นายถาวร ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีถึงโครงการรับจำนำข้าวว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทำหน้าที่ได้ไม่กี่วัน ซึ่งโครงการนี้จะทำให้เกิดการทุจริตได้มากมาย และโครงการนี้ใช้เงินไปหลายแสนล้านบาท แต่เงินไม่ถึงมือชาวนา ซึ่งหากนำเงินก้อนนี้ไปพัฒนาประเทศจะพัฒนาประเทศได้มากกว่านี้ และขณะนี้รัฐบาลเป็นรัฐบาลรักษาการจะทำการอย่างหนึ่งอย่างใดผูกพันกับรัฐบาลหน้าไม่ได้
จึงต้องไปขอกู้เงินจากธนาคารหลายธนาคาร แต่หลายธนาคารก็ปฏิเสธที่จะให้กู้ เพราะผิดกฎหมายและอาจไม่ได้เงินคืนมา ยังไปบีบบังคับธนาคารต่าง ๆ ให้ปล่อยเงินกู้ แต่เมื่อถึงธนาคารออมสิน ซึ่งเคยไปยืมมาแล้วโดยบอกว่าถ้ากู้ไปใช้ในโครงการรับจำนำข้าวจะไม่ให้กู้ เพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่ทุจริต และผิดวัตถุประสงค์ของธนาคารออมสินที่จะให้กู้
นายถาวร กล่าวอีกว่า รัฐบาลหมดหนทางจึงไปบีบธนาคารออมสิน โดยบีบบังคับนายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ให้ปล่อยกู้ให้โครงการรับจำนำข้าว แต่ก็เลี่ยงว่าเป็นการปล่อยกู้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กู้แบบอินเตอร์แบงก์เป็นการกู้แบบเสริมสภาพคล่องให้ธนาคาร
ซึ่งธนาคาร ธ.ก.ส. เอง ก็ไม่ได้ขาดสภาพคล่อง เพราะมีเงินอยู่ถึง 1.8 แสนล้านบาท การอ้างว่ากู้เพื่อเสริมสภาพคล่องจึงทำไม่ได้ เป็นการโกหก การกระทำแบบนี้จึงเป็นการกระทำที่ลับ ลวง อำพราง อีกทั้งนายวรวิทย์ ได้ออกมาแถลงข่าวแล้วว่าไม่ได้เอาเงินของประชาชนที่ฝากไว้มาให้กู้ จึงอยากถามกลับไปว่าถ้าไม่ใช่เงินของประชาชนแล้วเงินที่ปล่อยกู้มาจากไหน การที่รัฐบาลทำแบบนี้เป็นการแก้ผ้าเอาหน้ารอด เป็นการทำนิติกรรมสัญญาที่เป็นโมฆะ และคนที่ปล่อยกู้จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
การปล่อยกู้ในคราวนี้
1.เป็นการโกหกเพื่อเสริมสภาพคล่องให้ ธ.ก.ส. ซึ่ง ธ.ก.ส.มีสภาพคล่องเกินกว่าจะไปกู้เงินจากธนาคารออมสิน
2.โกหกว่าไม่ได้ให้กู้เพื่อแก้ปัญหาจำนำข้าว เมื่อไม่ได้เป็นการกู้เพื่อเสริมสภาพคล่อง ให้ธ.ก.ส.กู้ก็เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ แก้ปัญหาเรื่องโครงการรับจำนำข้าว
3.โกหกว่าไม่ใช่เงินฝากของประชาชน ซึ่งเมื่อโกหก 3 อย่างแล้ว รัฐธรรมนูญมาตรา 181 ระบุว่า ในขณะที่เป็นรัฐบาลรักษาการ จะมีมติทำโครงการใด ๆ ที่เป็นการผูกพันกับรัฐบาลหน้าไม่ได้ การกู้ยืมเงินครั้งนี้จะเป็นโมฆะ
อีกทั้งจะขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งมาตรา 113 ที่ระบุว่านิติกรรมใดที่ขัดต่อกฎหมายชัดแจ้ง นิติกรรมนั้นย่อมมีผลเป็นโมฆะ ซึ่งการกู้นี้ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ชัดเจน แม้จะอ้างว่ากู้แบบอินเตอร์แบงก์ก็เป็นการทำนิติกรรมสัญญาที่เป็นโมฆะ และขอฝากไปยังนายวรวิทย์ ให้เตรียมถูกดำเนินคดี ที่สำคัญควรหาทนายเก่ง ๆ เตรียมไว้เลย คนที่จะได้รับเงินปล่อยกู้ครั้งนี้ อยากให้ดูว่าเงินที่กู้จะเป็นของใครระหว่างหัวคะแนนของพรรคเพื่อไทยหรือชาวนาที่เดือดร้อนจริง ๆ และคนที่ปล่อยกู้ครั้งนี้ยอมติดคุก เพื่อให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ แก้ผ้าเอาหน้ารอดอย่างนั้นหรือ
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น