| สาวเอ็มเคดับอนาถ!! หลังบ่นผัวกินเหล้าเมา-เจอโดดเตะชายโครงคว่ำ |
| |
สาวเอ็มเคดับอนาถ!! หลังบ่นผัวกินเหล้าเมา-เจอโดดเตะชายโครงคว่ำ
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 27 ต.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ร.ต.ท.ระพีพงษ์ บุญพัวพันธ์ ร้อยเวร สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุหญิงถูกทำร้ายเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณสนามหญ้า ด้านหน้าอาคาร 42 โครงการบ้านเอื้ออาทรสุวรรณภูมิ 1 ถ.วัดศรีวารีน้อย ต.ศีรษะจระเข้ใหญ่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมศักดิ์ชัย อมรส่งเจริญ ผกก.สภ.บางเสาธง พ.ต.ท.สมปอง ศรีเพชร หัวหน้าพนักงานสอบสวน พ.ต.ต.ปราการ จงประสิทธิ์ สว.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.ณัฐจิญาภรณ์ สุคนธ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 ม.6 ต.กุดเลา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ สวมชุดพนักงานของร้านเอ็มเคสุกี้ สภาพศพชายโครงทั้งซ้ายและขวาบวมช้ำ ใกล้กันพบ นายเรืองสันต์ ขุนประดิษฐ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 163 ม.7 ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี สามีของผู้ตายยืนรอมอบตัวกับตำรวจอยู่
นายเรืองสันต์ ให้การว่า ตนเองมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ส่วนภรรยาทำงานเป็นพนักงานของร้านเอ็มเคสุกี้ สาขาพาซิโอ อยู่กินกันมาแล้ว 5 ปี ภายในห้องเลขที่ 243/5 อาคาร 42 บ้านเอื้ออาทรสุวรรณภูมิ 1 ยังไม่มีลูกด้วยกัน ตนเองกับภรรยามักมีปากเสียงกันเป็นประจำ เพราะภรรยามักบ่นเวลาที่ตนเองดื่มสุรา ก่อนเกิดเหตุ ตนตั้งวงดื่มสุรากับเพื่อนๆ ที่ร้านค้าหน้าปากซอยตามปกติ กระทั่งมึนเมาจึงกลับห้อง เมื่อไปถึงภรรยาก็บ่นหาว่าตนเองทำงานหาเงินมาได้เท่าไหร่ ก็นำไปซื้อสุรากินจนหมด ทำให้ตนโมโหจัด จึงเตะชายโครงเมียไป 3-4 ที จนเมียล้ม
จากนั้นตนเองได้หายาหม่องมาทาให้เมีย แต่เมียก็ยังไม่ฟื้น ตนเองจึงอุ้มเมียออกมานอกห้อง เพื่อจะนำส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อถึงสนามหญ้าหน้าอาคารก็พบว่าภรรยาได้เสียชีวิตแล้ว ตนเองจึงสำนึกผิดยืนรอมอบตัวกับตำรวจ
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า อวัยวะภายใน ปอดตับ ของน.ส.ณัฐจิญาภรณ์ คงฉีกขาดจากการที่ถูกสามีเตะ เป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งทางตำรวจได้ทำการควบคุมตัวนายเรืองสันต์ ไปดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตาย ส่วนศพ น.ส.ณัฐจิญาภรณ์ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งชันสูตร ที่สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป |
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น