ก่อสร้างไทยกระอัก!! ค่าแรง 300 22-08-13 17:07
สมาคมอุตก่อสร้าง ยื่น 5 ข้อ ร้องรัฐแก้ปัญหา หลังก่อสร้างไทยกระอัก ค่าแรง 300 บาท ทำแรงงานขาดแคลน
วันนี้ (22 ส.ค.56) นายอังสุรัสมิ์ อารีกุล นายกสมาคมอุต ก่อสร้างไทย เผยในงานสัมมนา อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยกับการปรับตัวค่าแรง 300บาท และการขาดแคลนแรงงาน ว่าขณะนี้ทางสมาคม ได้รับคำร้องเรียนจากสมาชิกและผู้ประกอบการก่อสร้างในไทยเป็นจำนวนมาก ถึงผลกระทบจากการขึ้นค่าแรง300บาททั่วประเทศ ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนแรงงาน และทำให้ต้นทุนการก่อสร้างสูงขึ้น ซึ่งปัญหานี้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หลังรัฐบาลประกาศใช้ค่าแรง300 ทั่วประเทศในช่วงต้นปี และจากการศึกษาข้อร้องเรียนก้พบว่า ปัญหาดังกล่าวมีผลกระทบต่อเนื่องโดยเฉพาะกับโครงการที่มีการประมูลไปก่อนหน้าที่จะมีการปรับค่าแรง ซึ่งหากรัฐบาลไม่เร่งหามาตรการแก้ไขอย่างจิงจังมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนับล้านล้านบาท ก็อาจจะได้รับผลกระทบจนอาจทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจรุนแรง ทางสมาคมจึงเรียกร้องให้รัฐบาลให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นเป็นมาตรการเร่งด่วน 5 ข้อ ดังนี้
1.ให้ภาครัฐลดเพดานการหัก Escalation Factor จาก_+ 4% เป็น_+2%เป็นการชั่วคราว เพื่อช่วยเพิ่มเงินทุนหมุนเวียน
2.ขอให้ผู้ประกอบการก่อสร้างสามารถเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวไปยังโครงสร้างต่างๆ โดยสามารถเคลื่อนย้ายได้ทั่วประเทศ
3.ขอขยายอายุสัญญางานก่อสร้างภาครัฐทั่วประเทศ 180วัน เพราะผลกระทบด้านแรงงานจึงทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถส่งมอบงานตามที่ระบุในเงื่อนไขได้
4.ขอให้หน่วยงานราชการใช้ค่าปรับรายวันในอัตรารายวันในอัตราตายตัว0.01%เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ
5.ให้ผู้ประกอบการก่อสร้างสามารถประกันผลงานของตนเองได้เมื่อการก่อสร้างนั้นผ่านไปแล้ว6เดือน โดยไม่ต้องใช้ค้ำประกันจากธนาคาร ซึ่งมาตรการเร่งด่วนทั้ง5ข้อนี้ขอให้มีผลกับสัญญาที่มีนิติสัมพันธ์กับภาครัฐ ช่วงระหว่างวันที่ 1เม.ย 55-22เม.ย 56 ทั้งนี้ทางสมาคมจะมีการนัดหมายเพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องกับนายกรัฐมนตรีต่อไป และเชื่อว่าหากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทั้ง5ข้อ จะส่งผลให้ผู้ประกอบการก่อสร้างมีความคล่องตัวและสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานรวมถึงแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีคุณภาพ ขณะที่ รศ.ดร.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาแรงงาน สถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือTDRI ได้ประเมินว่าในอีก5ปีข้างหน้า อุตสาหกรรมก่อสร้างอาจจะทรงกับทรุดถ้าหากไม่มีโครงการอภิมหาโปรเจค ซึ่งในปัจจุบันมีการผันผวนมาก และน่าจะมีแนวโน้มถดถอยในระยะอีก4-5ปีข้างหน้า ขณะที่แรงงานระดับล่างยังมีแนวโน้มที่ทรงตัว และในระดับทักษะ มีอนวโน้มที่คงที่หรืออาจจะลดลง เมื่อมีการปรับขึ้นค่าแรง300 บาททั่วประเทศนั้น กลุ่มแรงงานระดับล่างได้หดตัวไปมากกว่า 4แสนคน หรือคิดเป็น2%
2.ขอให้ผู้ประกอบการก่อสร้างสามารถเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวไปยังโครงสร้างต่างๆ โดยสามารถเคลื่อนย้ายได้ทั่วประเทศ
3.ขอขยายอายุสัญญางานก่อสร้างภาครัฐทั่วประเทศ 180วัน เพราะผลกระทบด้านแรงงานจึงทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถส่งมอบงานตามที่ระบุในเงื่อนไขได้
4.ขอให้หน่วยงานราชการใช้ค่าปรับรายวันในอัตรารายวันในอัตราตายตัว0.01%เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ
5.ให้ผู้ประกอบการก่อสร้างสามารถประกันผลงานของตนเองได้เมื่อการก่อสร้างนั้นผ่านไปแล้ว6เดือน โดยไม่ต้องใช้ค้ำประกันจากธนาคาร ซึ่งมาตรการเร่งด่วนทั้ง5ข้อนี้ขอให้มีผลกับสัญญาที่มีนิติสัมพันธ์กับภาครัฐ ช่วงระหว่างวันที่ 1เม.ย 55-22เม.ย 56 ทั้งนี้ทางสมาคมจะมีการนัดหมายเพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องกับนายกรัฐมนตรีต่อไป และเชื่อว่าหากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทั้ง5ข้อ จะส่งผลให้ผู้ประกอบการก่อสร้างมีความคล่องตัวและสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานรวมถึงแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีคุณภาพ ขณะที่ รศ.ดร.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาแรงงาน สถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือTDRI ได้ประเมินว่าในอีก5ปีข้างหน้า อุตสาหกรรมก่อสร้างอาจจะทรงกับทรุดถ้าหากไม่มีโครงการอภิมหาโปรเจค ซึ่งในปัจจุบันมีการผันผวนมาก และน่าจะมีแนวโน้มถดถอยในระยะอีก4-5ปีข้างหน้า ขณะที่แรงงานระดับล่างยังมีแนวโน้มที่ทรงตัว และในระดับทักษะ มีอนวโน้มที่คงที่หรืออาจจะลดลง เมื่อมีการปรับขึ้นค่าแรง300 บาททั่วประเทศนั้น กลุ่มแรงงานระดับล่างได้หดตัวไปมากกว่า 4แสนคน หรือคิดเป็น2%
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น