ฐานเศรษฐกิจ แฉชัดๆ !! ข้าวถุง "ถูกใจ" ค้างสต็อก 73 ล.ถุง ม็อดยั้วเยี้ย -ลือ เล็งแจกน้ำท่วม ???
พบ ข้าวถุง "ถูกใจ" หมดสภาพเนื่องจากมีม็อดไต่ยั้วเยี้ยไปหมด โดยโครงการนี้ยุบมา 8 เดือนแล้ว กลับพบข้าวค้างสต็อกถึง 73 ล้านถุง ??? -วงในชี้ เตรียมแจกจ่ายไปให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ??? วันนี้ ( 2 ต.ค.56) หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ รายงานว่า ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังกลางแห่งหนึ่งที่ใช้เก็บสต๊อกข้าวถุงยี่ห้อ "ถูกใจ" ย่านจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 พบข้าวถุงกองมหึมาจำนวนกว่า 1 หมื่นถุงบรรจุถุงขนาดใหญ่ 50 กิโลกรัม ตั้งเรียงซ้อนกันสูงเกือบท่วมโกดัง และต้องตกตะลึงเมื่อสังเกตพบตามข้างถุงจะมีมอดตัวเล็กๆ สีดำ ไต่ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด เมื่อนำข้าวมาแกะถุงข้างในพบแต่ละถุงมีตัวมอดเต็มไปหมด ส่วนเมล็ดข้าวเริ่มมีสีขุ่นออกแกมเหลืองอย่างเห็นได้ชัด และยังมีฝุ่นผงข้าวที่เกิดจากมอดแมลงกัดกิน จากการสอบถามเจ้าหน้าที่เฝ้าโกดังได้รับคำชี้แจงว่า ข้าวดังกล่าวเก็บไว้นานพอประมาณโดยมีการบรรจุถุงตั้งแต่กลางเดือนมกราคม 2556 เพื่อรอส่งให้ตามคำสั่งขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ซึ่งการดูแลรักษาให้มีคุณภาพคงเดิมทำได้ค่อนข้างยาก เพราะข้าวบรรจุซ้อนกันถึง 2 ชั้น ชั้นแรก เป็นถุงขนาดใหญ่น้ำหนักรวม 50 กิโลกรัม ส่วนชั้นที่สองยังมีข้าวบรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัมบรรจุอยู่ภายในอีก ดังนั้นพอรมยาจะไม่ถึงมอดและแมลง ส่วนการรมยาจะทำทุก 3 เดือน และเว้น 3 เดือน ทำให้ข้าวที่เห็นเสื่อมคุณภาพแล้ว แต่ก็ยังสามารถนำไปหุงเพื่อรับประทานได้
ต่อเรื่องนี้แหล่งข่าววงการโรงสี กล่าวให้ความเห็นว่า เป็นธรรมดาข้าวที่เก็บไว้ ย่อมต้องเสื่อมคุณภาพตามกาลเวลา ดังนั้นจะต้องจัดการอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่แล้ว ไม่สามารถที่จะจำหน่ายได้ปกติ เพราะถ้าไปจำหน่ายอาจจะมีเสียงร้องเรียนจากผู้บริโภค เพราะคุณภาพข้าวจะต่ำกว่ามาตรฐานที่จำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วไปในตลาดกว่า 73 ล้านถุงค้างโกดัง
ก่อนหน้านี้นายสมศักดิ์ วงศ์วัฒนศานต์ รองผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้ไปชี้แจงกับ พล.ต.ท. ยุทธนา ไทยภักดี ประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามตรวจสอบการระบายข้าว ในคณะกรรมการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ว่า ณ วันที่ 31 กรกฎา คม 2556 โรงสีผู้ปรับปรุงคุณภาพข้าวและบรรจุถุง ทั้ง 7 ราย ประกอบด้วย บริษัท เจียเม้ง จำกัด (บจก.) บจก.สิงห์โตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่น บจก.นครหลวงค้าข้าว ห้างหุ้นส่วนจำกัดโชควรลักษณ์รุ่งเรืองกิจ บจก.นครสวรรค์ค้าข้าว บจก.พงษ์ลาภ และบจก.เอเซียโกลเด้นไรซ์ ได้มีการเบิกข้าวไปปรับปรุงแล้วรวมปริมาณ 5.9 แสนตัน
โดยในจำนวนนี้จ่ายเป็นค่าจ้างโรงสีผู้ปรับปรุงข้าว 5.7 หมื่นตัน (มีทั้งค่าจ้างหักจากปริมาณรวมของข้าวสารที่ได้รับอนุมัติให้นำไปบรรจุถุง/ค่าจ้างเบิกต่างหากจากปริมาณรวมของข้าวสารที่ได้รับอนุมัติให้บรรจุถุง) บรรจุถุงแล้วจำนวน 2.6 พันตัน และยังไม่บรรจุถุง 4.9 แสนตัน ขัดแย้งกับคำชี้แจงก่อนหน้าเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2556 ว่ามีปริมาณข้าวที่อยู่ในกระบวนการผลิตข้าวบรรจุถุงจำนวน 3.66 แสนตัน (คิดเป็นข้าวถุงจำนวน 73 ล้านถุง) ยังเหลือข้าวในสต๊อกที่ยังไม่ได้นำมาปรับปรุงและบรรจุถุงอีก 1.5 ล้านตัน
ขณะที่ พล.ต.ท.ยุทธนา กล่าวว่า สต๊อกข้าวของ อคส.ที่มาชี้แจงในแต่ละครั้งนั้นไม่เคยตรงกันเลย ขณะที่โรงสีรับปรับปรุงข้าวเบิกข้าวเท่าไรแล้ว ในฐานะเจ้าหน้าที่ อคส.เป็นคนเฝ้าโกดังกลางไม่ทราบ ถือเป็นเรื่องน่าแปลก ทำงานหละหลวมมาก ดังนั้นมองว่าข้าวที่หายไปไม่ต่ำกว่า 4 แสนตัน หากคิดเป็นข้าวถุงตกราว 80 ล้านถุง ที่ตกไปอยู่ในมือของบริษัทใหญ่ๆ ซึ่งคาดว่าจะนำไปขายต่อเพื่อทำกำไรหมดแล้ว แล้วค่อยซื้อข้าวคุณภาพต่ำจากโรงสีที่รับจ้างปรับปรุงข้าว นำข้าวคุณภาพต่ำราคาถูกมาคืนรัฐบาล
จ่อโละสต๊อกช่วยน้ำท่วม
จ่อโละสต๊อกช่วยน้ำท่วม
แหล่งข่าววงในองค์การคลังสินค้า (อคส.) ให้ข้อมูลว่า ข้าวบรรจุถุงที่อยู่ในมือโรงสีทั้งหมดกว่า 3 แสนตัน หรือราว 73 ล้านถุง นั้น ทางอคส.มีแนวคิดที่จะนำข้าวล็อตดังกล่าวไปบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั้งหมด เพราะข้าวดังกล่าวไม่สามารถจำหน่ายได้ปกติ แต่ยังสามารถรับประทานได้ โดยจะมอบให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไปแจกจ่ายแก่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน คาดว่าทาง อคส.จะชงเรื่อง เสนอคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวในเร็วๆ นี้
ขณะเดียวกันนางปิยะนุช สัมฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท นิ่มซี่เส็งขนส่ง 1988 จำกัด อดีตบริษัทรับส่งมอบข้าวสารบรรจุถุงลดค่าครองชีพผู้บริโภคทั่วประเทศ ในโครงการร้านถูกใจ ของกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ปัจจุบันทางบริษัท ยังมีข้าวถุง "ถูกใจ" ของ อคส. กว่า 1 หมื่นถุง เก็บไว้บางส่วน เนื่องจากโครงการได้ปิดลงเมื่อเดือนมีนาคม 2556 ขณะนี้กำลังรอคำสั่งว่าจะให้จัดส่งหรือมอบหมายให้ใครมารับข้าวถุงล็อตนี้ ได้เก็บข้าวถุงไว้เป็นอย่างดี โดยเก็บไว้ในห้องที่มีหลังคาปิด และใส่กุญแจไว้
ขณะที่นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า โดยข้อเท็จจริงแล้ว ข้าวถุงที่มีมอดแมลง สามารถนำกลับมาบริโภคได้ โดยการผ่าถุงแล้วนำไปอบยาและปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน หลังจากนั้นพักสารตกค้างไว้อีก 48 ชั่วโมง แล้วนำไปขัดสีใหม่ก็สามารถบรรจุถุงใหม่นำกลับมารับประทานได้
จับตาซ้ำรอยเดิม
ขณะที่นายปราโมทย์ วานิชานนท์ อดีตคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ริเริ่มโครงการข้าวถุงราคาประหยัดใหม่ (ขนาด 5 กิโลกรัม ราคาเพิ่มเป็น 85 บาท) ยี่ห้อ "รวมใจ" โดยจะจำหน่ายในร้านโชว์ห่วย โชว์สวย ร้านถูกใจ และโครงการธงฟ้า มองว่า คงไม่ต่างจากโครงการข้าวถุงถูกใจ เพียงแค่เปลี่ยนชื่อ สร้างภาพลักษณ์ใหม่เท่านั้น แต่วิธีการคงเอื้อให้เอกชนบางรายที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย
นอกจากนี้เขายังอธิบายเพิ่มเติมว่า จากการศึกษาและติดตามในคณะกรรมาธิการฯ ชุดของพล.ต.ท.ยุทธนานั้น หากจะทำให้ข้าวถึงมือผู้บริโภคโดยที่เอกชนหรือโรงสีผู้ปรับปรุงข้าวบรรจุถุง ไม่แอบนำข้าวลักลอบออกไปขายและไม่มีการทุจริตนั้น เสนอให้มีการเปิดซองเงื่อนไขการประมูล(ทีโออาร์)อย่างเปิดเผย และมอบหมายให้โรงสีในแต่ละพื้นที่เป็นผู้ปรับปรุงและบรรจุถุงจากนั้นให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน และมีอบต. ร่วมกันรับผิดชอบนำข้าวไปมอบให้ถึงมือผู้บริโภคจากที่ผ่านมาการทำงานหละหลวมเอื้อผลประโยชน์ให้กับเอกชนมากไป
สอดรับกับแหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว ที่กล่าวถึงจุดได้เปรียบ-เสียเปรียบของโรงสีที่เข้ามาประมูลข้าวถุงล็อตใหม่จำนวน 2 แสนตันนั้น เนื่องจากมีข่าวว่า โรงสีผู้ปรับปรุงข้าวบรรจุถุง ถูกใจ ทั้ง 7 ราย เดิมพร้อมที่จะลงประมูลข้าวถุง รวมใจ นั้นจะมีความได้เปรียบ เพราะ 1. มีข้าวส่วนที่เหลืออยู่ในคลังรัฐบาลแล้ว อาจจะลดราคาให้ในราคาต่ำกว่าได้ เพราะไม่ต้องคิดค่าขนส่ง 2.ผู้ประกอบการรายใหม่ คาดว่าจะมีเข้ามา แต่ก็น่าจะเสียเปรียบเรื่องค่าขนส่ง อาจจะต้นทุนสูงกว่า อย่างไรก็ดีการเปิดประ มูลครั้งนี้ พิจารณาจากทีโออาร์ ที่อคส.ประกาศแล้ว พบว่ายังคล้ายกับของเดิมที่เปิดช่องให้ทุจริต ข้าวไม่ถึงมือผู้บริโภค
หวั่นครหาสั่งเลื่อนประมูล
ด้าน นางชลิดา ดินอุดม ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า(อคส.)กล่าวว่า ล่าสุดได้ยกเลิกประกาศ ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 ขององค์การคลังสินค้า ฉบับลงวันที่ 20 กันยายน 2556 เรื่อง การจัดหาผู้ประกอบการรับจ้างปรับ ปรุงข้าวสารบรรจุถุงโครงการข้าวสารบรรจุถุงเพื่อเสริมสร้างศักยภาพผู้ประ กอบการค้าปลีกค้าส่งและลดค่าครองชีพผู้บริโภค(ข้าวถุงรวมใจ) 5 กิโลกรัม จำนวน 2 แสนตัน และยกเลิกประกาศการซื้อขายกับผู้จำหน่ายและจัดส่งข้าวสารในโครงการข้าวสารบรรจุถุง เพื่อเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งและลดค่าครองชีพผู้บริโภค (ข้าวถุงถูกใจ) เนื่องจากว่าเงื่อนไขเกณฑ์ในการยื่นซองและเปิดซองรวมถึงการพิจารณาไม่ได้อยู่ในวันเวลาเดียวกัน โดยวันรับซอง และวันเปิดซองในข้อกำหนดเดิมคือคนละวันกัน ดังนั้นเพื่อป้องกันข้อครหาถึงความไม่โปร่งใสในการคัดเลือก อคส.จึงได้ทำการยกเลิกการเปิดรับซองไปจนกว่าจะมีการแก้ไขหลักเกณฑ์แล้วเสร็จ หลังจากนั้นก็จะลงประกาศเปิดยื่นซองใหม่ คาดว่าน่าจะสามารถเปิดยื่นซองและเปิดซองได้ภายในวันที่ 4 ตุลาคม 2556
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น