วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555

วสิษฐ เดชกุญชร : สหกรณ์การเกษตรเป็นพิษ วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16:40:06 น.




วสิษฐ เดชกุญชร : สหกรณ์การเกษตรเป็นพิษ

วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16:40:06 น.

กระแสทรรศน์  วสิษฐ เดชกุญชร  มติชน 23 ตุลาคม 2555



เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านไปนี้ ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์การเกษตรแม่เปิน อำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 30 คน ได้เข้าร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรมว่า พวกตนและสมาชิกสหกรณ์การเกษตรแม่เปินอีก 347 คน ได้รับความเดือดร้อนในการดำรงชีวิต เนื่องจากได้นำผลผลิตทางการเกษตรไปขายให้แก่สหกรณ์การเกษตรแม่เปินแล้วไม่ได้รับเงินเป็นมูลค่ากว่า 44 ล้านบาท และยังมีสมาชิกสหกรณ์อีกประมาณ 1,000 ราย ที่ฝากเงินไว้กับสหกรณ์แล้วไม่สามารถเบิกถอนเงินได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2554 โดยสมาชิกได้ตามทวงแล้ว แต่ทางสหกรณ์ไม่สามารถจ่ายเงินให้ได้



ต่อมาเมื่อกลางเดือนตุลาคมนี้เอง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้ "ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม" อันเป็นหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรม ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งหาแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยา โดยให้ดำเนินคดีแก่ผู้กระทำผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา ในกรอบและอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย


ผลการสอบสวนหาข้อเท็จจริงของศูนย์ ปรากฏว่า สมาชิกของสหกรณ์การเกษตรแม่เปิน รวมทั้งสิ้น 1,209 คน ได้นำเงินไปฝากไว้กับสหกรณ์แล้วไม่สามารถจะถอนเงินได้ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท สมาชิกอีก 15 ราย นำมันเส้นไปขายให้แก่สหกรณ์ คิดเป็นเงินประมาณ 1.041 ล้านบาท สหกรณ์ออกใบรับเงินให้ แต่เมื่อนำใบรับไปขอขึ้นเงินกับสหกรณ์ สหกรณ์ไม่มีเงินจ่ายให้ สมาชิกอีก 291 ราย นำมันเส้นไปขายให้แก่สหกรณ์เป็นเงินประมาณ 4.3 ล้านบาท สหกรณ์นำเงินเข้าบัญชีเป็นเงินฝาก



 แต่ครั้นสมาชิกไปขอเบิกถอนเงินก็ปรากฏว่าสหกรณ์ไม่มีเงินจ่ายให้ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมสอบสวนพบด้วยว่า สหกรณ์การเกษตรแม่เปิน มีผลการดำเนินการขาดทุนมาโดยตลอดตั้งแต่ พ.ศ.2552-2554 เป็นเงินประมาณ 40 ล้านบาท และเมื่อเดือนพฤษภาคม 2554 สมาชิกสหกรณ์ผู้ได้รับความเสียหาย จำนวน 347 ราย ได้แจ้งความต่อสถานีตำรวจภูธรแม่เปิน ขอให้ดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์กับนายคุณยู้ พรมทา ประธานกรรมการสหกรณ์ และนางสาวสุธาสินี แสงศรี ผู้จัดการสหกรณ์ ในฐานะผู้กระทำในนามของสหกรณ์ ค่าเสียหายคิดเป็นเงินทั้งสิ้น 44,518,947.01 บาท ขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณา


ที่น่าเศร้าใจลงไปอีกก็คือ ศูนย์ได้สอบสวนพบด้วยว่า ขณะที่เป็นผู้จัดการสหกรณ์ นางสาวสุธาสินีได้นำมันเส้นที่สหกรณ์รับซื้อจากสมาชิกไปขาย แล้วโอนเงินที่ขายได้เข้าบัญชีส่วนตัวของตนใน 2 ธนาคาร เป็นเงินกว่า 59 ล้านบาท
เช่นเดียวกับสหกรณ์การเกษตรอื่นๆ สหกรณ์การเกษตรแม่เปินนั้นตั้งขึ้นตามหลักของสหกรณ์ทั่วไป เพื่อรับฝากเงินจากสมาชิก และให้บริการด้านสินเชื่อแก่สมาชิก นอกจากนั้น ยังจัดหาวัสดุสิ่งของที่จำเป็น เช่นน้ำมันเชื้อเพลิงมาจำหน่ายแก่สมาชิก รวบรวมผลผลิตของสมาชิกออกจำหน่าย โดยคืนกำไรให้สมาชิก ให้การบริการและบำรุงที่ดิน และให้การศึกษาอบรมแก่สมาชิกด้วย


เป็นเรื่องน่ายินดีที่กระทรวงยุุติธรรม โดยเฉพาะศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เป็นธุระออกไปสอบสวนจนพบข้อเท็จจริงว่า เจ้าหน้าที่ของสหกรณ์การเกษตรแม่เปินทุจริตยักยอกเงินของสมาชิก แม้ว่าการดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่งจะกินเวลา และในที่สุด สมาชิกซึ่งเป็นเกษตรกรอาจจะได้เงินของตนคืนมาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ตาม


แต่ที่น่าสังเกตและน่าประหลาดใจก็คือ มีหน่วยงานสำคัญในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่ 2 หน่วย ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงและใกล้ชิด ซึ่งน่าจะได้มีส่วนป้องกันมิให้เกิดทุจริตจนสมาชิกสหกรณ์ได้รับความเสียหายหลายสิบล้านบาท หน่วยงานที่ว่านี้คือ กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์นั้นเป็นกรมใหญ่ นอกจากหน่วยงานส่วนกลาง ซึ่งจัดเป็นสำนักงาน สำนัก และกอง จำนวนถึง 11 หน่วยแล้ว ในส่วนภูมิภาคยังมีสำนักงานสหกรณ์ จังหวัดอยู่ทุกจังหวัด และแบ่งเขตตรวจราชการทั่วประเทศออกเป็น 18 เขต จังหวัดนครสวรรค์อันเป็นที่ตั้งของสหกรณ์การเกษตรแม่เปินนั้นอยู่ในเขตที่ 18


ส่วนกรมตรวจบัญชีสหกรณ์นั้น ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าน่าจะช่วยยับยั้งมิให้เกิดทุจริตในสหกรณ์การเกษตรได้ เพราะมีสำนักงานตรวจบัญชี สหกรณ์อยู่ทั่วประเทศถึง 19 สำนักงาน มีภารกิจในการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ถ่ายทอดความรู้และส่งเสริมให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรมีการจัดทำบัญชี กำกับดูแลการสอบบัญชีสหกรณ์โดยผู้สอบบัญชีภาคเอกชน ทั้งยังต้องทำรายงานสภาวะเศรษฐกิจของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร เพื่อเป็นพื้นฐานในการกำหนดนโยบายและวางแผนพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรด้วยมีกำลังเจ้าหน้าที่ส่งเสริมและตรวจบัญชีอยู่ทั่วประเทศ รวมทั้งจังหวัดนครสวรรค์ด้วย แล้วไม่รู้ไม่เห็น ปล่อยให้ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรแม่เปินขโมยเงินของสมาชิกไปได้อย่างไรเกือบ 60 ล้านบาท?


ผมจึงหวังว่า เมื่อเกิดเหตุขึ้นที่สหกรณ์การเกษตรแม่เปิน จนร้อนถึงกระทรวงยุติธรรม ต้องส่งเจ้าหน้าที่ของศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมออกไปสอบสวนจนพบการกระทำผิดเช่นนี้แล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จะตื่นขึ้นมาเอาใจใส่เหลียวแลและตรวจสอบสหกรณ์อื่นๆ ว่ามีปัญหาทำนองเดียวกับสหกรณ์แม่เปินหรือไม่ และหากมี ก็เข้าป้องกันมิให้ลุกลามร้ายแรงจนต้องให้กระทรวงยุติธรรมต้องเข้าไปแก้ปัญหาที่ปลายเหตุให้อีก


หรือว่ามัวสาละวนอยู่แต่กับการรับ "จำนำ" ข้าวอยู่ จนกระทั่งลืมมันเส้น?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น