโครงการจากประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกว่าเสียหายถึง 2 แสนล้านบาท รวมทั้งชาวนาที่ร่วมโครงการยังไม่ได้รับเงินอีกจำนวนมากทำให้เดือดร้อนเสียหายอย่างหนัก
ประกอบกับมีหนังสือจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถึงผู้ถูกกล่าวหาให้ทบทวนและยุติโครงการดังกล่าว ซึ่งการดำเนินการในปัจจุบันได้เกิดปัญหาทุจริตในการรับจำนำข้าว การระบายข้าว และการชำระหนี้ให้แก่เกษตรกรผู้ร่วมโครงการ แทนที่ผู้ถูกกล่าวหาจะระงับยับยั้งโครงการตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินฯ มาตรา 11 (1) กลับยืนยันที่จะดำเนินโครงการต่อไป จึงแสดงถึงเจตนาของผู้ถูกกล่าวหาที่จะปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการหรือโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 178 อันเป็นเหตุแห่งการถอดถอนออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์คณะไต่สวนได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้มีหนังสือเรียก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้ถูกกล่าวหามาพบ และแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ตามระเบียบการไต่สวนทุจริต ในวันที่ 27 ก.พ.นี้ หากนายกฯ ให้ความร่วมมือด้วยดี การพิจารณาของ ป.ป.ช.ก็จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ เพราะเป็นเพียงการแจ้งข้อกล่าวหา ต้องรอให้นายกฯ มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาอีกครั้งภายใน 15 วันหลังจากเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา
สภาทนายฯ รับ 25 ล้านสู้คดี
นายวิชายืนยันว่า ป.ป.ช.ทำตามหน้าที่ตรงไปตรงมา ไม่ลำเอียง และไม่ใช่การทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จโทษรัฐบาลตามที่มีการคาดการณ์กัน ในการประชุมวันนี้ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการ ป.ป.ช. ได้ขอถอนตัวออกจากการเป็นองค์คณะการไต่สวนโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจากสมัยรับราชการเคยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสอบสวนคดีเกี่ยวกับการทุจริตโครงการจำนำข้าว ดังนั้นเพื่อมิให้ถูกกล่าวหาว่ารู้เห็นในโครงการนี้มาก่อน จึงขอถอนตัวออกจากการเป็นองค์คณะไต่สวนของ ป.ป.ช. ทำให้เหลือองค์คณะไต่สวนคดีนี้ 8 คน
ส่วนที่เวทีปทุมวัน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย, นายวิทยา แก้วภราดัย พร้อมด้วยแกนนำ กปปส. ทำพิธีมอบเงินจำนวน 25 ล้านบาท ให้แก่นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความฯ เพื่อเอาไปใช้จ่ายเป็นค่าดำเนินคดี ในกรณีที่ชาวนาจะฟ้องร้อง และมอบเงิน 2.2 ล้านบาทให้ครอบครัวชาวนาที่ฆ่าตัวตายจากผลกระทบจากโครงการรับจำนำข้าว 11 ครอบครัว ครอบครัวละ 2 แสนบาท
ด้านนายเดชอุดมกล่าวว่า วันนี้ชาวนาชอกช้ำมาพอแล้ว เราจะช่วยเหลือพวกเขา ทางสภาทนายความฯ มีทนายอาสาที่จะเข้ามาช่วยเหลือในการฟ้องร้องอย่างเต็มที่
ขณะที่ นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า เราเดินทางมาหลายร้อยกิโลเมตร มายังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม แต่บรรดารัฐมนตรีไม่ลงมารับรู้ข้อเรียกร้องอะไรเลย แต่กลับไปแถลงข่าวตอนที่ไม่มีชาวนารับฟัง พวกเขาทำอย่างไรเพื่ออะไร ส่วนที่เราไปยังสำนักปลัดกระทรวงกลาโหมก็เพื่อเรียกร้องเอาเงินของเราคืน วันนี้ตนขอเป็นตัวแทนชาวนาทั้งประเทศ ขอบคุณประชาชนทุกคนที่ร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือชาวนาในการฟ้องร้องดำเนินคดี วันนี้ชาวนาสบายใจได้ เรามีสภาทนายความฯ ที่จะเข้ามาช่วยเหลือเราในการฟ้องร้องดำเนินคดีเอาเงินที่รัฐบาลโกงเราไปคืนมา และวันที่ 19 ก.พ. ขอให้ชาวนาทั่วประเทศเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาต่อสู้กับรัฐบาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น