วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556

คนขับรถตู้ไล่ทัวร์จีนลงกลางทาง อ้างจุกจิกสารพัด เมื่อ 14 ส.ค.56



คนขับรถตู้ไล่ทัวร์จีนลงกลางทาง อ้างจุกจิกสารพัด
 

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 13 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจาก อาสาสมัครกู้ภัยตำบลตาเบา อ.ปราสาทว่า 
มีนักท่องเที่ยวชาวจีน จำนวน 5 คน ลงไล่ลงจากรถตู้ทะเบียน ฮภ.558 กทม. อีกทั้งคนขับยังใช้มีดจะทำร้ายที่บริเวณหน้าหน่วยทหารพัฒนาเคลื่อนที่ 54 ต.ตาเบา จึงขอให้ติดตามรถตู้คันดังกล่าวที่กำลังวิ่งเข้าสู่อำเภอปราสาท


ต่อมาสายตรวจได้สกัดจับรถตู้คันดังกล่าวได้ที่สี่แยกปราสาท 
ตรวจสอบแล้วทราบว่าเป็นของบริษัท เบส อมตะทัวร์แอนทราเวล จำกัด มีนายปรีชา หวังจูนกลาง เป็นคนขับอยู่บ้านเลขที่ 378/1 หมู่ 6 ต.หนองหว้า อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว พร้อมด้วย ล่ามแปลภาษา ชาวกัมพูชา นายเจีย ชก ไท จึงนำตัวมายัง สภ.ปราสาท ส่ง ร.ต.ท.ทัศนันท์ อินทร์งาม พนักงานสอบสวนสอบปากคำ 
ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเป็นผู้เสียหายทั้ง 5 คนได้เดินทางมา ที่ สภ.ปราสาท เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายปรีชา คนขับรถในข้อหา ข่มขู่ และไล่ผู้โดยสารลงจากรถ จากนั้นจึงสั่งปรับคนขับรถก่อนให้ทั้ง 2 ฝ่ายลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน 

อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวชาวจีน ทั้ง 5 คน ยังต้องการให้ นายปรีชา ขับรถพาไปส่งที่พัทยา จ.ชลบุรี ตามที่ตกลงไว้แต่แรก แต่ทั้งคนขับรถ และล่ามชาวกัมพูชาปฏิเสธ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย แต่ต่อมาผู้บริหาร บริษัทได้โทรศัพท์สั่งให้ไปส่งนักท่องเที่ยว ปัญหาจึงยุติ

นายเจีย ชก ไท ล่ามชาวกัมพูชา เผยว่า นักเที่ยวชาวจีนทั้ง 5 คน เดินทางมาจากประเทศจีน 3 คน มาจาก กัมพูชา อีก 2 คน
มานัดเจอกันที่ประเทศไทย และเหมารถพากันไปเที่ยว จ.สุรินทร์ และ ศรีสะเกษ ออกเดินทาง จาก กทม. เมื่อวันที่ 12 ส.ค. แต่พอเข้าในพื้นที่บังคับให้คนขับรถย้อนไปย้อนมาระหว่าง 2 จังหวัด อีกทั้งจุกจิกสารพัด จึงไม่อยากให้บริการอีกต่อไป


ขณะที่นายปรีชา หวังจูนกลาง พนักงานขับรถตู้ ท่องเที่ยวบอกว่า นักท่องเที่ยวจีน ทั้ง 5 คน เรื่องมาก ตั้งแต่ออกเดินทางเลย 
จะไปตลอดแบบไม่ต้องพัก จะย้อนไป และย้อนมา จนรู้สึกรำคาญ ว่าจะเอาอย่างไหนกันแต่ ก่อนเกิดเหตุ ให้ลงจากรถ เพราะเหลือทนกับพฤติการณ์ คือจะให้หาร้านอาหารหรู ๆ ตนก็บอกว่า ต่างอำเภอก็มีไม่หรูหรอก มีตามสภาพ เขาก็ไม่ฟัง และยังจะมาขอสูบบุหรี่บนรถอีก พอไม่อนุญาตก็มาตบหัวและบังคับให้จอดรถ พอไม่ยอมก็จะทำร้าย จึงต้องไปหยิบมีดปลอดผลไม้ มาถือเพื่อป้องกันตัว
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น