วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ขวางโจรยึดประเทศ ‘ปชป.’เป่านกหวีดนัด31ต.ค.สุเทพเตือน‘ปู’ไร้แผ่นดินอยู่มติเพื่อแม้วนิรโทษฯสุดซอย เมื่อ 30 ต.ค.56

ขวางโจรยึดประเทศ ‘ปชป.’เป่านกหวีดนัด31ต.ค.สุเทพเตือน‘ปู’ไร้แผ่นดินอยู่มติเพื่อแม้วนิรโทษฯสุดซอย


"สมศักดิ์" รับลูกยัดนิรโทษฯ สุดซอยเข้าประชุมสภานัดพิเศษ 31 ต.ค. อ้างเรื่องด่วน "ยิ่งลักษณ์" ชิ่งวาระร้อนไป ครม.สัญจร จ.ลพบุรี ย้ำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพื่อประเทศเดินหน้า "เพื่อแม้ว" สั่ง ส.ส.-พรรคร่วมหนุนเต็มที่ ขู่แดงใส่สูทห้ามแตกแถว "ปชป." ลั่นกลองรบยกระดับต่อสู้ เตรียมเป่านกหวีด 6 โมงเย็นพฤหัสฯ นี้ "สุเทพ" ลั่นเอาชีวิตเดิมพัน เตือนนายกฯ รีบเบรกก่อนไม่มีแผ่นดินอยู่ "อดีตแกนนำ พธม." เชื่อจุดไฟติด
   เมื่อวันอังคาร นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ สผ 0014/ผ123 ลงวันที่ 29 ต.ค.2556 นัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 21 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ ในวันพฤหัสบดีที่ 31 ต.ค.2556 เวลา 09.30 น. เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ.… ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจาณาเสร็จแล้ว โดยบรรจุระเบียบวาระไว้เป็นวาระที่ 4 เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว
    ทั้งที่ก่อนหน้านี้ นายสมศักดิ์มีหนังสืองดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 24 ปีที่ 3 ครั้งที่ 20 (สมัยสามัญทั่วไป) ในวันพุธที่ 30 ต.ค.2556 และครั้งที่ 21 (สมัยสามัญทั่วไป) ในวันพฤหัสบดีที่ 31 ต.ค.2556 ไปแล้ว แต่ได้กลับมานัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 21 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ อีกครั้งในวันที่ 31 ต.ค.ดังกล่าว
    นายสมศักดิ์ยอมรับว่า ได้นัดประชุมสภานัดพิเศษในวันที่ 31 ต.ค. เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ในวาระที่ 2 และ 3 ภายหลังจากคณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาเสร็จแล้ว
นิรโทษเข้าสภา 31 ต.ค.
    “ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบของข้อบังคับการประชุมและรัฐธรรมนูญทุกประการ โดยส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องด่วน ส่วนความเห็นต่างว่าด่วนหรือไม่ด่วน หรือเร่งรัด ก็เป็นการมองต่างมุม” นายสมศักดิ์แจงข้อถามที่ว่าการนัดประชุมสภาดังกล่าวเป็นการเร่งรีบเกินไปหรือไม่
    ประธานสภาฯ กล่าวว่า การนัดประชุมเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะวาระที่ 1 ได้พิจารณาเสร็จแล้ว จึงต้องพิจารณาต่อในวาระที่ 2 และ 3 ถ้าไม่เรียกประชุมในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ก็ต้องเรียกประชุมในสัปดาห์หน้าอยู่ดี
    ถามว่า เป็นการทำตามใบสั่งหรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวว่า ถ้าจะมีใครสั่งก็สั่งมาจากในคุกนั่นแหละ ตั้งแต่วันแรกที่มารับตำแหน่งก็มีคนพูดว่ารับใบสั่งมาโดยตลอด แต่ได้เคยเปิดใจที่ประชุมสภาไปแล้ว และคงเป็นเรื่องของระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ถ้าจะถามว่าด่วนหรือไม่ ส่วนตัวเห็นว่าด่วน ถ้าใครบอกไม่ด่วน ก็ลองไปติดคุกดู การจะปรองดองกันได้จะต้องคืนความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย จะยกเว้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ ถ้าจะคืนก็ต้องคืนยกเข่ง แต่ถ้าจะไม่คืนก็ไม่คืนทั้งเข่งเช่นกัน นี่คือหลักกฎหมาย หลักความเป็นธรรม
    น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนี้ ไม่ใช่ร่างของรัฐบาล เป็นร่างของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) คงต้องเรียนว่าเราต้องมองในเรื่องของอำนาจฝ่ายบริหารและอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นการทำงานกันคนละส่วน ในส่วนของรัฐบาลที่จะทำได้อย่างเต็มที่คือพยายามที่จะร่วมกันทำอย่างไรให้บรรยากาศบ้านเมืองเป็นไปอย่างสงบ และเราไม่อยากเห็นการก่อความวุ่นวาย
    "เชื่อว่า พ.ร.บ.นิรโทษฯ ฉบับนี้ ในส่วนของการถกเถียงกันยังมีอีกหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา เชื่อว่าระหว่างนั้นจะทำให้ข้อมูลต่างๆ เกิดความกระจ่าง และจะมีความชัดเจนมากขึ้น ผู้ที่จะต้องร่วมกันคิดนั้น ประชาชนทุกคนที่จะร่วมกันรับฟังกันอย่างเต็มที่ และพิจารณาให้เป็นไปอย่างรอบคอบ เพื่อประโยชน์สูงสุด" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
    ถามว่า วันที่ 31 ต.ค. จะเข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะต้องไปประชุม ครม.สัญจร จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นกำหนดการเดิม แต่ถ้าไม่ติดเรื่องภารกิจ ก็คงต้องร่วมไปในฐานะ ส.ส.  ซึ่งเวทีสภาจะเป็นเวทีที่ดีที่สุดในการเข้ามาแก้ไข เพราะวันนี้เราอาจจะได้รับฟังผ่านทางหน้าสื่อเป็นระยะๆ ข้อมูลอาจไม่ครบถ้วน ถ้าเราได้มีโอกาสได้รับฟังตรงนั้นจะทำให้ความกระจ่าง ความกังวลใจต่างๆ ดีขึ้น เราอยากเห็นเวทีนี้ค่อยๆ พูดจากันบนหลักความเข้าอกเข้าใจกัน
    ซักว่า ฝ่ายค้านบอกนายกฯ ดื้อตาใส ชอบพูดว่าร่างนิรโทษกรรมเป็นของ ส.ส. รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลความสงบ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า จริงๆ แล้วเชื่อว่าผู้นำฝ่ายค้านอยู่ในสภามานาน คงทราบดีว่าอำนาจนิติบัญญัติกับอำนาจฝ่ายบริหารนั้นทำงานแยกส่วนกัน ซึ่งต้องเคารพในการตัดสินใจของแต่ละเสาหลัก ตนเองทำหน้าที่ในส่วนของรัฐบาลที่ดูแลความเรียบร้อยภายในประเทศ
    เมื่อถามว่า นายกฯ จะอธิบายอย่างไรที่เคยแถลงไว้ในรัฐสภาจะพิสูจน์และค้นหาความจริงเหตุการณ์สลายการชุมนุมในปี 2553 แต่วันนี้กลับจะมานิรโทษกรรม นายกฯ กล่าวว่า การพิสูจน์ความจริงกับการนิรโทษกรรมต้องมองทีละส่วน การพิสูจน์ความจริงเราได้ให้คณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ป.คอป.) ในการหาข้อมูล และว่าไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว แต่เรื่องการนิรโทษกรรมเป็นเจตนารมณ์ของทุกภาคส่วนที่อยากเห็นประเทศเดินไปข้างหน้าได้
'ปู'อยากเห็นปท.เดินหน้า
    น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า สิ่งที่เราจะเดินหน้าไปข้างหน้าได้ คงต้องใช้เวลาในการพูดคุยกัน และอยากให้ทุกฝ่ายมองในมิติของประเทศ ว่าส่วนใดบ้างที่จะทำให้บ้านเมืองสงบได้ เพราะเราได้ผ่านมาแล้วทุกวิธีไม่ว่าจะเป็นวิธีการที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย กับการที่จะปรับอย่างนั้นอย่างนี้ เราต้องพยายามแก้กันไป เพราะเราพูดวนกันอย่างนี้ 2 ปีแล้ว
    ที่พรรคเพื่อไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย, นายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล, นายโภคิน พลกุล ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย , นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุมพรรคเพื่อไทยกรณีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
    นายภูมิธรรมกล่าวว่า พรรคมีความยากลำบากในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่อยู่ในสถานการณ์ความขัดแย้งของสังคม เพื่อหาทางออกจากความขัดแย้ง ซึ่งการจะออกจากความขัดแย้งมีความเห็นแตกต่างกันหลายส่วน แต่ในที่สุดพรรคมีข้อยุติ ดังนี้ 1.ให้ ส.ส.เพื่อไทยงดเว้นภารกิจ และเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 31 ต.ค. เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะเป็นกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวกับทิศทางเดินไปข้างหน้าของประเทศ
    2.พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมลงมติในทางเดียวกันให้เกิดความเป็นเอกภาพ เพื่อสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมตามมติของกรรมาธิการเสียงข้างมาก และ 3.ท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อคนเสื้อแดงและแนวร่วมผู้รักประชาธิปไตยเห็นว่า ความเห็นทางการเมืองมีความแตกต่างกันได้ แต่เป็นความแตกต่างในหมู่มิตรที่ยืนอยู่บนพื้นที่ฐานที่เข้าใจและเห็นใจกัน เชื่อว่าการดำเนินการครั้งนี้จะพาประเทศออกจากความขัดแย้ง
    "พรรคได้คุยกับพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ทุกฝ่ายพร้อมสนับสนุนตามมติกรรมาธิการเสียงข้างมาก และยังเชื่อว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคนจะเดินหน้าตามมติพรรค แม้จะมีความเห็นแตกต่างกัน แต่การเป็นนักการเมือง มติพรรคเป็นเรื่องสำคัญ เราเข้าใจในความอึดอัดใจของทุกส่วน แต่เราต้องการให้ความขัดแย้งทุกอย่างยุติลง" นายภูมิธรรมกล่าว
    นายจารุพงศ์ยืนยันว่า เรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไม่มีเกียร์ถอยหลัง ใส่เกียร์เดินหน้าอย่างเดียว เรายึกยักกันมาสองปีกว่าแล้ว เราไม่ได้เร่งผลักดัน แต่เราทำตามความเหมาะสม อะไรที่เดินได้ก็ต้องเดิน ไม่ให้ชะงัก ส่วนที่จะมีแรงต้านจากภายนอกเป็นจำนวนมากนั้น มั่นใจว่าจะควบคุมแรงต้านได้
    ซักว่า หาก ส.ส.เสื้อแดงโหวตสวนจะมีมาตรการลงโทษหรือไม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า เรื่องนี้มีกติกาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาขู่กันให้แสลงใจ เมื่อมติพรรคเป็นเอกฉันท์ทุกคนก็ต้องเคารพกติกา หากไม่ทำตามก็มีขั้นตอนอยู่แล้ว ไม่ต้องมาพูดขู่กัน ยอมรับว่า ในที่ประชุมมี ส.ส.เสื้อแดงไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่เป็นแค่บางส่วนเท่านั้น
    นายอำนวยกล่าวว่า สำหรับการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วาระ 2 จะพิจารณาในวันพฤหัสบดีที่ 31 ต.ค.-วันศุกร์ที่ 1 พ.ย. ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. จากนั้นในวันเสาร์ที่ 2 พ.ย. จะดำเนินการลงมติวาระ 3 ต่อทันที
บีบ ส.ส.แดงยกมือหนุนโหวต
    มีรายงานว่า การประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยครั้งนี้ นายสมชายและนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ได้เข้ามานั่งฟังการประชุมตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ ซึ่ง ส.ส.สาย นปช.ที่เป็นแกนนำเสื้อแดงลุกขึ้นแสดงความเห็นกันมากมาย ซึ่งเกือบทั้งหมดแสดงความกังวลและหนักใจหากโหวตตามร่างที่คณะกรรมาธิการเสียงข้างมากเสนอแก้ไข แต่ก็ยืนยันจะทำตามมติพรรค
    อย่างไรก็ตาม นพ.เหวงกล่าวว่า แม้พรรคเพื่อไทยจะมีมติพรรคให้ ส.ส.ทุกคนยกมือสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับกรรมาธิการเสียงข้างมาก แต่ตนยืนยันขอใช้สิทธิ์งดออกเสียงตอนลงมติวาระ 2 เฉพาะมาตรา 3 ที่มีการแก้ไขเนื้อหาให้นิรโทษกรรมแกนนำทุกฝ่าย รวมถึงการโหวตลงมติวาระ 3 ก็จะงดออกเสียงด้วย เพื่อรักษาจุดยืนที่ไม่ต้องการให้นิรโทษกรรมคนสั่งฆ่าประชาชน
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าพรรคเพื่อไทย ช่วงเช้า หนุ่มวีคลอง 11 นำมวลชนกลุ่มเสื้อแดงปทุมธานี ประมาณ 100 คน เดินทางมายังหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมรถกระบะติดตั้งเครื่องเสียงและป้ายข้อความ ‘พาทักษิณกลับบ้าน เอาเพื่อร่วมอุดมการณ์ออกจากคุก’ พร้อมปราศรัยเรียกร้องให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย ขณะที่บริเวณชั้น 1 ร้านกาแฟของพรรคเพื่อไทย นายวรพล พรหมมิกบุตร นักวิชาการสายเสื้อแดง ก็มายื่นหนังสือคัดค้านแนวคิดนิรโทษกรรมฉบับสุดซอย
    ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีอัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดีสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2553 ว่า การกระทำของอัยการคราวนี้เสมือนหนึ่งเป็นเครื่องมือของรัฐบาล บีบบังคับให้คุณอภิสิทธิ์และตนต้องยอมจำนน เพื่อที่ยอมให้กฎหมายนิรโทษกรรมผ่านสภา ตนไม่ทราบว่าอัยการมีเจตนาอย่างนั้นหรือไม่ แต่ว่าคำวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนหลายคนนั้นทำให้ตนค่อนข้างจะเชื่อถืออย่างนั้น ถ้าอัยการมีความคิดที่จะใช้คำสั่งฟ้องนายอภิสิทธิ์และตนเป็นเครื่องมือในการบีบบังคับให้พวกตนต้องยอมจำนน ให้กฎหมายล้างผิดให้กับคนโกง คนเป็นฆาตกร คนเผาบ้าน เผาเมือง คราวนี้ตนบอกกับอัยการได้ว่าท่านผิดหวัง
    เขากล่าวว่า ถ้ารัฐบาลนี้ไม่เลิกยังเดินหน้าที่จะเอากฎหมายนิรโทษนี้เข้าสภา พิจารณาในวาระ 2 ในวาระ 3 จะยกระดับการต่อสู้ขึ้น ชวนประชาชนทั้งประเทศ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ผนึกกำลังกันต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ด้วยชีวิต จะเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
    "สิ่งสุดท้ายที่ผมอยากจะเรียนคือ ผมอยากจะฝากไปถึงนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาถึงจุดที่ตัดสินใจแล้ว ไม่ต้องมาแก้ตัว บิดพลิ้ว เป็นนายกรัฐมนตรีสามารถที่จะระงับเหตุนี้ได้ตั้งแต่วันนี้ สั่งฝ่ายรัฐบาลถอนกฎหมายนี้ออกไป ยุติการดำเนินการใดๆ แต่ถ้านายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เห็นแก่ประโยชน์ของพี่ชาย เห็นแก่ตระกูลของตัวเอง ลืมประชาชนทั้งชาติ ผมเตือนนายกฯ ยิ่งลักษณ์ว่า จะไม่มีแผ่นดินอยู่อีกต่อไป" นายสุเทพกล่าว
    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คนที่มาจากตระกูลที่มีสันดานจากการโกงกิน แล้วเอาผลประโยชน์ตัวเองเป็นหลัก ไม่มีทางเข้าใจหรอก อันนี้ตนเห็นใจ แต่ขอให้เชื่อเถอะว่า บ้านเมืองนี้ยังมีคนที่พร้อมจะเอาประเทศอยู่เหนือผลประโยชน์ของตัวเอง และตนกับนายสุเทพจะพิสูจน์สิ่งเหล่านี้ต่อไป
    มีรายงานว่า ในที่ประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการหารือกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะมีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ โดยนายอภิสิทธิ์กำชับให้ ส.ส.ทุกคนอภิปรายอย่างเต็มที่ ชี้แจงถึงผลดีผลเสียที่ประเทศชาติจะได้รับ พร้อมยังวิเคราะห์อีกว่า การที่พรรคเพื่อไทยเร่งเกมเร็ว เพราะเพื่อให้คนที่จะออกมาชุมนุมคัดค้านตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งจะทำให้ม็อบจุดไม่ติด และเพื่อต้องการพิจารณาเรื่องนี้ให้จบก่อนวันที่ 11 พ.ย. ที่จะมีคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศกรณีปราสาทพระวิหาร เพราะหากมีการพิจารณาในช่วงวันที่ 6-7 พ.ย. ก็จะใกล้วันที่ 11 พ.ย.เกินไป อาจจะทำให้มีผู้ชุมนุมจำนวนมากขึ้น
"สุเทพ" เป่านกหวีดรบ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.พรรคหลายคนได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในลักษณะเดียวกัน ระบุ ได้เวลาผู้รักความเป็นธรรมออกมากู้ชาติ เสียงนกหวีดได้ดังขึ้นแล้ว พบกันที่สถานีรถไฟสามเสน ข้างโรงพยาบาลวิชัยยุทธ วันที่ 31 ต.ค. 18.00 น.
    มีรายงานด้วยว่า ในวันที่ 30 ต.ค. เวลา 10.00 น. นายสุเทพจะเป็นแกนนำแถลงข่าวจุดยืนของพรรคและการเคลื่อนไหวกิจกรรมต่างๆ ที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 7 หน้ารัฐสภา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ โดยการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะทำในนาม ส.ส.ประชาธิปัตย์ ไม่ใช่มติพรรค
    นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รองหัวหน้าภาคจะลาออกจากรรมการบริหารพรรค 4 คน คือตนเอง, นายกรณ์ จาติกวณิช,  นายอิสสระ สมชัย, นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู เพื่อต่อสู้ในนาม ส.ส.ครั้งนี้ด้วย
    ขณะที่นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประเมินสถานการณ์การเมืองเชื่อว่า การผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบสุดซอยของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีน้ำหนักเพียงพอที่จะปลุกประชาชนที่เคยเบื่อหน่ายความขัดแย้งหรือกลุ่มไทยเฉย ออกมาร่วมขับไล่รัฐบาล จากที่เคยกระจัดกระจายไม่เป็นเอกภาพ อาจจะจุดติดเหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516
    นายพิภพเชื่อว่า รัฐบาลจะเร่งรัดผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 11 พ.ย. เพราะกลัวว่าหากศาลโลกอ่านพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารแล้วเกิดไทยเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เสียดินแดน จะกลายเป็นเงื่อนไขให้ทหารออกมาแสดงท่าทีบางอย่างทันที
    "ขอเตือนรัฐบาลอย่าประมาทพลังของประชาชน วันนี้คนที่ไม่พอใจในการบริหารประเทศของนายกฯ มีจำนวนมาก และพร้อมที่จะออกมาเคลื่อนไหว ซึ่งนอกจากภาคประชาชนแล้ว พรรคประชาธิปัตย์อาจจะร่วมต่อสู้ด้วยการลาออกจากการเป็น ส.ส.แล้วลงมาร่วมต่อสู้กับประชาชนอย่างเต็มตัว จะทำให้การเคลื่อนไหวมีพลังมากขึ้น” อดีตแกนนำพันธมิตรฯ กล่าว 
    วันเดียวกัน องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมกับสมาชิกองค์กรในภาคธุรกิจ การเงินและการลงทุน เข้ายื่นหนังสือแถลงการณ์ต่อองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพื่อเรียกร้องให้ตระหนักถึงกรณี ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมความในมาตรา 3 มีเจตนาและมุ่งหมายที่จะลบล้างให้คดีทุจริตคอร์รัปชันถูกเพิกถอนไปทั้งหมด พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามอนุสัญญาขององค์การสหประชาชาติเพื่อการต่อต้านการทุจริตที่รัฐบาลเคยให้สัตยาบันไว้ โดยนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า โกงไม่ใช่หน้าที่ เป็นการทุจริตของบุคคล นิรโทษกรรมให้ไม่ได้
    ส่วนแยกอุรุพงษ์ เครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ยังคงชุมนุมกันตามปกติ โดยนายอุทัย ยอดมณี แกนนำ คปท. แจ้งของดแถลงข่าวเพื่อหารือกับแกนนำและที่ปรึกษาในการเตรียมยกระดับการชุมนุม และติดตามกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้นัดพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วาระ 2 ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ จึงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์การต่อสู้.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น