วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ปชป. ลั่นจัดม็อบโต้รุ่ง!! ต้านนิรโทษฯ ย้ำต้องบอกความจริงปชช.ให้มากที่สุดก่อนสภาเปิดเมื่อ 6 ส.ค.56



ปชป. ลั่นจัดม็อบโต้รุ่ง!! ต้านนิรโทษฯ ย้ำต้องบอกความจริงปชช.ให้มากที่สุดก่อนสภาเปิด
ปชป. ลั่นจัดชุมนุมปราศรัยกันตั้งแต่หัวค่ำยังสว่าง เพื่อต้องการให้ข้อมูลกับปชช.ทุกกลุ่มให้มากที่สุด ก่อนประชุมสภาจะเริ่ม 
      

          วันนี้ ( 6 สิงหาคม ) นายองอาจ  คล้ามไพบูลย์  ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวกับสำนักข่าวทีนิวส์  โดยเปิดเผยว่า  พรรคได้จัดชุมนุมคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่บริเวณแยกอุรุพงษ์จนถึงพรุ่งนี้เช้า  ก่อนจะเข้าทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่  ซึ่งเรียกว่าเป็นม็อบโต้รุ่ง  โดยมีการปราศรัยกันตั้งแต่หัวค่ำยังสว่าง  แนวความคิดนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องการสื่อข้อมูลให้กับประชาชนได้รับทราบมากที่สุด  เพราะรัฐบาลได้ประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่า  ไม่อนุญาตให้มีการถ่ายทอดสดในสภา
 

สำราญ  :  ก็ต้องถามกันตรงๆ นะครับ  ประชาธิปัตย์บอกว่าจะจัดม็อบโต้รุ่ง  ปราศรัยกันตั้งแต่หัวค่ำยังสว่าง  แนวความคิดนี้เราต้องการอะไร
องอาจ  :  ก็ตั้งแต่ 4 โมงเย็นไปจนถึงเช้าสว่าง  ก็คงต้องการที่จะใช้เวลาในการที่จะให้ข้อมูลกับปชช.ให้มากที่สุด  เพราะว่าทางสภาเขาไม่ยอมให้มีการถ่ายทอดสดที่เราจะอภิปรายกันในสภา  อันที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ  สภาควรจะจัดให้มีการถ่ายทอดสด  และควรจะมีความจริงใจว่า  กฎหมายนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องอำพรางช่วยเหลือใครต่อใคร  เปิดอภิปรายในสภา  มีการถ่ายทอดสด  แต่ปรากฏว่ารัฐบาลก็ได้ออกมาพูดอย่างชัดเจนว่า  ไม่อนุญาตให้มีการถ่ายทอดสด  รัฐบาลมองว่าเป็นเรื่องกฎหมายธรรมดาไม่มีอะไร  เพราะฉะนั้นเราคิดว่าก่อนจะถึงวันที่ 7 ส.ค. ให้พี่น้องปชช.ได้รับทราบข้อมูลเท่าที่เราจะทำได้  ก็จะเปิดการถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมทีวีบลูสกาย  ทางทีนิวส์ทีวี  แล้วก็ทุกๆ ช่องทางเท่าที่เราสามารถจะทำได้    
สำราญ  :  ก็ตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงสว่างเลย  แล้วตกลงว่าทางวิปรัฐบาลเขาชัดเจนแล้ว  ว่าให้มีการถ่ายทอดสดทางช่อง 11 ทางไหน   
องอาจ  :  คือผมได้เรียกร้องไปเมื่อวันอาทิตย์  ผมก็ออกมาแถลงข่าว  ถ้ารัฐบาลมีความเชื่อมั่นว่า  กฎหมายนี้เป็นเรื่องที่ดีต่อประเทศชาติ  ต่อการปรองดอง  รัฐบาลก็ควรจะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้รับฟังด้วย  ว่ามันจะนำไปสู่ความปรองดองอย่างไร  มันจะช่วยใคร หรือไม่ช่วยใคร  ยังไงอะไรต่างๆ  เพราะว่าหลังจากวันอาทิตย์มาแล้ว  รัฐบาลเขาก็ออกมาประกาศยืนยันที่ผมเรียกร้องให้  มีการถ่ายทอดสด  แต่เขาไม่พร้อมที่จะปฏิบัติ  เขาก็จะให้ฟังทางวิทยุรัฐสภาเป็นหลัก           
สำราญ  :  อาจจะมีคนตั้งคำถามสวนกลับมาก็ได้  เราก็เปิดเวทีผ่าความจริงมากว่า 60 เวทีแล้ว  ข้อมูลยังไม่เพียงพออีกหรือครับ  ทำไมต้องโต้รุ่งด้วย
องอาจ  :  ผมคิดว่าข้อมูลคนฟังก็มีหลายกลุ่มนะครับ  ผมคิดว่าเราก็พยายามที่จะให้ข้อมูลเข้าไปถึงคนทุกๆ กลุ่ม  ให้ได้มากที่สุดก่อนวันสำคัญนั่นก็คือวันที่ 7 สิงหาคม         
สำราญ  :  แล้วรูปแบบการปราศรัยคืนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง  คืนนี้จะมีดนตรีสลับไหม  หรือว่าจะมีบันเทิงสันทนาการกัน  หรือมีอะไรที่ surprise กัน 
องอาจ  :  ก็มีสลับกัน  มีดนตรีบ้าง  มีการปราศรัย  แล้วก็มีการแสดงอื่นๆ มาสลับบ้าง  เพราะว่าทั้งคืนถ้าเกิดปราศรัยอย่างเดียวก็มีความเหน็ดเหนื่อยพอสมควร โดยเฉพาะคนฟังนะครับ  ส่วนคนพูดยังไม่ค่อยเท่าไหร่  เพราะเราสลับสับเปลี่ยนคนพูด  และมาฟังทั้งที่เวทีปราศรัยเอง  หรือว่าทั้งที่อยู่หน้าจอทีวี  เราก็คงจะต้องสลับสับเปลี่ยนให้มันสามารถติดตามได้ตลอด    
สำราญ  :  คุณองอาจคิดว่า  ส.ส.คืนนี้  จะไปกันเยอะไหม  หรือจะไปกันยกพรรคเลยหรือเปล่า
องอาจ  :  ก็ไปกันมากที่สุดครับ  อาจจะมีบางส่วนที่เขาต้องเตรียมตัวที่จะปราศรัยในทันทีที่สภาเปิด
สำราญ  :  อภิปรายวันพรุ่งนี้
องอาจ  :  ใช่ครับ  ก็อาจจะต้องให้เขานอนพักผ่อนก่อน  ส่วนพวกที่ได้รับมอบหมายให้อภิปรายในสภาตอนหัวค่ำ  คืนนี้ก็อาจจะต้องไปอยู่กับเราและก็พอตอนกลางวันก็อาจจะไปนอน  พอตอนกลางคืนก็อาจจะต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่ในสภา  แล้วก็ในสภาเราพยายามอภิปรายกันให้ได้มากที่สุด  ต้องยกมืออภิปรายในเรื่องนี้  เพราะเราถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญของบ้านเมืองในขณะนี้นะครับ  อย่างที่คุณสำราญทราบดี  รัฐบาลก็บริหารงานไปตามปกติ  แก้ไขปัญหาปชช.ได้บ้าง  ไม่ได้บ้าง  รัฐบาลก็สามารถทำงานได้  แต่พอมีเรื่องนี้ขึ้นมา  รัฐบาลจะมาบอกว่า  ทำให้เป็นเรื่องเล็กน้อยไม่มีความสำคัญ  นายกฯรีบออกมาบอกละล่ำละลักว่า  กำลังหาทางออกให้กับประเทศไทยนะ  ต้องมีการปฏิรูปอะไรต่างๆ  ก็เพื่อที่จะมากลบเกลื่อนเรื่องนี้  ให้น้ำหนักของผู้ที่คัดค้าน  ไม่ว่าคนที่คัดค้านอยู่ที่สวนลุมพินี  หรือการคัดค้านของพรรคปชป.มันมีน้ำหนัก  ก็พยายามหาเรื่องอื่นมากลบ 
ตอนนี้เราก็เห็นข่าวกันอยู่ทุกวัน  คุณพงษ์เทพ  เทพกาญจนา  รองนายกฯ  และ  คุณวราเทพ  รัตนากร  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  2 คนนี้ก็เที่ยวเดินข่าวทุกวัน  จนกว่าจะถึงวันที่ 10  เพราะเขาบอกว่าถึงวันที่ 12 เขาจะนัดประชุมกัน  ผมคิดว่าพอจากนี้ไปถึงวันที่ 10 เขาก็จะยกเลิกประกาศพ.ร.บ.ตามที่เขาได้ประกาศไว้  วันที่ 12 ก็เป็นเรื่องการปฏิรูปประเทศไทยทางออกของการเมือง  คิดว่าพยายามที่จะเคลื่อนไหวของการคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม                   
สำราญ  :  ทีนี้การจัดโต้รุ่งอย่างนี้  ถ้ามองในเชิงกายภาพก็จะถูกมองว่านี่เป็นการเปลี่ยนยกระดับการต่อสู้  แล้วหลายคนก็อาจจะสงสัยว่า  พอถึง 6 โมงเช้า 7 โมงเช้า  คนที่มาชุมนุมมาฟังม็อบโต้รุ่ง  ฟังการปราศรัยการโต้รุ่ง  จะเคลื่อนไปที่หน้าสภาหรือไม่  เรื่องนี้ปชป.คิดยังไงครับ      
องอาจ  :  ขณะนี้เรายังไม่มีความคิดอะไร  รัฐบาลเขาก็ประกาศหน้าสภาว่าห้ามไปชุมนุม  เขาก็มีตร.หลายพันหลายหมื่นคน  ที่จะเข้ามาสกัดกั้นปชช.ไม่ให้เข้าไปหน้าสภาอยู่แล้ว  ในขณะนี้เราก็ยังไม่ได้มีความคิดอะไรในเรื่องนั้นอยู่  ส่วนเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง  บางทีมันก็ไปบอกล่วงหน้าไม่ได้  ไม่รู้ว่าขณะนั้นเกิดอะไรขึ้น
สำราญ  :  เอาเป็นว่าในชั้นนี้  ไม่ได้มีเป้าประสงค์ที่จะนำกำลังบุกไปยังรัฐสภา  ไม่มีความคิดนี้
องอาจ  :  ไม่มีครับ  คือเราปฏิบัติตามกฎหมายอยู่แล้วครับ เราดำเนินการเคลื่อนไหวชุมนุมภายใต้กรอบของกฎหมาย  ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอย่างที่ชุมนุมโดยสงบสันติ  ปราศจากอาวุธ  รัฐบาลอาจจะเล่นโดยไม่ซื่้อ  โดยวิธีการที่ไม่ชอบธรรม  อันนี้เราก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลกำลังคิดอะไร  ทำอะไรอยู่         
สำราญ  :  แต่ถ้ากลุ่มอื่น  กลุ่มปชช.เขาจะรวมตัวกัน  หรือมาจากสวนลุมฯ  จะไปสภาก็เป็นเรื่องที่ว่ากันไป
องอาจ  :  มันอยู่ที่การตัดสินใจของเขา  เราไม่ได้เข้าไปร่วมประชุมปรึกษาหารือด้วย  ส่วนภาคปชช.ก็อาจจะมีความคิด  มีความพร้อม  ว่าจะแก้ไขอย่างไร  และก็เห็นว่าวิธีการไหนที่มันนำไปสู่จุดมุ่งหมายของเขาได้  นำไปสู่เป้าหมายวางไว้ได้เขาก็อาจจะดำเนินการ  แต่เขาจะดำเนินการอย่างไร  เราก็ไม่สามารถที่จะไปรับรู้ได้ขณะนี้
สำราญ  :  แต่ว่าเวทีนี้ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะฝึก  และนำกำลังพลไปที่สภา  ไม่มีเป้าหมายเช่นนั้น
องอาจ  :  ไม่มีเป้าหมายอะไรเช่นนั้นครับ 
สำราญ  :  ก็เป็นการปลุกให้ข้อมูลกันเป็นวาระพิเศษ  คุณองอาจประเมินการประชุมในวันพรุ่งนี้เป็นอย่างไรบ้าง 
องอาจ  :  ก็คงเป็นไปด้วยความยากลำบากครับ  รัฐบาลก็คงไม่อยากให้เรานำเสนอข้อมูลอะไรโดยเฉพาะข้อเท็จจริง  ที่จะต้องพูดจากันโดยเฉพาะ  เราคงจะต้องชี้ให้เห็นว่า  พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมันไม่ควรจะเกิดขึ้นเพราะอะไรอย่างไร  ใครไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรม  แล้วสิ่งที่คุณกำลังนิรโทษกรรมมันเป็นไปไม่ได้อย่างไร  หรืออย่างเช่น  คุณบอกว่าเหตุจูงใจทางการเมือง  อะไรคือเหตุจูงใจทางการเมือง  ใครที่ทำความผิดในขณะนั้น  มันมีรายละเอียดในเชิงวิชาการด้วยนะครับ  ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่เรามาพูดกันลอยๆ  ซึ่งเมื่อคืนนี้ก็ได้พูดกันใต้ทางด่วนอุรุพงษ์ตัดใหม่  ได้ความรู้ด้วย  เพราะเป็นประเด็นที่ไม่ค่อยมีการหยิบยกมาพูดกัน  ใครลองเข้าไปเปิดดูในเว็บของพรรคปชป. ก็จะเห็นข้อมูลในทางวิชาการซึ่งผมถือว่าเป็นประโยชน์มาก  และข้อมูลตรงนี้จะชี้ให้เห็นว่า  พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมันยังไม่ไปถึงจุดมุ่งหมายที่ทางรัฐบาลหรือคนของรัฐบาลได้วางเอาไว้อย่างแน่นอน  เพราะฉะนั้นมันจะมีปัญหาอุปสรรคไม่สามารถเดินไปตรงนั้นได้  และถ้าเผื่อว่ารัฐบาลใจกว้างและรับฟังข้อมูลที่ไม่เหมือนกับของตัวเองบ้าง  รัฐบาลก็คงมองเห็นว่า  ถ้ายังเดินหน้าต่อไป  นอกจากมันจะเป็นปัญหาที่บานปลายแล้ว  มันยังไปขัดกับอะไรเยอะแยะไปหมด                            
สำราญ  :  สมมุตินะครับ  คุณองอาจคิดว่าโอกาสที่เขาจะถอนร่างออกมา  หรือจะยอมเลื่อนออกไปแบบ surprise กันสุดๆ  มีสักประมาณกี่เปอร์เซ็นต์  
องอาจ  :  ผมคิดว่าไม่มีครับ  ถ้าไม่มีแรงกดดันมากพอ  จะเป็นคุณทักษิณ  หรือคุณยิ่งลักษณ์ก็ไม่ต่างกัน จะเห็นได้ว่า สมัยตอนที่คุณทักษิณยังเป็นนายกฯอยู่  เชิญประชุมพรรคการเมืองให้มาพูดคุยกันคล้ายๆ อย่างนี้  จำได้ไหมครับเมื่อตอนปี 2549  ทำเป็นประชุมไปอย่างนั้น  ผมจำได้พวกผมนั่งรอกันอยู่  ตามที่นัดหมายไว้ว่าจะมาที่อาคารรัฐสภา 1 คุณทักษิณไปประชุมกับพรรคการเมืองที่ไม่มีส.ส. อะไรอย่างนี้เป็นต้น  แล้วก็ชิงแถลงข่าวกันว่ามีคนมาปรึกษาหารือกันแล้ว  แต่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง  เพราะฉะนั้นแล้วถ้าไม่มีแรงกดดันจริงๆ  ถ้าพี่น้องปชช.ไม่ออกมาแสดงให้เห็นถึงพลังของปชช.ว่าไม่เห็นด้วย  คุณทักษิณเขาก็เดินหน้าลุยต่อไป  เราก็คงไม่สามารถไปทัดทานอะไรเขาได้  ก็อยู่ที่กำลังปชช.
สำราญ  :  สภาปฏิรูปปรองดองที่นายกฯปูออกมาขายไอเดีย  ก็รู้อยู่ว่าเป็นแนวคิดของคุณทักษิณ  อันนั้นมันเป็นแต่เรื่องลับลวงพรางเฉยๆ หรือเป็นยุทธศาสตร์จริงๆ
องอาจ  :  มันจะเป็นยุทธศาสตร์จริงๆ ได้ไง  ก็คุณอยู่มาถึง 2 ปี คุณไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย คุณเป็นรัฐบาลมีอำนาจรัฐอยู่  มีโอกาสทำได้มาก  แต่ไม่เคยทำเลย  แต่อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อพวกคุณ  คุณก็เอา  พอเขาพูดว่ามีชายชุดดำ  รัฐบาลไม่เห็นด้วย  คุณก็ไม่ไปดำเนินการตรงนั้นต่อ และวันดีคืนดีพอมาถึงจุดที่บ้านเมืองเขาต้องเผชิญหน้ากัน  คุณก็พยายามมาลดความชอบธรรมของคนที่มาเผชิญหน้ากัน  โดยการบอกว่า  เรามาหาทางออกให้กับประเทศกันเถอะ  เรามาจับมือกันนะ  ก็เหมือนกับรัฐบาลมาเจรจากับบีอาร์เอ็นตอนนี้  ขณะที่คุณเปิดการเจรจา  คุณก็ยิงไป คุณก็ฆ่าไป  ขณะนี้คุณพยายามเอากฎหมายซึ่งอีกฝ่ายไม่เห็นด้วยเอาขึ้นมา  แล้วทำไมเราไม่มานั่งคุยกัน  ถ้ารัฐบาลต้องการแบบนั้นจริงๆ คุณบอกมาสิว่า  ปชช.คนที่ไมใช่แกนนำ  คนที่ควรจะได้รับการนิรโทษกรรม  คุณบอกมาว่ามีกี่คน  ซึ่งตอนนี้มันไม่มีแล้ว  ได้รับการประกันตัวหมดแล้ว  ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคดีลหุโทษเล็กๆ น้อยๆ  แต่คดีใหญ่ๆ ยิงวัดพระแก้ว  เผาบ้านเผาเมืองทั้งหลาย  คุณก็จะเหมารวมไปด้วย 
สำราญ  :  สุดท้ายกฎหมายนิรโทษกรรม  ก็คงจะเป็นแบบเดียวกับกฎหมายปรองดอง  ทุกคนก็จะมาแปรญัตติ  มันจะเป็นแบบเดิมหรือเปล่า
องอาจ  :  ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้  สมมุติว่าฉบับนี้ผ่าน  เขาก็จะดันฉบับสุดซอยเข้ามา  คนที่ศาลตัดสินแล้วว่าทำผิด  คุณไปเผาศาลากลางจริงๆ ไปยิง ไปฆ่า ใช้อาวุธสงคราม  คุณไม่ได้ชุมนุมโดยสงบ  คุณกระทำความผิดตามกฎหมายอาญา  เหล่านี้ติดคุกกัน 20-30 ปี  เพราะฉะนั้นพวกนี้ก็อยากจะเอาออกมาด้วย  แต่เราไม่เห็นด้วย  วัฏจักรมันจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน  ถ้าตรงนี้มันสามารถทำได้  และมันก็ผิดหลักนิติรัฐ  นิติธรรมซึ่งมันไม่ควรจะเกิดขึ้น
                 
สำราญ  :  เปิดเวทีกี่โมงวันนี้
องอาจ  :  ก็ประมาณเวลา 16.30 น.  เราจัดชุมนุมตรงแยกโคลีเซียมตรงอุรุพงษ์ตัดใหม่มีพื้นที่ว่างใต้ทางด่วน  ถ้าเราลงใต้ทางด่วนมาเราก็จะเห็นเวทีเลย  เวทีมันจะเป็นลานกีฬาในปัจจุบัน  ทางด่วนเขามาเทปูนซีเมนต์จุคนได้เป็นหมื่น  เขาเรียกว่าอุรุพงษ์ตัดใหม่  แต่ถ้าเกิดคุณมาจากทางเพชรบุรี ถ้าเลี้ยวซ้ายก็ไปขึ้นทางด่วนยมราช แต่ถ้าเลี้ยวขวาก็ไปขึ้นทางด่วนเพชรบุรี  แต่ว่าที่จอดรถก็อาจจะไม่ค่อยมีเท่านั้นเอง แต่ทางที่ดีนั่งรถเมล์  รถแท็กซี่  มอเตอร์ไซค์ดีกว่า  ตอนนี้รถติดมาก  แต่ไม่ได้ติดเพราะการชุมนุม  เพราะเขาชุมนุมกันเป็นสัดส่วน  ที่รถติดขนาดนี้  เป็นเพราะตร.ไปปิดเส้นทางการจราจร 12 เส้นทาง  ไม่มีใครไปชุมนุมตรงนั้นเลย  ทางที่ดีเปิดให้รถผ่านไปผ่านมาอย่าไปปิดเลยดีกว่า  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น