′ออมสิน′ป่วน ลูกค้าแห่ถอนเงิน หลังถูกโจมตีปล่อยกู้ให้ธ.ก.ส. ส่งผลเงินไหลออก2หมื่นล้าน
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 18:15:37 น.
ออมสินป่วนลูกค้าแห่ถอนเงินส่งผลเงินไหลออก2หมื่นล้าน หลังถูกโจมตีปล่อยกู้ให้ธ.ก.ส.ไปใช้ในโครงการรับจำนำข้าว ยอมรับเป็นยอดธุรกรรมที่มากผิดปกติ เตรียมนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร 18 ก.พ.
นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์การทำธุรกรรมของธนาคารหลังมีกระแสโจมตีกรณีปล่อยเงินกู้ระหว่างธนาคาร(อินเตอร์แบงก์) ให้ธนาคารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ในช่วง 3 วันนี้ จนถึงสิ้นวันทำการ 17 กุมภาพันธ์พบว่า มีลูกค้ามาถอนเงินฝากออกไปประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่มีการฝากเงินเข้ามาประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้มียอดเงินไหลออกไปประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซี่งยอมรับว่า เป็นยอดธุรกรรมที่มากผิดปกติถึง 3 เท่า หากเทียบกับวันหยุดยาวจากช่วงสถานการณ์ปกติที่พบว่า จะมีการถอนเงินมากกว่าฝากเข้าประมาณ 7 พันล้านบาท
"ยอมรับว่ามีการถอนเงินมากกว่าปกติจริงและข่าวมีผลกระทบกับความรู้สึกของผู้ฝากเงินจริง จึงจะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อประเมินผลกระทบ เพราะเดิมมองว่าการปล่อยอินเตอร์แบงก์ไม่น่าจะมีผลกระทบ เนื่องจากเป็นธุรกรรมปกติระหว่างธนาคาร แต่เมื่อสถานการณ์ออกมาว่า กระทบเงินฝากจริงระหว่างนี้ก็ต้องหยุดดำเนินการปล่อยกู้ชั่วคราว เพราะถือเป็นการใช้เงินที่ผิดวัตถุประสงค์ด้วย หากเป็นการนำไปใช้ในโครงการรับจำนำข้าวจริง" นายวรวิทย์กล่าว และว่า
การถอนเงินส่วนใหญ่ เป็นสาขาในกทม.มากที่สุด เพราะมีเงินฝากถึง 40% ของยอดเงินฝากทั้งหมด รองไปเป็นสาขาภาคใต้ ส่วนภาคเหนือและภาคอีสานไม่มีอะไรผิดปกติ
อย่างไรก็ตามมองว่า การถอนเงินวันนี้ไม่มากอย่างที่ประเมินไว้ เพราะส่วนใหญ่เป็นรายย่อย ส่วนรายใหญ่ยังรอดูความชัดเจนและให้เวลาออมสินว่าจะหยุดปล่อยกู้ในโครงการจำนำข้าวหรือไม่ หรือหากไม่หยุดก็อาจจะถอนเงินออกไป หากหยุดก็จะฝากต่อ โดยเฉพาะนิติบุคคลและสถาบัน โดยคงต้องรอดูในช่วง2-3วันนี้อีกครั้ง หากไม่ได้หยุดถอนเงินผิดปกติ ทั้งนี้ขอยืนยันความชัดเจนว่าการปล่อยกู้ให้ธ.ก.ส.มีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสภาพคล่อง หากนำไปใช้ในโครงการจำนำข้าวออมสินก็สามารถหยุดปล่อยกู้ได้จากวงเงินที่เปิดไว้ 2 หมื่นล้านภายในระยะเวลา90วัน แต่เป็นการกู้ระยะส้ันไม่เกินครั้งละ30วัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น