โถ..คนสิบกว่าคนปิดประตูคุยกันแล้วให้หกสิบกว่าล้านคนปรองดอง น่าเอ็นดูจังความคิดวันอังคาร ที่ 20 สิงหาคม 2556
ยุคประชาธิปไตยบานเบิกทะโร่โท่ งดงามราวเห็ดขี้ควายขนาดมหึมา หอมหวลทวนลมประดุจดั่งดอกอุตพิดที่กำลังสยายกลีบเบ่งบาน ยุคที่บ้านนี้เมืองนี้ปกครองโดยประชาชนมือหนึ่งกำฟาง อีกมือประทับขวดน้ำมันล้านลิตรส่งควายธนูฝูงพอเหมาะขึ้นมาเป็นใหญ่ในแผ่นดิน !
เผยปิดประตูเปิดเวทีปฏิรูปการเมือง
'พงศ์เทพ' เผยเวทีปฏิรูปการเมืองไม่ถ่ายสด-ไม่ให้สื่อฟัง เปิดวาระประชุม ครม.ชงยกเลิก-แก้ไข กฎหมายยุคสนช. 221 ฉบับ
20ส.ค.2556 การจัดเวทีปฏิรูปการเมืองทางออกประเทศ ที่จะมีขึ้นครั้งแรกในวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคมนั้น นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้รับผิดชอบเรื่องการจัดเวทีปฏิรูปการเมือง เปิดเผยว่า เวทีนี้จะไม่มีรูปแบบตายตัว แต่จะเปิดโอกาสให้ทุกคนที่ตอบรับได้แสดงความเห็นเต็มที่ และจะไม่มีการถ่ายทอดสด ในส่วนของสื่อมวลชนจะเปิดโอกาสให้เก็บภาพบรรยากาศช่วงแรกเท่านั้น จะไม่อนุญาตให้สื่อเข้าฟังด้วย เพราะอยากให้ผู้เข้าร่วมแต่ละคนได้แสดงความเห็นได้เต็มที่ โดยจะประชุมตั้งแต่เช้าถึงเย็น ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งงานนี้จะไม่มีผู้ดำเนินรายการ แต่ตนกับนายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ และรมช.เกษตรฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมรับฟังด้วย
“นายกฯ ตั้งใจว่าจะร่วมรับฟังอยู่ด้วยตลอด ทั้งเช้า-บ่าย แต่ผมไม่แน่ใจว่าระหว่างนั้นนายกฯ จะมีภารกิจอะไรหรือไม่” นายพงศ์เทพ กล่าว และบอกว่า บทบาทของนายกฯ ในเวทีจะเป็นการเข้าร่วมรับฟัง ไม่ใช่ลักษณะของการเป็นประธานที่ประชุม เพราะนายกฯ อยากจะเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่มากกว่า
วรชัยเล็งอภิปรายยุบส.ว.สรรหา
นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราที่มาของ ส.ว. กล่าวว่า ในวันที่ 20 สิงหาคม ตนในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย จะอภิปรายสงวนความเห็นให้ ส.ว.สรรหา ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ว.ทันที หลังจากได้ ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้ง 200 คน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีกรรมาธิการหลายคนระบุว่าต้องการให้ ส.ว.สรรหา ดำรงตำแหน่งจนหมดวาระไปเอง แต่ตนยืนยันว่าในเมื่อประเทศเป็นประชาธิปไตย และได้ ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน ก็ไม่จำเป็นต้องมีส.ว.สรรหาอีกต่อไป คาดว่า ส.ส.ในที่ประชุมจะสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว
เปิดวาระครม.ชงปัดฝุ่นก.ม.ยุคสนช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันอังคารที่ 20 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามปกติ โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมแทนนายกรัฐมนตรี ที่ติดภารกิจเดินทางไปเยือนประเทศทาจิกิสถานและปากีสถาน ในระหว่างวันที่ 19-21สิงหาคม โดยวาระในการพิจารณาที่น่าสนใจคือนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) จะเสนอวาระการทบทวนกฎหมาย ที่ตราโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) 2550 ตามที่ ครม.เคยมีมติเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2555 มอบหมายให้ คปก.วิเคราะห์กฎหมายที่ตราขึ้นในสมัย สนช. ว่าด้วยการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ อย่างไร ซึ่งในวันนั้นคปก.ได้รายงานว่า สนช.2550 ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2549 ภายหลังเหตุการณ์รัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 จนถึงวันที่มีการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 รวมเป็นระยะเวลาปีเศษ ได้ผ่านความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติออกมาใช้บังคับเป็นกฎหมาย จำนวน 221 ฉบับ โดยแบ่งเป็น พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 6 ฉบับ พ.ร.บ.จำนวน 215 ฉบับ ซึ่ง คปก.ถือว่าสนช.ได้ผ่านกฎหมายเป็นจำนวนมาก หากเทียบกับระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ของ สนช. ประกอบกับบางฉบับมีความไม่เหมาะสม ควรมีการทบทวน เพื่อแก้ไขปรับปรุงหรือยกเลิก
โดยสาระสำคัญของวาระที่นายพงศ์เทพเสนอในการประชุม ครม. คือ คปก.ได้จำแนกกฎหมายที่ตราขึ้นโดย สนช.ออกเป็น 3 ประเด็น ได้แก่ 1.กฎหมายที่ควรปรับปรุงแก้ไขในสาระสำคัญจำนวน 32 ฉบับ 2.กฎหมายที่ควรให้ยกเลิกจำนวน 2 ฉบับ และ 3.กฎหมายที่ควรให้คงไว้เช่นเดิม แต่อาจมีการพิจารณาทบทวนเพื่อแก้ไขในภายหลัง จำนวน 55 ฉบับ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบความเห็นของหน่วยงานราชการ พบว่า มีเพียงกระทรวงกลาโหม กระทรวงพลังงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานศาลปกครองเท่านั้น ที่ไม่มีความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทบทวนกฎหมายที่ตราโดย สนช. และไม่ต้องแก้ไขทบทวน โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหมระบุว่า “กฎหมายของ กห.ดังกล่าวมีความเหมาะสมแล้ว” ขณะที่หน่วยงานอื่นๆ นั้นมีความเห็นตรงกัน คือ ให้แก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่ออกโดยสนช.
komchadluek.
วรชัยเล็งอภิปรายยุบส.ว.สรรหา
นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราที่มาของ ส.ว. กล่าวว่า ในวันที่ 20 สิงหาคม ตนในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย จะอภิปรายสงวนความเห็นให้ ส.ว.สรรหา ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ว.ทันที หลังจากได้ ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้ง 200 คน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีกรรมาธิการหลายคนระบุว่าต้องการให้ ส.ว.สรรหา ดำรงตำแหน่งจนหมดวาระไปเอง แต่ตนยืนยันว่าในเมื่อประเทศเป็นประชาธิปไตย และได้ ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน ก็ไม่จำเป็นต้องมีส.ว.สรรหาอีกต่อไป คาดว่า ส.ส.ในที่ประชุมจะสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว
เปิดวาระครม.ชงปัดฝุ่นก.ม.ยุคสนช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันอังคารที่ 20 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามปกติ โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมแทนนายกรัฐมนตรี ที่ติดภารกิจเดินทางไปเยือนประเทศทาจิกิสถานและปากีสถาน ในระหว่างวันที่ 19-21สิงหาคม โดยวาระในการพิจารณาที่น่าสนใจคือนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) จะเสนอวาระการทบทวนกฎหมาย ที่ตราโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) 2550 ตามที่ ครม.เคยมีมติเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2555 มอบหมายให้ คปก.วิเคราะห์กฎหมายที่ตราขึ้นในสมัย สนช. ว่าด้วยการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ อย่างไร ซึ่งในวันนั้นคปก.ได้รายงานว่า สนช.2550 ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2549 ภายหลังเหตุการณ์รัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 จนถึงวันที่มีการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 รวมเป็นระยะเวลาปีเศษ ได้ผ่านความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติออกมาใช้บังคับเป็นกฎหมาย จำนวน 221 ฉบับ โดยแบ่งเป็น พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 6 ฉบับ พ.ร.บ.จำนวน 215 ฉบับ ซึ่ง คปก.ถือว่าสนช.ได้ผ่านกฎหมายเป็นจำนวนมาก หากเทียบกับระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ของ สนช. ประกอบกับบางฉบับมีความไม่เหมาะสม ควรมีการทบทวน เพื่อแก้ไขปรับปรุงหรือยกเลิก
โดยสาระสำคัญของวาระที่นายพงศ์เทพเสนอในการประชุม ครม. คือ คปก.ได้จำแนกกฎหมายที่ตราขึ้นโดย สนช.ออกเป็น 3 ประเด็น ได้แก่ 1.กฎหมายที่ควรปรับปรุงแก้ไขในสาระสำคัญจำนวน 32 ฉบับ 2.กฎหมายที่ควรให้ยกเลิกจำนวน 2 ฉบับ และ 3.กฎหมายที่ควรให้คงไว้เช่นเดิม แต่อาจมีการพิจารณาทบทวนเพื่อแก้ไขในภายหลัง จำนวน 55 ฉบับ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบความเห็นของหน่วยงานราชการ พบว่า มีเพียงกระทรวงกลาโหม กระทรวงพลังงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานศาลปกครองเท่านั้น ที่ไม่มีความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทบทวนกฎหมายที่ตราโดย สนช. และไม่ต้องแก้ไขทบทวน โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหมระบุว่า “กฎหมายของ กห.ดังกล่าวมีความเหมาะสมแล้ว” ขณะที่หน่วยงานอื่นๆ นั้นมีความเห็นตรงกัน คือ ให้แก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่ออกโดยสนช.
komchadluek.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น