วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

“ปู” เยือนจีน 2-3 ก.ย. เสนอขาย "ข้าว-ยาง-นมสด"เมื่อ 30 ส.ค.56



“ปู” เยือนจีน 2-3 ก.ย. เสนอขาย "ข้าว-ยาง-นมสด"
 
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

“ปู” เตรียมเยือนจีน 2-3 ก.ย. นี้ หวังเสนอขาย "ข้าว-ยาง-นมสด" ขณะที่ "โฆษกรัฐบาล" แจง 2 ปี นายกฯ เดินทาง ตปท. 42 ครั้ง ฟุ้งปี 55 เปิดทางนักธุรกิจไทยแห่ลงทุนกว่าแสนล้าน

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 2-3 ก.ย. นี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะเดินทางเยือนนครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีกำหนดการเข้าพบนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เพื่อความรู้จักในโอกาสรับตำแหน่งใหม่และจะขอความสนับสนุนจากจีนในการซื้อสินค้าเกษตรทั้งข้าว นมสด และยางพารา รวมทั้งหารือถึงการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเสนอว่าควรมีการพูดคุย 3 ฝ่าย ระหว่างไทย ลาว และ จีน เพื่อพัฒนาโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงร่วมกัน นอกจากนี้นายกฯจะเข้าร่วมงาน "ไชน่า อาเซียน เอ็กซ์โป" ครั้งที่ 10 และจะแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของความสัมพันธ์อาเซียน-จีน

นายธีรัตถ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือน ก.ย. 54 – ส.ค. 56 นายกฯ เดินทางไปเยือนต่างประเทศทั้งหมด 42 ครั้ง เป็นการเดินทางเยือนประเทศในกลุ่มอาเซียน 9 ประเทศ เยือนอย่างเป็นทางการนอกอาเซียน 26 ประเทศ และเข้าร่วมประชุมระหว่างประเทศ 19 รายการ การเดินทางเยือนประเทศต่าง ๆ เป็นการเปิดความสัมพันธ์ เปิดโอกาสความร่วมมือ ทั้งการค้าการลงทุน ในแต่ละครั้งได้นำนักธุรกิจร่วมคณะไปด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างประเทศต่อภาคเอกชนไทย ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) รายงานว่าในปี 55 จากการที่นายกฯ เดินทางไปเยือนประเทศต่าง ๆ สามารถยังชวนนักลงทุนต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้ถึง 31 โครงการ มูลค่าขอรับการส่งเสริมการลงทุนกว่า 137,770 ล้านบาท การเปิดโอกาสให้นักธุรกิจไทยได้พบกับคู่ค้าใหม่ ๆ ถือเป็นการเพิ่มผลผลิตให้กับห่วงโซ่การผลิตในประเทศได้เป็นอย่างดี ส่วนการเข้าร่วมประชุมระหว่างประเทศ ถือเป็นการทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับในเวทีระหว่างประเทศมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของประเทศไทย และยืนยันว่าการเดินทางไปประเทศต่าง ๆ ไม่ใช่การเดินทางไปเที่ยวอย่างแน่นอน.
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น