|
|
วิกฤตศรัทธา 101 ปี "ออมสิน" เริ่มสั่นคลอน เผยวันที่สองแห่ถอนอีกกว่า 4 หมื่นล้าน รวมยอด 2 วันถอนไปแล้ว 7 หมื่นล้าน แต่ฝากแค่ 2 หมื่นล้าน พนักงานออมสินขวัญกระเจิง ผวาตระกูลชินวัตรสบช่องวิกฤตเป็นโอกาส นำสมุนเสื้อนแดงชักแถวเข้าฮุบ โวยลั่นไม่อยากเป็นแบงก์แดงรับเงินโคตรโกง
รายงานข่าวแจ้งว่า ตัวเลขการทำธุรกรรมของธนาคารออมสินในวันอังคารที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่า มีการถอนเงินทั้งสิ้น 4 หมื่นล้านบาท และฝากเพียง 1 หมื่นล้านบาท โดยหากรวมวันจันทร์ ที่มีการถอนเงินไปแล้ว 3 หมื่นล้านบาท และฝาก 1 หมื่นล้านบาท เท่ากับ 2 วันมีการถอนไปถึง 7 หมื่นล้านบาท แต่ฝากเข้าเพียง 2 หมื่นล้านบาทเท่านั้น
ขณะที่พนักงานธนาคารได้มีการพูดคุยกันถึงปัญหาวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน เพราะมีประชาชนในหลายจังหวัด ซึ่งมีบัญชีเงินฝากและสลากออมสิน ยังคงไปปิดบัญชีและไถ่ถอนสลากกับธนาคารออมสิน เพราะความเชื่อมั่นต่อออมสินที่ย่างเข้าปีที่ 101 เริ่มคลอนแคลนจากการปล่อยกู้เงินอินเตอร์แบงก์ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปใช้ในโครงการที่เต็มไปด้วยการทุจริตอย่างโครงการจำนำข้าว ขณะเดียวกันพนักงานออมสินเองก็มีการแต่งชุดดำเพื่อเป็นสัญลักษณ์การปล่อยกู้ดังกล่าวด้วย
นอกจากนี้ ในการแถลงข่าวชี้แจงของนายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ต่อสหภาพแรงงานฯ และพนักงานของธนาคาร ซึ่งในระหว่างนายวรวิทย์ชี้แจง มีพนักงานบางส่วนได้ลุกต่อว่า การฝากเงินวันนี้มาจากการจัดตั้งกลุ่ม ซึ่งรับไม่ได้ เพราะไม่ต้องการเอาเงินคนโกงชาติโกงแผ่นดินเข้ามา และต้องการให้นายวรวิทย์และคณะกรรมการ ออกไปโดยเร็ว เพราะไม่อยากถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นธนาคารของเสื้อแดง และมีเสียงโห่ร้องขับไล่เป็นระยะๆ ก่อนที่นายวรวิทย์และบอร์ดธนาคารจะเดินออกจากห้องประชุมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และมีน้ำตาคลอเบ้า
ทั้งนี้ ได้มีกระแสข่าวว่า นักธุรกิจและคนในพรรคเพื่อไทย (พท.) ต่างก็เดินทางมาฝากเงินเช่นกัน โดยเฉพาะที่สาขาใหญ่ ซึ่งนางจรรยา สว่างจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีโอเวอร์ซีส์ สตีล จำกัด (มหาชน) ภรรยา พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร ได้นำแคชเชียร์เช็คจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 200 ล้านบาท มาฝากเงิน โดยระบุว่าเพื่อนนักธุรกิจอีกหลายสิบคนจะนำเงินมาฝากที่ออมสินรวมกันอีกหลายพันล้านบาท ซึ่งเร็วๆ นี้ก็จะขายที่ดินได้เงินประมาณ 900 ล้านบาท ก็จะนำมาฝากเช่นกัน
นายวิวัฒน์ ทีฆศิริกุล เจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางคาร์มาร์ท ก็เป็นตัวแทนนำเงินจากเพื่อนๆ มาฝากธนาคารเช่นกัน เช่นเดียวกับนางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ได้นำเงินมาฝากเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีนักธุรกิจที่มาฝากเงิน อาทิ นิชาณันท์ เตชะเทียมจันทร์ นักธุรกิจขายเสื้อผ้าย่านแพลตตินั่ม, นายกมลา พะลายะสุต ข้าราชการเกษียณ
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ (ธพส.) และบอร์ดออมสิน, นายวรพจน์ ยศะทัตต์ เจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัย, น.ส.ศสพักษณ์ ศิริสินโอฬาร เจ้าของห้างทองคำดำรงชัย 9, นางพัชนี ธนาพรสิน เจ้าของบริษัท เคพีออโต้เซ็นเตอร์ และบริษัท พีพีเค สหกิจ จำกัด, ดร.มาณี ไชยธีรานะวัฒนสิริ เจ้าของมูลนิธิโลกสีเขียว, นายกำธร วังอุดม เจ้าของโรงไฟฟ้าและเจ้าของท่อส่งน้ำมัน, นายสุวิทย์ มาไพศาลสิน เจ้าของกรรมการผู้จัดการภัทรเงินทุนหลักทรัพย์, นายโยธิน เนื่องจำนง ประธานบริหาร บริษัท โมเดิลฟอร์ม เฟอร์นิเจอร์, น.ส.สุกัญญา ประจวบเหมาะ เจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานลม และนายดำรงชัย ปานจุ้ย ประธานชมรมผู้ซื้อขายทองคำแท่ง
ด้านนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ได้เปิดบัญชีที่ออมสิน 11,300,000 บาท และจะถอนเงินมาฝากอีก รวมทั้งเชิญชวนทุกคนฝากเงินและถ่ายรูปอวดกัน
ด้านนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ ก็ได้เดินทางไปที่ออมสิน สาขาเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ เพื่อเปิดบัญชี 2,000,000 บาท ซึ่งหลังเปิดบัญชีก็ถูกชาวบ้านตะโกนด่า ไม่ต่างจากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ที่ได้นำนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และคณะเกือบ 10 คนมาเปิดบัญชี ซึ่งมียอดรวมเพียงกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งในช่วงดำเนินการก็มีกลุ่มผู้สนับสนุน กปปส.ที่ทำงานอยู่ในอาคารบางกอก ทาวเวอร์ ได้เป่านกหวีด ชูป้ายกระดาษพร้อมทั้งตะโกนขับไล่
ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น พบว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ระบุว่า จะเชิญชวนคนเสื้อแดงนำเงินไปฝากธนาคารออมสินให้มากกว่าที่ถอนออก โดยในวันที่ 19 ก.พ. จะนำแกนนำคนเสื้อแดงไปฝากเงินที่สาขาอิมพีเรียลลาดพร้าว โดยจะฝากเข้า 1 ล้านบาท และหลังจากนี้จะติดตามการฝากและถอน หากมีการฝากเข้ามากกว่าขอให้ออมสินพิจารณาเรื่องการให้ ธ.ก.ส.กู้เงินใหม่ แต่หากไม่พิจารณาก็จะไปถอนเงินออกจากออมสินเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น