สลด! นักเรียนหญิง ม.ปลายโรงเรียนชื่อดังเมืองตรัง
เปิดฉากปะทะเดือนระหว่างรุ่นพี่ ม.5 กับรุ่นน้อง ม.4 ขณะมาเจอกันดูไฟฟ้าลัดวงจร ใต้ถุนอาคาร แต่รุ่นน้องใจถึงกว่า หยิบกรรไกรแทงหัวไหลหวิดดับ เพื่อนนักเรียนเข้ามาช่วยเจอแทงเจ็บอีกราย
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 ก.พ.57 พ.ต.ท.สุนันท์ สังข์สวัสดิ์ สารวัตรเวร สภ.เมืองตรัง
ได้รับแจ้งว่ามีเหตุแทงกัน มีผู้บาดเจ็บบริเวณใต้อาคารเรียน 3 โรงเรียนสภาราชินี 2 โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง (สพป.) เขต 1 ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายตรัง-สิเกา ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จึงประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบครูและนักเรียนจำนวนมากกำลัง จับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งกองเลือด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่ามี 2 ราย
ถูกนำส่งไปรักษาที่ รพ.ศูนย์ตรัง ก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ส้ม (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ถูกแทงเข้าที่บริเวณไหปราร้าซ้าย จำนวน 1 แผล อาการสาหัส และมีเลือดไหลออกมาจำนวนมากซึ่งแพทย์ได้ทำการผ่าตัดช่วยเหลือจนปลอดภัยแล้ว
ส่วนผู้บาดเจ็บอีกรายคือ น.ส.มะลิ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ถูกแทงเข้าที่บริเวณแขนขวา จำนวน 1 แผล บาดเจ็บเล็กน้อย
ซึ่งหลังจากแพทย์ทำบาดแผลแล้วอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้ เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีกระแสไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นที่บริเวณใต้อาคารเรียน 3 ทำให้นักเรียนเดินทางไปมุงดูกัน และเป็นเหตุบังเอิญที่นักเรียนสาว 2 กลุ่ม ซึ่งเคยมีปัญหาขัดแย้งมาก่อนหน้านี้แล้ว ต้องมาเจอกันเข้าพอดี จึงเกิดเขม่นกันอีกครั้ง ก่อนที่ น.ส.ส้ม (นามสมมติ) จะตรงเข้าไปหา น.ส.มะลิ แล้วนำกรรไกรที่นำมาใช้ในวิชาศิลปะจ้วงแทงเข้าที่บริเวณไหปราร้าซ้าย จำนวน 1 ครั้ง ในขณะที่ น.ส.น้ำ เพื่อนนักเรียนพยายามจะเข้าไปห้ามปราม จึงถูกกรรไกรแทงเข้าที่บริเวณแขนขวาด้วย
ด้าน พ.ต.ท.สุนันท์ เจ้าของคดี กล่าวว่า เบื้องต้นได้เรียกนักเรียนในบริเวณที่เกิดเหตุ รวมทั้งผู้ปกครองทั้งฝ่ายที่ลงมือแทง และฝ่ายที่ถูกแทง มาสอบปากคำ
ตลอดจนสอบถามข้อมูลจากครูฝ่ายปกครอง โรงเรียนสภาราชินี 2 พบว่า ทั้ง 2 ฝ่ายเคยมีปัญหากันมาก่อน และทางโรงเรียนพยายามหาทางพูดคุยมาแล้ว แต่ขณะนี้ทั้งยังไม่แจ้งข้อหาแก่นักเรียนคนใด เนื่องจากเป็นเยาวชนที่มีกฎหมายคุ้มครองอยู่ โดยกำลังรอการสอบสวนรายละเอียดจากทางโรงเรียน ก่อนนำมาสรุปสำนวนอีกครั้ง
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น