"นิพิฏฐ์" ลั่นชัด!! หากนิรโทษฯ คนผิดฐานหมิ่นฯ ม็อบมาแน่???
"นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" ยืนยันชัดเจน!! หากมีการนิรโทษกรรมให้กับคนที่มีความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ การชุมนุมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก ทางทีนิวส์ทีวี โดยระบุว่า ยังไม่ถึงจุดที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ต้องลาออก เว้นแต่สถานการณ์ทางการเมืองบีบรัดจนถึงขนาดว่า มันไม่มีทางออกของประเทศแล้ว ปชป.อาจจะต้องเสียสละ แต่ว่าในขณะนี้การทำหน้าที่ในรัฐสภาก็ยังมีความจำเป็นอยู่ ส่วนเรื่องของการชุมนุมกลุ่มต่อต้านทักษิณ เราจะชุมนุมตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 63 คือชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ถ้าถึงวันเวลาที่เราชุมนุมประท้วง แล้วปัญหาของประชาชนยังไม่ได้รับการแก้ไข การชุมนุมใหญ่ก็อาจจะเกิดขึ้น และก่อให้เกิดความรุนแรงได้ จนรัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่
ทีนิวส์ : พอจะเปิดเผยได้ไหมคะกับการเคลื่อนไหว ที่บอกว่าจะมีการรวมตัวกันทั้ง 10 กลุ่มด้วยกัน แสดงว่าก็ใกล้ที่จะมีการเปิดตัวแล้ว ในสัปดาห์นี้
นิพิฏฐ์ : หลักๆ นะครับเมื่อคืนวานที่สวนลุมฯ ก็คือเขาพร้อมที่จะเจรจากับเราแล้ว ทีนี้ก็อยู่ในระหว่างการปฏิบัติกลุ่มย่อย คือเราจะเรียกว่ากลุ่มย่อยก็ไม่ได้ มีกลุ่มที่เขาประกาศตัวชัดเจนอยู่ เรามีกลุ่มผู้ประสานงานอยู่ เขาเรียกร้อง เขาอยากจะคุยประมาณสักอาทิตย์นี้ แต่ว่าผมดูตารางการประชุมสภาแล้ว พรุ่งนี้มะรืนนี้ วันพฤหัส เราจะมีการประชุมกันตั้งแต่เช้า มาประชุมกันตั้งแต่ 4-5ทุ่ม ถ้าเกิดว่าวันศุกร์ไม่มีการประชุมอะไร ผมคิดว่าวันศุกร์มันน่าจะมีการพูดคุยกันได้
ทีนิวส์ : การพูดคุยที่ว่านี้ เป็นการกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ใช่ไหมคะ
นิพิฎฐ์ : คือผมคิดว่า เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่า เราจะตั้งผู้ประสานงาน ดำเนินกิจกรรมภายในกลุ่ม และเราก็จะพยายามหาสมาชิกกันในกลุ่มให้มากขึ้น และเมื่อถึงวันเวลาที่เราจำเป็นต้องจับมือกัน เราก็ค่อยส่งสัญญาณมาว่าเราทำงานร่วมกัน
ทีนิวส์ : ที่คุณนิพิฏฐ์พูดแบบนี้หมายความว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีแนวโน้มที่จะลาออกจากการเป็นสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)อย่างนั้นด้วยหรือเปล่า
นิพิฏฐ์ : อย่าคิดว่า เป็นพรรคปชป. แต่เป็นเรื่องของส.ส.กลุ่มหนึ่ง ทำงานการเมืองเรื่องนี้อยู่ ส่วนปัญหาที่บอกว่าจะดำเนินไปถึงการลาออกหรือเปล่า ผมบอกได้เลยว่า ยังไม่ถึงจุดๆ นั้น เว้นแต่สถานการณ์ทางการเมืองมันบีบรัดจนถึงขนาดว่า มันไม่มีทางออกของประเทศแล้ว เราจะเสียสละ แต่ว่าในขณะนี้การทำหน้าที่ในรัฐสภาก็ยังมีความจำเป็นอยู่
ทีนิวส์ : ที่คุณนิพิฏฐ์บอกเอาไว้ว่า จะเป็นการเคลื่อนไหว อย่างชนิดที่ว่าไม่เคยมีครั้งไหนที่เคยทำมาก่อน พอจะบอกได้ไหมคะว่า การเคลื่อนไหวที่เหมือนกับครั้งก่อนนั้นหมายความว่า จะไม่มีมวลชนออกมาปิดถนน จะไม่มีการเคลื่อนไหวของบรรดามวลชนหรืออย่างไร
นิพิฏฐ์ : คือเรายังยืนยันนะครับว่า เราจะชุมนุมตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 63 คือการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ แต่ว่าเราจะพยายามทำให้รัฐบาลเห็นว่า ผู้ที่มาชุมนุมนั้นอาจจะมีเงินแสนสองแสน และจะไม่มีการเผาบ้าน เผาเมือง ทำให้ประชาชนต้องบาดเจ็บล้มตาย แต่ว่าถ้ามันจะมีปัญหาความขัดแย้งหรือการทะเลาะกัน หรือมีความรุนแรงต่อกัน เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องมากำจัด ต้องมาควบคุม แต่เราจะบอกกับทางรัฐบาลว่า กลุ่มของเราที่จะมา ไม่ว่าจะมีเงินกี่แสนก็ตาม จะไม่ทำให้ประชาชนต้องเดือดร้อน และจะไม่ทำให้ประชาชนต้องบาดเจ็บล้มตาย
ทีนิวส์ : มีอะไรพิเศษที่คุณนิพิฏฐ์อยากจะบอกบ้างไหมคะ กับการเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้น
นิพิฏฐ์ : คือถ้าเราเคลื่อนไหว แล้วได้ประชาชนมาเป็นแสน รัฐบาลต้องคิดแล้ว รัฐบาลต้องปรับปรุงตัวแล้ว เราบอกรัฐบาลว่า เราไม่ต้องการจะล้มรัฐบาลนะ เพียงแต่ว่าเสียงส่วนหนึ่งในประเทศเป็นแบบนี้ ซึ่งอาจจะเป็นเสียงส่วนใหญ่ก็ได้ วันนี้เขาลุกขึ้นแล้วมาบอกว่า รัฐบาลต้องปรับปรุงตัว ถ้ารัฐบาลไม่ปรับปรุงตัว มันอาจจะมีปัญหาความขัดแย้ง เกิดหายนะก็เป็นไปได้ เหมือนอย่างที่หลายๆ ประเทศกำลังเป็นอยู่ ณ ขณะนี้ รัฐบาลต้องปรับปรุงตัวเอง เช่น อยากได้เสียงข้างมาก ไปเป็นผู้นำฝ่ายค้าน รัฐบาลต้องปกป้องเสียงข้างน้อย ตอนนี้เสียงข้างน้อยไปไหนไม่ได้เลย ถูกรังควาน ถูกรังแก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เรายังไปปราศรัยไม่ได้เลย เป็นคนของรัฐบาลบ้าง เป็นวงในบ้าง รัฐบาลมองไม่เห็น รัฐบาลควรจะดูแลประชาชนพูดกันอย่างเสมอภาค ไม่ใช่บอกว่า ตรงไหนไม่เรียบร้อย ยังไม่พัฒนา ตรงไหนเรียบร้อยถึงไปพัฒนา อย่างนี้ไม่ใช่รัฐบาลระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเราจะสู้กับรัฐบาลเหล่านี้ครับ
ทีนิวส์ : ที่คุณนิพิฏฐ์บอกเอาไว้ว่า รวบมวลชนได้เป็นแสน มั่นใจใช่ไหมคะว่า จะสามารถรวบรวมมวลชนได้มากขนาดนั้น
นิพิฏฐ์ : คือในขั้นต้น ในบรรดาที่เราพูดคุยกัน ไม่เกี่ยวกับพรรคนะครับ เราบอกหลายๆ กลุ่มทั้งหลายที่มีอยู่ตอนนี้ว่า เราจะเริ่มต้น start ได้เลย เราจะเริ่มต้นที่ 100,000 คน แต่ว่ากลุ่มทั้งหลายกองทัพประชาชนที่สวนลุม 20,000 คน ก็รวมเป็น 120,000 คน กลุ่มไทยสปริงมาเติมให้เราเท่าไหร่ กลุ่มไทยรักสงบเติมให้อีก แต่เราจะเริ่มต้นที่ 100,000 คน
ทีนิวส์ : แต่ว่าทางกลุ่มของพรรคปชป. ทางกลุ่มที่สวนลุมฯ ทางกลุ่มหน้ากากขาว ก็ดูเหมือนจะเป็นกลุ่มเดียวกันนะคะ
นิพิฏฐ์ : ก็แล้วแต่ครับ ไม่มีปัญหา ส่วนกองทัพประชาชน หรือพันธมิตรกลุ่มอื่น เขาก็จะเติมให้เราอีกหลายหมื่นคนครับ
ทีนิวส์ : ทีนี้สถานการณ์มาจนถึงวันนี้ ทางคุณนิพิฏฐ์เองมองว่า มันถึงจุดที่จะมีการเคลื่อนไหวหรือยังคะ
นิพิฏฐ์ : ยังครับ ผมบอกได้เลย สมมุติออกกกฎหมายนิรโทษกรรม เอาประเด็นแรกก่อนนะครับ ถ้าเรามีการนิรโทษกรรมให้กับคนที่มีความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเมื่อไหร่ การชุมนุมเกิดขึ้นแน่นอน
ทีนิวส์ : นั่นหมายความว่า จุดใหญ่ใจความอยู่ที่กฎหมายนิรโทษกรรมเป็นหลัก ใช่ไหมคะ
นิพิฏฐ์ : ในขณะนี้เป็นเรื่องของกฎหมายนิรโทษกรรมครับ แต่ว่ารัฐบาลได้ไปสร้างเงื่อนไขอื่นขึ้นมา ซึ่งมีความจำเป็นและมีความรุนแรงพอที่เราจะคุยกันได้ แต่ในขณะนี้เราดูกฎหมายนิรโทษกรรมก่อน ซึ่งผมคิดว่าได้ผลนะครับ เพราะว่าสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลเขาได้เลื่อนกฎหมายนิรโทษกรรมออกไปก่อน
ทีนิวส์ : และตอนนี้ทางรัฐบาลเองก็ได้ลากกฎหมายนิรโทษกรรมยาวออกไป และนั่นหมายความว่า เรื่องของการเคลื่อนไหว เรื่องของการชุมนุมต่างๆ ก็คงจะไม่มี ก็คงจะรอไปก่อน
นิพิฏฐ์ : ก็ต้องรอการชุมนุมนี้ก่อนครับ แต่ผมคิดว่า รัฐบาลลากยาว เรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมออกไป เป็นเรื่องที่พรรคปชป.กดดันมากครับ ถ้าคุณทำอย่างนี้ เราชุมนุมแน่ เมื่อก่อนเขารีบกว่านี้อีกนะครับ ต้องจบภายในวันนั้น วันนี้ จะถอนไม่ถอน วันนี้เขาก็เลื่อนออกไปเรื่อยๆ
ทีนิวส์ : และกับสถานการณ์ของบรรดาชาวเกษตรกร ชาวสวนยาง คิดว่า มันจะเป็นตัวที่ทำให้เกิดปัญหาอะไรขึ้นมาในบ้านเมืองไหมคะ ที่จะมีการปิดถนนกันในช่วงต้นเดือนหน้า
นิพิฏฐ์ : ผมคิดว่า ถ้าถึงวันเวลาที่เราชุมนุมประท้วง แล้วก็ปัญหาของประชาชนยังไม่ได้รับการแก้ไข พี่น้องเกษตรกรที่เดือดร้อนสามารถมาเติมปริมาณในการชุมนุมให้เราได้มาก พี่น้องเกษตรกรของเราผมคิดว่า น่าจะเกินแสนครับ ผมคิดว่า การเติมพลังของกลุ่มมวลชน ที่มีความไม่พอใจรัฐบาลอย่างสูง อย่างเช่น พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง ค่อนข้างจะเป็นอันตรายกับรัฐบาลในการชุมนุม แต่ว่าถ้าเป็นการชุมนุมทางการเมืองอย่างเดียว เราก็สามารถที่จะสกัดกั้นควบคุมการชุมนุมได้ที่มีความรุนแรง และอีกอย่างพี่น้องชาวสวนยาง ถ้าเขามาเติมให้เราเมื่อไหร่ พลังความเคียดแค้น พลังความโกรธ พลังความไม่พอใจที่มีต่อรัฐบาลที่มันมีอยู่แล้ว อาจจะก่อให้เกิดความรุนแรงได้ รัฐบาลต้องรีบแก้ปัญหาความเดือดร้อนเหล่านี้เสียก่อน แต่ถ้ารัฐบาลไม่แก้ การชุมนุมใหญ่ก็เกิดขึ้น ผมคิดว่า รัฐบาลอาจจะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น