วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556



บ้านเมืองนี้ไม่ใช่ของรัฐบาล ของทหาร ของตำรวจ ของนักการเมือง พวกนี้ "เกาะอยู่-เกาะกิน" เอายศ-เอาอำนาจ-เอาตำแหน่ง-เอาลาภสักการะ ระยะหนึ่งแล้วก็ไป  เจ้าของประเทศแท้จริง คือ "คนไทยทุกคน" ในภาพรวมว่า "ประชาชน" นั่นตะหาก!
    และมาวันนี้ บ้านเมืองมีปัญหา ประชาชนตกเป็นฝ่ายเดือดร้อน ทั้งจากผู้บริหารทำผิดทำนองคลองธรรม ทั้งจากผู้ทำหน้าที่ "คนหลวง" ทอดธุระในหน้าที่     
    บ้างเฉยเมย บ้างเอาศีรษะทอดเข้าไปเกยเกือกแลกเศษสุข ปล่อยให้อสัตยชนย่ำยีประเทศชาติทั้งเบื้องสูง-เบื้องต่ำ ดังเพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยาว่าไว้มิมีผิด
    ...........ทั้งข้าวก็จะยากหมากจะแพง     สาระพันจะแห้งแล้งเป็นถ้วนถี่
         จะบังเกิดทรพิษมิคสัญญี       ฝูงผีจะวิ่งเข้าปลอมคน
         กรุงประเทศราชธานี             จะเกิดการกุลีทุกแห่งหน
         จะอ้างว้างอกใจทั้งไพร่พล      จะสาละวนทั่วโลกทั้งหญิงชาย
         จะร้อนอกสมณาประชาราช      จะเกิดเข็ญเป็นอุบาทว์นั้นมากหลาย
         จะรบราฆ่าฟันกันวุ่นวาย       ฝูงคนจะล้มตายลงเป็นเบือ....ฯลฯ....
    วันนี้ (๑ ต.ค.๕๖) ก็มาบันทึก "ความคืบหน้า" เกี่ยวกับเรื่องว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์จะกล้านำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มา ส.ว.ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายหรือไม่ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นร่างกฎหมายมีปัญหา 
    หรือยิ่งลักษณ์จะไม่กล้า?
    แต่จะกล้า-ไม่กล้า ไม่มีความหมาย สิ่งที่ผมอยากบอกในกรณีนี้คือ พวกทาสทักษิณในพรรคเพื่อไทย มันรวมหัว "หลอกต้ม" ทั้งทักษิณและยิ่งลักษณ์ให้ "ไปตาย" โดยเจ้าตัวเองก็ยังหลงว่า พวกนี้...มันภักดีกู!
    ทั้งทักษิณและยิ่งลักษณ์ต้องปลื้มว่า ตั้งแต่ประธานรัฐสภาสมศักดิ์ ยันสมุนในพรรคทุกคน ยอมหักกับสถาบัน เพื่อพินอบนาย โดยสนับสนุนให้ยิ่งลักษณ์นำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ชนิดไม่ฟังเสียงอินทร์-เสียงพรหมใดๆ ทั้งสิ้น
    แต่ถ้าดูขั้นตอนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๕๐ จริงๆ แล้ว ยิ่งลักษณ์เท่ากับถูกสมุนพรรค "ถีบ" ให้ออกหน้าเป็นผู้กล้า ในสถานการณ์ที่ไม่ควรกล้า เพราะคล้ายอหังการท้าทายต่อพระราชอำนาจ
    ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ว่าเหนือชั้น แต่ประธานรัฐสภาสมศักดิ์เหนือกว่า การนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายครั้งนี้ลึกๆ ในใจคนเพื่อไทยต้องรู้ว่า มันเปราะบางต่อความรู้สึกของประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก 
    การนับ ๒๐ วันที่ต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายนั้น ตามรัฐธรรมนูญขีดเส้นไว้ชัดว่า "นับแต่วันที่ได้รับร่างพระราชบัญญัตินั้นจากประธานรัฐสภา" 
    ชัดๆ ก็คือ ไม่ใช่ผ่านวาระ ๓ แล้วต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายใน ๒๐ วัน อย่างที่พยายามจะให้เข้าใจกันไปอย่างนั้น! 
    แต่จะนับ ๑ ก็ต่อเมื่อประธานรัฐสภานำร่างนั้นส่งให้นายกฯ ส่งวันไหนก็นับ ๑ วันนั้น และภายใน ๒๐ วัน นายกฯต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย จะนำขึ้นวันนี้เลย หรือรอไป ๑๙ วันค่อยนำขึ้นก็ได้ 
    นั่นก็คือ นายสมศักดิ์ระดับประธานรัฐสภา ลึกเข้าไปในใจทาสย่อมรู้ว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ "มีปัญหา" ด้านกฎหมายมากมาย 
    ขัดทั้งรัฐธรรมนูญและเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ขัดทั้งระเบียบปฏิบัติการประชุม และผิดด้วยทุจริตในการลงคะแนนโหวต มีการเสียบบัตรแทนกัน
    ซึ่งทั้งหลาย-ทั้งปวง มีผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อศาลรับเรื่องไว้วินิจฉัย ด้วยมรรยาทตามกฎกติกาประชาธิปไตย  ควรรอฟังคำวินิจฉัยก่อน จากนั้นค่อยว่ากัน แต่อย่างที่ทำตอนนี้ คนรับไม้ต่อจากรัฐสภาไปดำเนินการ
    นอกจากผิดกฎหมายแล้ว ยังจะผิดใจประชาชนอีกตะหาก!
    แต่นายสมศักดิ์ไม่พยายามชี้แจง หรือทักท้วงหน่วงดึงนายกฯ เลย กลับถีบหลังส่ง นายสมศักดิ์เปรียบเหมือนคนส่งไม้ ๓ ให้ยิ่งลักษณ์รับวิ่งไปเส้นชัย ในรายการ ๔X๑๐๐ 
    ในกรณีนี้ ความสำคัญ "เป็น-ตาย" อยู่ที่คนส่งไม้ ๓!     
    คือถ้านายสมศักดิ์ไม่ส่งไม้ให้ยิ่งลักษณ์ ยิ่งลักษณ์ก็ไม่จำเป็นต้องวิ่งมือเปล่า นั่นก็คือ ถ้านายสมศักดิ์ และบรรดากุนซือในพรรครักและหวังดีต่อทักษิณและยิ่งลักษณ์จริง ก็จะยังไม่รีบส่งร่างแก้ไขที่ผ่านสภาฯ วาระ ๓ ให้ยิ่งลักษณ์
    การไม่ส่ง เท่ากับยังไม่เริ่มนับ ๑-๒๐!
    รอฟังศาลก่อน นายสมศักดิ์ก็งามพร้อม ยิ่งลักษณ์ก็ไม่เสี่ยงกับการทำผิดกฎหมาย ผิดใจประชาชน ด้วยคล้ายอหังการ "ท้าทายพระราชอำนาจ"
    แต่อนิจจา...ทั้งนายพงศ์เทพ มือกฎหมาย นายสามารถ  แก้วมีชัย ประธานกรรมาธิการฯ นายสมศักดิ์ ประธานรัฐสภา  และใครต่อใครทุกคน ต่างแสดงบทผู้หวังดี แต่แฝงไว้ด้วยความประสงค์ร้ายต่อยิ่งลักษณ์ 
    ทั้งผลัก-ทั้งดัน-ทั้งยันหลัง ให้ยิ่งลักษณ์รีบนำขึ้นทูลกล้าฯ ถวาย!
    รู้ว่ายิ่งลักษณ์เป็น Smart Lady ก็แนะนำให้ท่องจำคำง่าวๆ ไปพูดกับนักข่าวในประเด็น "จำเป็นต้องยื่น เพราะกฎหมายกำหนดต้องยื่นภายใน ๒๐ วัน"
    ลองฟังดูหน่อยก็ได้.....
    นายกฯ: ในเบื้องต้นทางฝ่ายเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้รับเรื่องจากรัฐสภาแล้ว และได้ร่วมตรวจสอบกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งขั้นตอนทุกอย่างถูกต้อง เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว 
    นักข่าว: ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการยื่นทูลเกล้าฯ ถวายใช่หรือไม่?
    นายกฯ: ใช่ค่ะ ในส่วนของฝ่ายเลขาฯ ได้ตรวจสอบทุกอย่าง ก็ถูกต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นก็ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในการนำเสนอ
    นักข่าว: กลัวว่าจะมีปัญหาตามมาหรือไม่?
    นายกฯ: ในส่วนของรัฐบาลเอง มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ในแง่ของการทำงาน เราเองต้องตรวจสอบให้เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
    นักข่าว: หากผลสุดท้ายแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นผลลบต่อรัฐบาล ทางฝ่ายค้านหรือกลุ่ม ๔๐ ส.ว.ได้เรียกร้องให้นายกฯ เป็นผู้รับผิดชอบ?
    นายกฯ: ต้องเรียนว่าตัวนายกฯ เองในฐานะที่เป็นผู้รับสนอง และเป็นผู้นำกราบบังคมทูล ตามรัฐธรรมนูญมีกฎหมายหลายฉบับที่ในฐานะนายกฯ จะต้องปฏิบัติตาม 
    ฉะนั้น ส่วนนี้เป็นอำนาจการตัดสินใจของรัฐสภา ขออนุญาตแยกงานกัน ในส่วนของฝ่ายบริหารและงานรัฐสภา หน้าที่นายกฯ ก็มีหน้าที่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น
    นักข่าว: การยื่นทูลเกล้าฯ ถวายจะเป็นไปตามกำหนด ๒๐ วันหลังจากรัฐสภา มีการลงมติในวาระ ๓ ใช่หรือไม่?
    นายกฯ: ใช่ค่ะ 
    นักข่าว: วันนี้จะยื่นทูลเกล้าฯ ถวายเลยหรือไม่?
    นายกฯ: เรียบร้อยแล้วค่ะ อยู่ในขั้นตอนของฝ่ายเลขาฯ
    นักข่าว: ยืนยันว่าที่ผ่านมารัฐบาลทำถูกต้องตามขั้นตอนใช่หรือไม่?
    นายกฯ: เราได้ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ และทุกหน่วยงานก็ได้ยืนยันว่าถูกต้องตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ 
    เนี่ย...ฟังดูแล้ว เข้าใจกันว่าผ่านสภาฯ วาระ ๓ แล้วต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายใน ๒๐ วัน รวมทั้งยิ่งลักษณ์ด้วย  ขนาดท่องจำเป็นสูตรเลยว่า "ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ"
    ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่า จริงๆ แล้วรัฐธรรมนูญบอกไว้อย่างไร?
    ทักษิณเป็นคนปล้อนปลิ้น แต่มีเรื่องหนึ่งที่ทักษิณพูดตรง คือที่ทักษิณเคยพูดว่า "มีบางคนในพรรคไม่อยากให้ผมกลับ"!
    ถูกต้องที่สุด ขืนกลับเข้ามา รายการ "หลอกแดกทักษิณ" ก็จบน่ะซี!
    ส.ว.รสนา โตสิตระกูล โพสต์ข้อความใน fb เมื่อวานนี้ไว้ว่า อดีตตุลาการศาลฎีกาท่านหนึ่งเขียนมาบอกดิฉัน ดังนี้....
    "การที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้นายกรัฐมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายใน ๒๐ วัน เป็นเพียงระยะเวลาเร่งรัดมิให้ฝ่ายบริหารเตะถ่วงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่อายุความ และหมายถึงกรณีไม่มีเหตุคัดค้านหรือเหตุพิเศษอื่น ถ้ามีเหตุดังกล่าวระยะเวลาเร่งรัดนั้นย่อมขยายได้ ไม่เหมือนอายุความที่ขยายไม่ได้
    เรื่องทำนองนี้ รัฐบาลชุดนี้ก็เคยทำมาแล้ว เป็นต้นว่า เรื่องแถลงนโยบาย เรื่อง พ.ร.บ.งบประมาณ เป็นต้น 
    หากนายกฯ ดึงดันที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า กระบวนการพิจารณาของสภาฯ ไม่โปร่งใส เป็นการพิจารณาที่ไม่ชอบ รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขดังกล่าวย่อมตกเป็นโมฆะ ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกๆ คนต้องรับผิดชอบ 
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายกรัฐมนตรีผู้นำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย และจะต้องรับสนองพระบรมราชโองการจะหลีกเลี่ยงความรับผิดมิได้ "
    มั้ยล่ะ..มันหลอกคนสวยของผม "ไปตาย" จริงๆด้วย!   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น