ลางบอกเหตุประเทศไทย 06-08-13 14:33
คอลัมน์: ร้านกาแฟโบราณ / พิพัทธ์ ชนะสงคราม
ลางบอกเหตุนับหนึ่งสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ประเทศไทย ผมเชื่อว่าเหตุการณ์บ้านเมืองขนาดนี้ย้อนหลังไปตั้งแต่พันธมิตรชุมนุมใหญ่ ๑๙๓ วัน สันติอโศกชุมนุม ๑๕๒ วัน เครื่อข่ายคนไทยหัวใจรักชาติจิปาถะทั้งหลาย พลังธรรมาธิปไตยเอย หน้ากากขาวเอย กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณเอย สันนิบาตประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเอย การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้รักชาติเหล่านี้ จะต้องมีมูลเหตุนำไปสู่บทสรุปที่ต้องการขับไล่รัฐบาล ถ้าบ้านเมืองปกครองโดยธรรม ประชาชนอยู่ดีกินดี มีการใช้กฏหมายด้วยหลักนิติรัฐ นิติธรรมที่ถูกต้อง ไม่มีใครหรอก ที่จะออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล ที่ปกครองประเทศเพื่อประชาชน จะจุดม็อบอย่างไร ก็ไม่มีเชื้อไฟให้ติด นี่แสดงให้เห็นว่ามีเชื้อไฟ การจุดม็อบขับไล่รัฐบาลจึงจุดติด ต้องยอมรับความจริงกันอยู่ว่า ม็อบแต่ละกลุ่มที่ออกมา มีมวลชนสนับสนุนจริง รวมแล้วหลายหมื่นคน
ล่าสุดกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ เป็นหัวขบวนออกมาคัดค้านรัฐบาล ที่กำลังเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แม้ว่าจำนวนคนที่เข้าร่วมจะมีจำนวนน้อย แต่ก็สร้างความกังวลให้รัฐบาลได้อย่างมาก เพราะเห็นได้จากรัฐบาลได้จัดกำลังตำรวจรองรับ ถึง ๒๒๔ กองร้อย ยังไม่รวมกำลังเสริมที่ปิดบังไว้ในรูปแบบอื่นๆ จนวันนี้ถนนทุกสายถูกปิด ตามอำนาจ พ.ร.บ. รักษาความมั่นคง ที่รัฐบาลนำมาใช้ นอกจากนี้การที่พลพรรคเพื่อไทย ออกมาตอบโต้ฝ่ายชุมนุม ใส่ร้ายป้ายสี และนายกยิ่งลักษณ์ ออกมาเสนอทางออก ปฏิรูปประเทศไทยใหม่ เพื่อเบี่ยงเบนกระแส ซื้อเวลาให้รัฐบาล แม้ตัวทักษิณเอง ก็ออกมาเตะกระสอบทรายโชว์ ใส่ร้ายแกนนำผู้ชุมนุมว่า เป็นม็อบเงินทอน โจมตีอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า โรคจิต ให้พ่อพาไปหาหมอ อาการเหล่านี้ทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลมีความกังวลไม่ใช่น้อย ภาษาพี่เหลิมจับกัง ๑ เรียกว่า ปากกล้าขาสั่น กลัวพลังมวลชนไม่ใช่น้อย
วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ จัดเวทีใหญ่ชุมนุมถึงเช้านำพาประชาชนบุกสภา กองทัพประชาชนร่วมสนับสนุนงานนี้ผมเชื่อว่าทุ่มกันสุดตัวทั้งฝ่ายต้านและรับแพ้กันไม่ได้เลยทั้งสองฝ่าย ประชาธิปัตย์ถ้าแพ้ก็หมดน้ำยา ไม่มีที่ยืนทั้งในสภาและนอกสภาอีกต่อไปเค้าลางอย่างนี้ถามใจประชาชนผู้รักชาติจะมัวรีรออะไรกันอยู่อีกครับ มีมือมีขามีแขน ร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไทยกันเถิดครับ ถ้ารบแพ้คราวนี้อีกก็ยกประเทศให้ตระกูลชินเขาไปเถิดครับ จบสิ้นกันเสียทีให้รู้ๆกันไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น