| มือปืนส่ายก้นอำมหิต สารภาพฆ่าอ้างแค้นโดนบีบล่มวิวาห์ |
| |
หลังเผ่นไปกบดานเขมร ไม่รอดโดนจนท.ตามไปลากคอ สารภาพแค้นแม่แฟนเรียกสินสอดเพิ่มจาก 5 แสน เป็น 2 ล้าน บอกไม่มีปัญญา ก็สั่งให้เลิกคบกัน
เมื่อวันที่ 12 ส.ค. พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ภ.2 สามารถติดตามจับกุมนายยศพล แหกล้า อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนางวิมล หงษ์ทอง อายุ 53 ปี และ น.ส.เกวลิน หงษ์ทอง อายุ 28 ปี แม่ลูก ซึ่งเป็นว่าที่แม่ยายและว่าที่เจ้าสาวของตนเอง เสียชีวิตคาร้านพีเอสโมดิฟาย เลขที่ 21/14 หมู่ 1 ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี ขณะหลบหนีไปกบดานอยู่ที่ประเทศกัมพูชา กลับมาแถลงข่าว ที่บช.ภ.2 และเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุต่อไป
สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา
นายยศพล กับ น.ส.เกวลิน ซึ่งเป็นคู่หมั้นกัน และเตรียมจะเข้าพิธีแต่งงานในวันที่ 28 ส.ค.นี้ โดยในวันเกิดเหตุนายยศพล ได้นัด น.ส.เกวลิน พร้อมมารดา ออกไปนั่งคุยตกลงปัญหาเรื่องความรักและพูดคุยถึงเรื่องงานแต่งงานที่จะมีขึ้นที่ร้านเกิดเหตุ แต่จู่ๆ นายยศพลได้ชักอาวุธปืนขนาด 9 มม.ออกมากระหน่ำยิง น.ส.เกวลิน เสียชีวิตเป็นรายแรก
|
|
จากนั้นยิงนางวิมล ล้มฟุบเสียชีวิตเป็นรายที่สอง และยังเดินยักย้ายส่ายตะโพกเป็นการเยาะเย้ยคนตาย ก่อนหลบหนีไป
โดยเหตุการณ์ทั้งหมดกล้องวงจรปิดของทางร้านสามารถบันทึกไว้ได้อย่างชัดเจน และทันทีที่ภาพเหตุการณ์นี้เผยแพร่ออกไปทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมอันโหดเหี้ยม ความเลือดเย็นของคนร้าย และเรียกร้องให้ทางตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ กระทั่งสามารถจับกุมได้ในที่สุด
ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ มีรายงานว่าหลังตำรวจไทยได้ไปรับตัว นายยศพล จากเจ้าหน้าที่กัมพูชาแล้ว
ได้นำมาสอบปากคำเครียดในเซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ท่ามกลางการเฝ้ารอของสื่อมวลชนที่ไปปักหลักเกาะติดความคืบหน้าของคดีนี้อย่างใกล้ชิด คาดว่าอีกไม่นานนี้คงนำตัวออกมาแถลงข่าว
ต่อมาเวลา 14.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2
พร้อมด้วย พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.กิตติพัฒน์ พงษ์พนัส ผกก.สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายยศพล มาแถลงข่าว ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.2 ภ.จว.ชลบุรี และ สภ.เสม็ด ร่วมกับตำรวจกัมพูชา เข้าจับกุมได้ที่ประเทศกัมพูชา บริเวณห่างจากช่องตรวจคนบ้านหนองจาน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ประมาณ 140 กิโลเมตร
สอบสวน นายยศพล ให้การอ้างว่า สาเหตุที่ลงมือสังหารว่าที่เจ้าสาวและแม่ยาย เนื่องจากรู้สึกอึดอัด หึงหวง และแค้นใจหลายเรื่อง
เพราะแฟนสาวแอบไปชอบเพื่อนสนิทของตน และยังส่งข้อความคุยผ่านโปรแกรมไลน์เป็นประจำ ที่ผ่านมาเคยเตือนหลายหนแล้วแต่ก็ไม่ฟัง จึงติดตามพฤติกรรมมาโดยตลอด จนทราบว่าเพื่อนไม่ได้เล่นด้วยแต่แฟนตนเป็นคนไปติดต่อและแอบไปชอบเอง ทั้งๆ ที่จะแต่งงานกันอยู่แล้วก็ไม่เลิกพฤติกรรมแบบนี้ ที่ผ่านมาพยายามทำดีทุกอย่าง ปรนเปรอข้าวของเงินทอง ส่งเสียให้เรียนหนังสือสารพัด
นายยศพล อ้างต่อว่า นอกจากนี้ยังแค้นใจที่ว่าที่แม่ยายกีดกันความรัก และเรียกค่าสินสอดแพงมหาศาล
ซึ่งจริง ๆแล้วกำหนดการแต่งงานคือวันที่ 28 พ.ย. ไม่ใช่เดือนส.ค. ตามที่เป็นข่าว เดิมทีว่าที่แม่ยายเรียกสินสอดเป็นเงินสด 5 แสนบาท แต่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนเป็น 2 ล้านบาท ตนจึงบอกไปว่าคงไม่มีปัญญาหามาให้ ว่าที่แม่ยายจึงสั่งให้ลูกสาวเลิกกับตน และจริง ๆ แล้ววันเกิดเหตุก็ตั้งใจจะยิงว่าที่แม่ยายคนเดียว ไม่ได้คิดอยากจะยิงแฟนสาวเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยความเครียดบวกกับคับแค้นใจ จึงลงมือลั่นไกใส่ทั้งสองคน
ผู้ต้องหา ให้การอ้างอีกว่า ส่วนท่าทีส่ายก้นที่ทำลงไปหลังก่อเหตุนั้น เพราะรู้สึกว่าได้ปลดปล่อยได้ระบาย และไม่ทราบว่ามีกล้องวงจรปิดจับภาพอยู่ จึงไม่มีเจตนาที่จะเยาะเย้ยเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือใครทั้งสิ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรหรือจำเป็นเร่งด่วน และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาถือเป็นบุคคลอันตราย เนื่องจากเคยต้องคดีมาแล้วหลายครั้ง ทั้งเรื่องอาวุธปืน และยาเสพติด แต่สามารถหาทนายมาสู้จนหลุดรอดการรับโทษได้ทุกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในห้องแถลงข่าวเต็มไปด้วยความตรึงเครียด เมื่อบรรดาญาติของผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 50 คน
ได้เดินทางมายังกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 2 เพื่อรอดูหน้าและรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องวางกำลังคุ้มกันเข้ม เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ไม่เพียงเท่านี้ยังต้องล้มเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเนื่องจากมีญาติบางส่วนและประชาชนรออยู่ที่จุดเกิดเหตุหวังรุมประชาทัณฑ์เช่นกัน.
|
|
|
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น