| รถไฟพุ่งชนกระบะพังยับ ตายยกครัว 4 ศพ 2 หนูน้อย ดับสยองคาที่! |
| |
 |
|
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ต.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ร.ต.ท.ประเสริฐ ด้วงเอียด พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง
ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถไฟสปรินเตอร์พุ่งชนรถยนต์กระบะ 4 ประตู มีผู้เสียชีวต 4 ศพ เหตุเกิดเป็นบริเวณถนนพาดรถไฟ บ้านคลองตรุด ช่วงระหว่างสถานีมะกอกใต้ - ชัยบุรี ท้องที่หมุ่ที่ 8 ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชวลัต เปล่งเสียง ผกก.สภ.เมืองพัทลุง พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สิงหพล หัวหน้าพนักงานสอบสวน ตำรวกองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิพัทลุงการกุศล
ในที่เกิดเหตุดังกล่าว บริเวณบนถนนพาดรถไฟ พบชิ้นส่วนรถยนต์แตกกระจายเป็นทางยาวทั่วบริเวณทางรถไฟประมาณ 200 เมตร
และบริเวณถนนไปถึงบนสะพาน พบซากรถกระบะอีซูซุ สีดำ 4 ประตู หมายเลขทะเบียน กต 5145 ตรัง สภาพพังยับเยินอยู่บนหัวสะพาน กลางสะพาน และในคลองใต้สะพาน เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อว่านายเสถียร จิตบุญ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ม.3 ต.หนองบ่อ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง คนขับรถกระบะคันดังกล่าวเสียชีวิตอยู่ในส่วนหัวบริเวณที่นั่งของคนขับ และใกล้กันพบขบวนรถไฟสปรินเตอร์ ขบวนที่ 41 สายกรุงเทพฯ - ยะลา จอดอยู่ใกล้สะพาน นอกจากนี้ ยังพบศพผู้เสียชีวิตอีก 3 คน ทราบชื่อว่า นางหนูวาด จันทร์เขต อายุ 55 ปี ภรรยานายเสถียร และมีหลานชายอายุ 3 ขวบ และหลานสาวอายุ 2 ขวบ เจ้าหน้าที่จึงได้นำขึ้นมาจากคลองใต้สะพานดังกล่าว
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายเสถียร ได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว
โดยมีนางหนูวาด ภรรยา และหลาน 2 คน มาร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคี ณ วัดปากสระ ท้องที่ ม.10 ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง หลังจากนั้นก็ได้ขับรถเพื่อเดินทางกลับบ้านที่ จ.ตรัง และขณะมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางพาดรถไฟซึ่งไม่มีแผงกั้น ก็ได้ถูกขบวนรถไฟ สปรินเตอร์ ขบวนที่ 41 พุ่งชนจนเสียงดังสนั่น และได้ลากซากรถไปจนถึงสะพานคลองตรุด จนทำให้รถยนต์เสียหาย ชิ้นส่วนรถยนต์กระจัดกระจาย และทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 4 ศพดังกล่าว
ส่วนการซ่อมแซมทางรถไฟ หลังจากที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิพัทลุงการกุศลนำศพและซากรถกระบะออกจากที่เกิดเหตุแล้ว คาดว่าจะสามารถกู้โบกี้รถรวมทั้งซ่อมแซมทางรถไฟได้ คาดว่าจะสามารถเปิดการเดินรถได้ช้าสุดค่ำวันนี้
|
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น