|
|
วันนี้ (5 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากรณ์ ณิชาบวร รองโฆษก ศอ.รส. แถลงข่าวรายงานสถานการณ์การชุมนุมและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จากการประชุม ศอ.รส.วันนี้การข่าวได้รายงานว่าเมื่อวานมีการชุมนุม 2 พื้นที่ ที่แรกบริเวณหน้าสวนลุมพินี ยอดมวลชนสูงสุด 2,000 คน เมื่อเวลา 19.00 น.ซึ่งไม่เป็นไปตามเป้าของผู้ชุมนุม เวทีที่ 2 เวทีผ่าความจริงฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ จัดที่สนามกีฬาประชานิเวศ มวลชนสูงสุด 1,200 คน ขณะนี้ตอนเช้าเหลือเพียงเวทีสวนลุมพินี มีมวลชนประมาณ 100 คนคอยดูแลพื้นที่ ยังมีเวทีและรถเครื่องเสียงจำนวน 8 คัน ส่วนหน้ากระทรวงการคลังมีกลุ่มหนี้สินเครือข่ายชาวนาประมาณ 700 คน เป็นพื้นที่ตำรวจนครบาล 2 มีผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 คอยดูแลอยู่
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า จากข้อมูลด้านการข่าวและพยานหลักฐานที่ปรากฏในพื้นที่ยังมีรถเครื่องเสียงเตรียมพร้อมอยู่ การข่าวกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามเร่งเติมมวลชนเพิ่มมากขึ้น เพื่อวัตถุประสงค์ในวันนี้ที่จะดาวกระจายไปหลายพื้นที่ ทั้งสถานทูตจีน อเมริกา ที่ทำการอาเซียน ที่ทำการสหประชาชาติ รัฐสภา เป็นต้น ซึ่งการข่าวอาจมีการยั่วยุให้มีการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่บางส่วนด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องอดทนและอดกลั้น
โฆษก ศอ.รส.กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศอ.รส. ได้กำชับการปฏิบัติงานไปยังเจ้าหน้าที่ดังนี้ ให้ทุกหน่วยทุกองกำลังที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ และพื้นที่นอกพ.ร.บ.ความมั่นคง ให้ติดตามตรวจสอบการข่าวอย่างใกล้ชิด เตรียมปฏิบัติการตามแผนรักษาความปลอดภัยและจราจรเพื่อให้พี่น้องประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใช้พื้นที่จราจรได้มากที่สุด ประสานกับหน่วยที่เกี่ยวข้องในเส้นทางที่จะมีการเสด็จราชดำเนินผ่าน ให้เหมาะสมและสมพระเกียรติ
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า กำชับเรื่องการแต่งกายและวินัยในการทำงาน ให้ทุกหน่วยทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนงดเว้นการพกพาอาวุธปืน ห้ามพกติดตัวหากใครพกพาถือว่าผิดวินัยอย่างร้ายแรง ห้ามดื่มสุรา ใครฝ่าฝืนถือว่าผิดวินัยร้ายแรง ให้ บช.น.โดยฝ่ายสอบสวนให้ตรวจสอบผู้ที่ขึ้นเวทีผู้ทำกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งผู้ที่ทำหน้าที่เป็นการ์ดว่าเป็นบุคคลตามหมายจับหรือไม่ หรืออยู่ในเงื่อนไขตามคำสั่งศาลอยู่ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที นอกจากนี้ได้สั่งให้ชุดปฏิบัติการทุกชุดถ่ายภาพวิดีโอ ภาพถ่ายไว้ตลอดเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า วันนี้ทางกองบังคับการตำรวจจราจรได้ปิดเส้นทาง 5 เส้นทางที่จะเข้ารัฐสภาและทำเนียบเนื่องจากเป็นจุดหมายหนึ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะดาวกระจายไป กลุ่มผู้ชุมนุมทุกคนมีเป้าหมายที่จะไปเจอกันที่รัฐสภาในวันที่ 7 สิงหาคม เราจะทำการปิดเส้นทางจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หรือจนกว่าการชุมนุมแล้วเสร็จ หากสถานการณ์คลี่คลายก็จะยกเลิกประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงแต่หากการชุมนุมขยายไปหรือยืดเยื้อตำรวจก็จะขอขยายเวลาประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯในส่วนของพื้นที่ที่ไม่มีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่งคงฯก็สามารถชุมนุมได้ อย่างที่สวนลุมพินีก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.5 คอยดูแล ตอนนี้ก็ยังไม่มีแนวคิดประกาศพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯเพิ่มแต่อย่างใด
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า สำหรับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเติมกำลังตามการประเมินสถานการณ์ด้านการข่าว ตามจำนวนผู้ชุมนุมและสถานการณ์การก่อเหตุ ตอนนี้กำลังชุดที่ 1 และ 2 ได้เข้าพื้นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้แจ้งให้ทาง บช.ภ.1-9 และ ตชด.เตรียมกำลังพร้อมเคลื่อนกำลังสนับสนุนทันทีหากเกิดเหตุ
ด้าน พล.ต.ต.ธนากล่าวว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้แจงปิดเส้นทาง 5 เส้นทางตั้งแต่เวลา 06.00 น.ของวันนี้ 1. ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกการเรือน-แยกราชวิถี 2. ถนนพิขัยตั้งแต่แยกขัตติยานี-แยกราชวิถี 3. ถนนอู่ทองในตั้งแต่แยกพระรูป-แยกอู่ทองใน 4. ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แแยกพาณิชย์ ผ่านแยกสวนมิสกวัน ถึงแยกวังแดง 5. ถนนราขดำเนิน ตั้งแต่แยกสวนมิสกวัน-แยกมัฆวาน ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบและหลีกเลี่ยงเส้นทาง โดยใช้เส้นทางเลี่ยงถนนราชสีมา ถนนสุโขทัย ถนนอำนวยสงคราม ถนนพระราม 5 ถนนวิสุทธิ์กษัตริย์ ถนนกรุงเกษม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น